หนังสือพิมพ์สากล / เหวินฮุ่ยเป้า – กระทรวงเกษตรจีนได้เปิดเผยว่าใน 5 มณฑลที่ประสบภัยได้มีสัตว์เสียชีวิตไปแล้วกว่า 13 ล้านชีวิต ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเริ่มหนักใจสภาพหลายพื้นที่ขาดน้ำ ขาดไฟ และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นทำให้อาจเกิดโรคระบาดได้
หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอำเภอเวิ่นชวน มณฑลเสฉวน และอาฟเตอร์ช๊อกอีกเป็นจำนวนมากตามมา เมื่อวันอาทิตย์ (18 พ.ค.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรของจีนได้เปิดเผยว่า ในมณฑลเสฉวน ฉงชิ่ง ส่านซี กันซู่ หยุนหนันได้มีสัตว์ที่เสียชีวิตเพราะภัยพิบัติไปแล้วมากกว่า 13 ล้านชีวิต โดยจากมณฑลเสฉวนเพียงแห่งเดียวก็มีสัตว์ที่เสียชีวิตไปมากถึง 12.34 ล้านตัว
นอกจากนั้น เนื่องจากมีการเสียชีวิตของสัตว์เป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการป้องกันโรคระบาดกันอย่างเข้มงวด โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันโรคระบาดจากรัสเซียได้เตือนว่า จีนควรจะมีการระวังป้องกันโรคระบาดอันอาจเกิดจากหนู ซึ่งทางรัสเซียยินดีจะให้ความช่วยเหลือจีนเกี่ยวกับวัคซีนในการป้องกันโรคดังกล่าว
ในขณะที่หนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ยของฮ่องกงได้รายงานว่า ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เตือนว่า ภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในมณฑลเสฉวนประเทศจีนนั้น จะต้องมีการเตรียมตัวด้านอนามัยให้ดี อีกทั้งจัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มที่สะอาดให้กับผู้ประสบภัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่ประสบภัยยังขาดซึ่งน้ำดื่มที่ปลอดภัย และการกอบกู้ซากปรักหักพังยังอยู่ในขั้นตอนของการจัดการอยู่ ที่พักชั่วคราวก็ยังเป็นสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างแออัด และปัจจัยเหล่านี้ง่ายแก่การทำให้เกิดโรคระบาดได้”
กระทรวงเกษตรจีนยังเปิดเผยว่า ทางกระทรวงเตรียมที่จะจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค 6 กลุ่ม จำนวน 120 คน บวกกับเจ้าหน้าที่อีก 130 คนจาก 6 มณฑลได้แก่หูหนัน หูเป่ย เจียงซู เหอหนัน กว่างตง(กวางตุ้ง) ซันตง พร้อมยาฆ่าเชื้อในภาวะฉุกเฉินกว่า 1,000 ตันเพื่อลงไปทำการฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ภัยพิบัติ
โหว เผยเซิน รองผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคระบาดแห่งชาติจีนได้เปิดเผยว่า “ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันโรคระบาดในพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว โดยเฉพาะงานจัดการกับศพและสภาพแวดล้อม เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการเจ็บป่วยหรือเกิดโรคระบาดตามมา ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงได้ระดมรถที่ใช้ในการป้องกันโรคติดต่อจำนวน 60 คันจากที่ต่างๆอาทิเจ้อเจียง มองโกเลียใน ชิงไห่ เหอหนันเข้าไปในท้องที่แล้ว”
นอกจากนั้นยังมีการส่งแพทย์เข้าไปกว่า 5,530 คน รถพยาบาลจำนวน 550 คัน รวมไปถึงเวชภัณฑ์ที่จำเป็นเข้าไปยังทุกอำเภอและหมู่บ้าน ในขณะที่ทีมแพทย์จากสถานพยาบาลนานาชาติได้เปิดเผยว่า สภาพในบริเวณภัยพิบัติ ร้ายแรงกว่าที่ปรากฏเป็นข่าวมาก จากการที่ทีมแพทย์ได้ลงไปยังตำบลซิ่วสุ่ย ฝูสุ่ยในเสฉวน พบว่าที่นั่นยังขาดน้ำ และไฟฟ้า ส่วนเสื้อผ้า ถุงมือและเครื่องมือการแพทย์บางอย่างที่ใช้รักษาโรค หลังจากที่ใช้เสร็จจะต้องห่อแล้วนำไปทิ้งจนเริ่มกองเป็นภูเขา ดังนั้นก่อนที่น้ำกับไฟจะใช้ได้ตามปกติ สภาพสุขอนามัยในท้องที่คงยากที่จะปลอดภัย
ขณะที่แพทย์จากอำเภอเถาหยวนคนหนึ่งได้ระบุว่า “ตอนนี้ทุกที่มีแต่ผู้ประสบภัยไร้ที่พึ่ง สภาพสุขอนามัยในพื้นที่แย่ลงทุกที อากาศเริ่มเน่าเหม็นและมีกลิ่นรุนแรงขึ้นทุกที”