ซินหัวเน็ต – จับกุมชายจีนฉวยโอกาสเข้าบุกค้นขโมยของมีค่าในซากบ้านของชาวบ้านเมืองซื่อฟัง มณฑลเสฉวน ศาลลงโทษจำคุก 7.5 ปี
โดยกรณีดังกล่าวนับเป็นกรณีศึกษาคดีแรกของศาลปกครองสูงสุดจีน นับตั้งแต่เกิดธรณีไหวในมณฑลเสฉวน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งได้ตัดสินให้นายเหมา ฟังหลินรับโทษจำคุกเป็นเวลา 7.5 ปี เนื่องจากตำรวจลาดตระเวนพบว่า ชายดังกล่าวพยายามเข้าไปค้นหาสิ่งของมีค่า ภายในบ้านที่ถล่มลงมาของชาวบ้านในเมืองซื่อฟัง
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายเหมาพยายามได้พยายามเลี่ยงการจับกุม และหอบเอาพร้อมเงินสดจำนวน 2,111 หยวน โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง กล้องถ่ายรูปดิจิตอล 2 เครื่อง รถจักยานยนต์และเครื่องประดับอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสืบสวนทราบว่านายเหมา ฟังหลินเป็นชาวบ้านในเขตเกาซิ่ง เมืองเหมียนจู๋ ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดยได้เดินทางมายังเมืองซื่อฟังและลอบเข้าไปในร้านค้า,บ้านเรือนที่กลายเป็นซากและรือค้นหาสิ่งของมีค่า
อย่างไรก็ตาม ศาลสูงสุดพิจารณาได้ว่า พฤติกรรมดังกล่าวของนายเหมาเป็นการกระทำที่ผิดต่อศีลธรรม เนื่องจากลักขโมยสิ่งของของผู้ประสบภัยซึ่งถือเป็นผู้เคราะห์ร้าย แต่ทว่านายเหมากลับซ้ำเติมความโชคร้ายของบุคคลกลุ่มนี้ด้วยการลักขโมยอย่างไร้ซึ่งศีลธรรม
ทั้งนี้ ศาลสูงสุดประจำมณฑลเสฉวนได้ออกคำสั่งให้ตั้งเต็นท์ของเจ้าหน้าที่ศาลในพื้นที่ประสบภัย เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมให้กับปรึกษา หากเกิดกรณีเช่นนี้อีก
โดยกรณีดังกล่าวนับเป็นกรณีศึกษาคดีแรกของศาลปกครองสูงสุดจีน นับตั้งแต่เกิดธรณีไหวในมณฑลเสฉวน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งได้ตัดสินให้นายเหมา ฟังหลินรับโทษจำคุกเป็นเวลา 7.5 ปี เนื่องจากตำรวจลาดตระเวนพบว่า ชายดังกล่าวพยายามเข้าไปค้นหาสิ่งของมีค่า ภายในบ้านที่ถล่มลงมาของชาวบ้านในเมืองซื่อฟัง
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายเหมาพยายามได้พยายามเลี่ยงการจับกุม และหอบเอาพร้อมเงินสดจำนวน 2,111 หยวน โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง กล้องถ่ายรูปดิจิตอล 2 เครื่อง รถจักยานยนต์และเครื่องประดับอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสืบสวนทราบว่านายเหมา ฟังหลินเป็นชาวบ้านในเขตเกาซิ่ง เมืองเหมียนจู๋ ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดยได้เดินทางมายังเมืองซื่อฟังและลอบเข้าไปในร้านค้า,บ้านเรือนที่กลายเป็นซากและรือค้นหาสิ่งของมีค่า
อย่างไรก็ตาม ศาลสูงสุดพิจารณาได้ว่า พฤติกรรมดังกล่าวของนายเหมาเป็นการกระทำที่ผิดต่อศีลธรรม เนื่องจากลักขโมยสิ่งของของผู้ประสบภัยซึ่งถือเป็นผู้เคราะห์ร้าย แต่ทว่านายเหมากลับซ้ำเติมความโชคร้ายของบุคคลกลุ่มนี้ด้วยการลักขโมยอย่างไร้ซึ่งศีลธรรม
ทั้งนี้ ศาลสูงสุดประจำมณฑลเสฉวนได้ออกคำสั่งให้ตั้งเต็นท์ของเจ้าหน้าที่ศาลในพื้นที่ประสบภัย เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมให้กับปรึกษา หากเกิดกรณีเช่นนี้อีก