เอเอฟพี – ถ้าเอ่ยถึงพวกที่คลั่งไคล้โอลิมปิก 2008 ชนิดเป็นบ้าเป็นหลังแล้ว ก็ต้องรวมกระทาชายนายนี้เข้าไว้ด้วย เขาคือ ซุน ติ้งกั๋ว หนุ่มเลือดมังกร อายุอานาม 30 ปี ผู้ยอมพลีให้ได้แม้แต่ชีวิตและร่างกายเพื่อ“ปักกิ่งเกมส์”
เขาเป็นคนพวกที่ ในจีนพากันเรียกว่า “คนบ้าโอลิมปิก” หลังจากเมื่อปีที่แล้ว ซุนยอมทิ้งอาชีพถีบสามล้อเลี้ยงชีวิต หันมาทุ่มสุดตัวในฐานะประชาสัมพันธ์กีฬาโอลิมปิก ที่ประธานาธิบดีหูจิ่นเทาไม่ได้เชื้อเชิญ โดยปั่นสามล้อไปทั่วประเทศ ซึ่งใช้เวลานานเกือบหนึ่งปี
พองานสำคัญที่สุดในชีวิตสำเร็จลุล่วง ซุนก็ให้รางวัลตัวเองด้วยการเอาเนื้อหนังมังสาของตนไปรองรับมีดสัก เพื่อฝังรอยจารึกเกี่ยวกับโอลิมปิกไว้บนร่างกาย ซึ่งสักไปแล้วทั้งหมด 36 รูป
“ผมทิ้งงาน ทิ้งความฝันทุกอย่าง ทิ้งโอกาสมีแฟนด้วยนะ” ว่าแล้วก็หันไปชื่นชมสโลแกน“One world, One Deam” ที่เป็นรอยสักหราอยู่บนหน้าท้อง โดยฝีมือร้านสักในกรุงปักกิ่ง
“ผมยอมทิ้งทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องการสนับสนุนจิตวิญญาณของโอลิมปิก โดยมีความคิดเพียงอย่างเดียวอยู่ในหัว มิเช่นนั้น ผมคงไปไม่ถึงเป้าหมาย”
ซุนเริ่มบ้าสักรอยสักมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี2544 เมื่อจีนได้รับการตัดสินให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับโลก ฉะนั้น จึงไม่แปลก ที่ตอนนี้ ร่างกายของซุนดูเหมือนแผ่นกระดานเดินได้ เป็นกระดานที่เล่าบรรยายเกี่ยวกับสัญลักษณ์ของกีฬาประเภทต่าง ๆ ในบรรดารอยสักเหล่านี้ มีโลโก้โอลิมปิกของจีน และ ‘Beijing 2008’ รวมอยู่ด้วย
ซุน ซึ่งอาศัยในมณฑลเจ้อเจียงทางภาคตะวันออกของจีน ตระเวนถีบสามล้อไปหลายมณฑล เพื่อรวบรวมลายเซ็นของผู้สนับสนุนปักกิ่งเกมส์
เขาเป็นหนึ่งใน“คนบ้าโอลิมปิก” หลาย ๆ คน ที่สละแล้วทุกอย่าง เพื่อหันมาทำสิ่งที่จะเรียกร้องความสนใจจากผู้คนในช่วงที่การแข่งขันใกล้จะเปิดฉาก
ชายคนหนึ่งถึงขนาดยอมปักเข็มแหลม ๆ จึ๊กลงไปบนศีรษะ,ใบหน้า, มือ และหน้าอก รวมสุทธิ 2008 เล่ม เพื่อเป็นการเตือนใจให้นึกถึงเหตุการณ์นั้น
ส่วนชายอีกคนลงทุนตั้งหน้าตั้งตาเดินเป็นระยะทางไกล 40,000 กิโลเมตร พี่ท่านเหยียบย่างไปทุกมณฑล โดยมีกรุงปักกิ่งเป็นเป้าหมายสุดท้าย เพื่อเข้าร่วมชมการแข่งขัน ซึ่งรายงานข่าวมิได้แจ้งว่า เขาได้ตั๋วฟรีรึเปล่า
ทว่าสำหรับซุนแล้ว ไม่เหมือนกับคนอื่น การพร้อมยอมพลีของเขาเป็นสิ่งจีรังยั่งยืน เขาตัดผมเป็นรูป 5 วงแหวนโอลิมปิก โดยย้อมเป็นสีของมหกรรมกีฬา และผมก็มีวันยาวขึ้น แต่รอยสักทั้ง 36 รอยนั้น ไม่มีวันลบเลือน
“ในฐานะพลเมืองจีนธรรมดาคนหนึ่ง ผมอยากถ่ายทอดความรู้สึกเบิกบานยินดี อยากบอกมิตรสหายทั่วโลกว่า จิตวิญญาณแห่งโอลิมปิกคืออะไร” ซุนอธิบาย
เมื่อสิบเดือนก่อน ซุนออกเดินทาง เพื่อทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ โดยมีเงินอยู่ในกระเป๋าแค่ 200 หยวน หรือประมาณ 30 ดอลลาร์ คนบ้าโอลิมปิกปั่นสามล้อผ่าน 45 เมืองใน 5 จังหวัด โน้ตบุ๊กบันทึกประจำวัน 13 เล่มเต็มไปด้วยลายเซ็นผู้สนับสนุนมากมายถึง 3 แสนชื่อ ซึ่งเขาตั้งใจมอบให้แก่ผู้จัดโอลิมปิก
ซุนมีชีวิตอยู่ได้ด้วยความเอื้ออารีของคนแปลกหน้า ที่ให้ข้าวให้น้ำ พอตกกลางคืนก็อาศัยนอนพักผ่อนภายในเนื้อที่แคบ ๆ ตรงด้านหลังรถสามล้อ
ทางครอบครัวไม่เห็นด้วยกับความคิดของซุน บอกว่าเขาควรสร้างหลักฐาน และแต่งงานแต่งการเสียที แต่ซุนตอบว่าเขารักโอลิมปิกจนไม่เหลือความรักเพื่อให้ใครอีกแล้ว
“ผมต้องการฝึกฝน และทดสอบตัวเองผ่านความยากลำบากและความขยันหมั่นเพียร และเพื่อท้าทายตัวเอง ผมคิดว่า นี่แหละคือจิตวิญญาณของโอลิมปิก”
เมื่อรถสามล้อของคนบ้าโอลิมปิกถีบมาถึงเมืองหลวงแห่งแดนมังกร สีสันละลานตาของรถ ที่ละเลงตั้งแต่ล้อไปจนถึงหลังคาด้วยรูปภาพเกี่ยวกับโอลิมปิก ก็โดนใจผู้คนบนท้องถนน จนต้องร้องเรียกให้หยุด
พอจอดรถ ซุนจะตะโกนร้องเพลงแร็ป ที่เขาบรรจงแต่งขึ้นเองระหว่างทางให้ใครก็ได้ที่จะฟัง ซุนจะใส่อารมณ์ไปในเพลงอย่างออกรสชาติเต็มที่
“ศิลปะเค้าไม่ได้เลอเลิศอะไรนัก แต่สติปัญญาซิ สูงมาก มันมาจากหัวใจเลยละ” หญิงคนหนึ่งให้ความเห็น หลังจากแวะชมสมบัติรถสามล้อของคนบ้าโอลิมปิก ซึ่งประดิษฐ์ตกแต่งอย่างลวก ๆ แต่พิลึกึกกือดี แล้วหล่อนก็ตะโกนร้องเพลงตาม