ไชน่าเดลี่ – ผู้ประกอบการในจีนเตรียมเก็บค่าถุงพลาสติกจากลูกค้าตั้งแต่ 0.2 หยวน- 2 หยวน ในวันที่ 1 มิ.ย. นี้ ตอบสนองนโยบายลดการใช้ถุงพลาสติก ขณะที่ทางการห้ามมิให้ร้านค้าใช้ถุงพลาสติกที่มีความหนาเกิน 0.025 มิลลิเมตร อีกทั้งงดแจกแก่ลูกค้า หากฝ่าฝืนลงโทษปรับตั้งแต่5,000- 20,000 หยวน
โดยนโยบายดังกล่าวคณะรัฐมนตรีจีนได้ประกาศผ่านเวบไซต์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ม.ค. และจะเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังในวันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย. 2551 นี้
ด้านห้างสรรพสินค้าชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศสเช่น คาร์ฟู ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกแหล่งใหญ่ในมณฑลกว่างตง(กวางตุ้ง) เผยว่า ยอดการจำหน่ายถุงพลาสติกจะเพิ่มขึ้นราว 7 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งทางห้างจะคิดราคาใบละ 0.2 หยวน
ถัง เจวียนเลขาธิการสำนักงานธุรกิจแฟรนไชส์ในกว่างโจว เผยจุดบอดในการดำเนินตามนโยบายคือการควบคุมการกำหนดราคาถุงพลาสติกของห้างร้านและซุปเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละแห่งกำหนดราคาแตกต่างกันออกไป เช่น ราคาถุงพลาสติกราคาเพียงแค่ 0.15 หยวน แต่ทางซุปเปอร์มาร์เก็ตจะเรียกเก็บในอัตราใบละ 0.2 หยวน
ซึ่งขณะนี้พบว่าถุงพลาสติกไซส์ใหญ่ของห้างจัสโก ในเมืองกว่างโจว มีราคาแพงที่สุดซึ่งพบว่ามีการจำหน่ายถึงใบละ 2 หยวน(ราว 9.28 บาท)
อย่างไรก็ตาม แม้ในประกาศของทางการจีนระบุให้ห้างร้านและซุปเปอร์มาร์เก็ตต้องทำการปิดป้ายราคาที่ถุงพลาสติกแสดงให้ลูกค้าสังเกตได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกับราคาสินค้า หรือไม่อย่างนั้นจะต้องเสนอถุงผ้าเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับลูกค้า
ถึงกระนั้นจากการสอบถามผู้บริโภคตามเมืองใหญ่ของจีน เช่นในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางตุ้ง ก็มีเสียงโอดครวญว่าราคาถุงพลาสติกที่จำหน่ายอยู่ขณะนี้มีราคาสูงเกินไป ซึ่งชาวจีนบางรายก็เตรียมหันมาใช้ถุงผ้าหรือวัสดุอย่างอื่นแทน เพื่อเลี่ยงการจ่ายเพิ่มนอกเหนือจากราคาสินค้า
ทั้งนี้จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้ถุงพลาสติกของชาวจีน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมผลิตถุงพลาสติกเผยในแต่ละวันชาวจีนมีการบริโภคถุงพลาสติกกว่า 1,000 ล้านใบต่อวัน หากมีการบังคับใช้นโยบายนี้สำเร็จ สำนักงานฯเชื่อว่าจะช่วยลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรและมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้มาก