买 อ่านว่า ใหม่ แปลว่า ซื้อ
椟 อ่านว่า ตู๋ แปลว่า กล่อง
还 อ่านว่า หวน แปลว่า คืน
珠 อ่านว่า จู แปลว่า ไข่มุก
ชาวรัฐฉู่ผู้หนึ่ง มีไข่มุกเม็ดงามอยู่ในครอบครอง วันหนึ่งเขาวานแผนที่จะนำไข่มุกนั้นไปขาย แต่เพื่อที่จะขายให้ได้ราคาดี จึงคิดที่จะนำไข่มุกบรรจุหีบห่อที่สวยงาม เพราะเขาเชื่อว่าหากอยู่ในหีบห่อที่งดงามเพียงใด มูลค่าของไข่มุกก็น่าจะเพิ่มขึ้นเพียงนั้น
เจ้าของไข่มุกลงทุนเชิญช่างฝีมือดีมาเพื่อประดิษฐ์กล่องไข่มุกชั้นเลิศ ทั้งยังนำบรรดาไม้หอม บุหงามาอบร่ำเพื่อให้กล่องมีความหอม จากนั้นจึงแกะสลักรูปดอกไม้ไว้รอบกล่องเดินเส้นลายทองโดยรอบ ดูแล้วช่างเป็นงานฝีมือที่งดงามมาก เมื่อตกแต่งกล่องจนเป็นที่พอใจ เขาจึงนำไข่มุกใส่ลงไปและเดินทางเข้าเมืองเพื่อนำไข่มุกไปจำหน่าย
เมื่อไปถึงตลาดไม่นานนัก กล่องไข่มุกแสนสวยพาให้ผู้คนต่างพากันมาหยุดชมดู ในตอนนั้น ชาวรัฐเจิ้งผู้หนึ่งแสดงท่าทางสนใจเป็นพิเศษ เขายกกล่องขึ้นพิจราณาดูเป็นเวลานาน สุดท้ายก็ขอซื้อกล่องที่บรรจุไข่มุกอยู่ภายในไปในราคาสูงยิ่ง เมื่อรับของและจ่ายเงินเรียบร้อยเขาจึงถือกล่องไข่มุกเดินทางกลับบ้านด้วยความยินดี
ทว่าเดินทางออกจากร้านไปไม่นานนัก ชาวรัฐเจิ้งคนเดิมก็กลับมา ชาวรัฐฉู่เจ้าของไข่มุกนึกว่าเขารู้สึกเสียดายเงินที่เสียไปและจะนำของกลับมาแลกเงินคืน แต่ยังไม่ทันได้กล่าวอันใด ชาวรัฐเจิ้งก็เปิดกล่องใบนั้นออกมา หยิบไข่มุกเม็ดงานนั้นส่งคืนให้ชาวรัฐฉู่ พร้อมทั้งกล่าวว่า "ท่านลืมไข่มุกไว้ในกล่อง 1 เม็ด ข้าเลยนำกลับมาคืนให้" เมื่อส่งไข่มุกคืนเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินทางกลับพลางชื่นชมกล่องอันสวยงามไปตลอดทาง
ชาวรัฐฉู่รับไข่มุกคืนมาด้วยความงุนงง รู้สึกหัวร่อไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ เนื่องจากตั้งแต่ต้นเขาคิดว่าผู้อื่นยอมจ่ายเงินราคาสูงยิ่งเนื่องเพราะไข่มุกเม็ดนี้ โดยไม่คิดว่ากล่องที่งดงามเกินไปจะทำให้ผู้อื่นมองข้ามมูลค่าของสิ่งที่อยู่ข้างใน
ด้านชาวรัฐเจิ้งที่ซื้อกล่องในราคาสูงแต่นำไข่มุกกลับมาคืนผู้นั้น ย่อมป็นคนที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก จนพลาดคุณค่าของสิ่งที่อยู่ภายใน
ภายหลัง สุภาษิต “ซื้อกล่องคืนมุก" ใช้เปรียบเทียบกับผู้ที่มีตาแต่หามีแววไม่ ไม่อาจแยกแยะว่าสิ่งใดมีคุณค่าที่แท้จริง สิ่งใดเป็นเพียงเครื่องปรุงแต่ง