เอเชียน วอลล์สตรีท เจอร์นัล – พิว รีเสิร์ช เซ็นเตอร์ (Pew Research Center) ได้รายงานผลการสำรวจครั้งใหญ่ ซึ่งระบุว่าชาวจีนในเมืองส่วนใหญ่นั้นมีความยินดีกับเศรษฐกิจการเมืองในประเทศที่ประสบความสำเร็จ คนจีนมีความพอใจต่อประเทศตนมากกว่าประเทศอื่น และมีไม่น้อยที่เชื่อว่าตนเองกำลังจะกลายเป็นมหาอำนาจแทนที่สหรัฐฯ
โดยการสำรวจของพิว รีเสิร์ชในครั้งนี้ พบว่า 82% ของชาวจีนที่รับการสำรวจระบุว่า เศรษฐกิจของจีนหลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์ได้ปฏิรูปและเปิดกว้างมาเป็นเวลา 30 ปีนั้นเป็นไปในทางที่ดี โดยอีก 86%ที่ตอบแบบสำรวจระบุว่าพอใจกับแนวทางที่รัฐบาลใช้ในการนำพาประเทศ
ในประเด็นความพอใจในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ของการสำรวจระดับโลกของพิว รีเสิร์ชพบว่า ชาวจีนมีความพอใจในประเทศของตนทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างออสเตรเลียไปมากถึงเลข 2 หลัก ในขณะที่สหรัฐฯถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 20 จาก 24 ประเทศที่ทำการสำรวจ โดยชาวอเมริกันที่พอใจในเศรษฐกิจของประเทศมีเพียง 20% และพอใจในการเมือง 23% ซึ่งผลการสำรวจความพอใจของชาวจีนในปีนี้ ยังเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดตั้งแต่กองทุนพิวได้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2001
ผลสำรวจในครั้งนี้ยังได้สะท้อนให้เห็นความแตกต่างอย่างมากของสายตาที่ชาวจีนกับชาวต่างชาติมองประเทศจีน มีชาวจีนจำนวนมากคิดว่า ประเทศจีนมีความเจริญและอิสระมากกว่ายุคใดๆที่เคยมีมา ในขณะที่ชาวตะวันตกที่วัดประเทศจีนจากมาตรฐานของตน กลับโฟกัสไปที่ว่าประเทศจีนมีปัญหาเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชนกับความไม่เท่าเทียมกันในสังคมมาช้านาน
คุณฮั่น พริสซี่ นักวิเคราะห์ธุรกิจยานยนต์วัย 26 ปีในปักกิ่งได้เปิดเผยว่า เมื่อก่อนเธอเองก็เคยคิดทีจะไปแสวงหาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าในประเทศตะวันตก เช่นการได้สวัสดิการรักษาพยาบาลที่ดีกว่า แต่ว่าตอนนี้ก็ยกเลิกความคิดนี้ไปแล้ว “ฉันคิดว่าโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในจีนมีมากกว่าการไปอยู่ในประเทศอื่น”
ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน ได้เติบโตในเลขสองหลักมาหลายปี สิ่งนี้เองที่เป็นตัวผลักด้านภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของประชาชน มีคนหลายร้อยล้านคนที่สามารถพ้นจากสภาพยากไร้มาได้ และแม้ว่าเศรษฐกิจจีนในปีนี้จะมีแววชะลอตัวลงบ้าง ทว่าในครึ่งปีแรกเศรษฐกิจจีนก็ยังเติบโตถึง 10.4% ซึ่งโดดเด่นกว่าปลายๆประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจเหมือนๆกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลการสำรวจภาพรวมจะเป็นไปในด้านที่ดี ทว่าประชากรจีนก็ยังมีสิ่งที่ยังกังวลอยู่ โดยสะท้อนผ่านผลการสำรวจความพอใจในด้านการงาน ชีวิตครอบครัวและรายได้ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผลงานของรัฐบาลจีนในด้านการผลักดันเศรษฐกิจนั้นเห็นได้อย่างเด่นชัด ทว่าการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของชาวจีนนั้นยังไม่เห็นภาพมากเพียงพอ
การสำรวจนี้เป็นเพียงตัวแทนความเห็นของชาวจีนที่อยู่ในเมือง ซึ่งรัฐบาลจีนเองเคยระบุว่า คนจีนกว่าครึ่งยังใช้ชีวิตอยู่ในชนบท ที่ยังมีรูปแบบชีวิตความเป็นอยู่ที่ยังไม่ดีนัก ซึ่งในปีที่ผ่านมา รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรในชนบทของจีนอยู่ที่ปีละ 606 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งยังไม่ถึง 1 ใน 3 ของประชากรในเมือง
โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่เงินเฟ้อได้กลายเป็นปัญหาระยะยาวสำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้ตอบแบบสำรวจหลายคนยังมีความเป็นห่วงต่อต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่วนปัญหาที่มีการพูดถึงส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการทำงาน มลพิษ และการคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ
นอกจากนั้นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตคือ มีชาวจีนไม่น้อยที่รู้สึกเป็นห่วงต่อชื่อเสียงของจีนในเวทีโลก หลังจากที่มีปัญหาเรื่องการจลาจลในทิเบตกับปัญหาที่การวิ่งคบเพลิงพบเจอกับการประท้วงในหลายๆที่ ทำให้หลายเดือนที่ผ่านมาชื่อเสียงของจีนถูกโจมตีไม่น้อย แต่แม้จะมีเรื่องเหล่านี้ แต่ความเชื่อมั่นว่าจีนจะได้รับการต้อนรับในต่างประเทศก็มีมากถึง 77% ในขณะที่เมื่อปี 2005 นั้นผลสำรวจอยู่ที่ 68% นอกจากนั้นยังมีอีก 60%ที่เชื่อว่าจีนกำลังจะกลายเป็นประเทศมหาอำนาจแทนที่สหรัฐฯแล้ว