xs
xsm
sm
md
lg

คิดจะดื่มเบียร์จีน..ต้องเบียร์ชิงเต่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แนะนำเมืองชิงเต่า

เมืองชิงเต่าอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลซันตง พื้นที่ 10,654 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 7 ล้านคน ในจำนวนนี้มีประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองราว 2.5 ล้านคน เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในมณฑลซันตง “ชิงเต่า” มีความหมายว่า “เกาะสีเขียว” เป็นเมืองชายทะเลที่สะอาด สวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นทะเลใส ท้องฟ้าคราม หรืออาคารสิ่งก่อสร้างสไตล์ยุโรปที่แต่งแต้มสีสันให้กับเกาะสวรรค์แห่งนี้ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนต่างประทับใจและเปรียบเมืองชิงเต่าว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชียตะวันออก"

ทางด้านภูมิอากาศ เนื่องจากชิงเต่าอยู่ในเขตมรสุม และรายล้อมไปด้วยทะเลทำให้มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ 13.2 องศาเซลเซียส โดยทั่วไปแล้วชิงเต่าในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคมจะเป็นช่วงที่อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 25.3 องศาเซลเซียส (ข้อมูลปี 2005)

โอลิมปิกและชาวเมืองชิงเต่า

ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก2008 ชิงเต่าได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเรือใบ ในการนี้ทางการของเมืองชิงเต่าได้ร่วมมือกันกับกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวพัฒนาการท่องเที่ยวในชิงเต่าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับกับนักท่องเที่ยวและนักกีฬาที่จะมาเยือน

กิจกรรมในเมืองชิงเต่าที่ไม่ควรพลาด

The Qingdao International Beer Festival
หรือ เทศกาลเบียร์นานาชาติชิงเต่า เริ่มแรกจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1991 โดยจะถือปฏิบัติจัดเทศกาลในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคมของแต่ละปี ซึ่งเป็นระยะเวลา 16 วัน ผู้ที่รับผิดชอบการจัดเทศกาลเบียร์ชิงเต่าได้แก่ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของจีนร่วมกันกับทางการเมืองชิงเต่า โดยมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนการท่องเที่ยว กีฬา วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ปัจจุบันได้มีการจัดเทศกาลดังกล่าวแล้วทั้งสิ้น 16 ครั้ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่ทำให้ชาวต่างชาติรู้จักเมืองชิงเต่ามากยิ่งขึ้น

ภูมิหลังของเบียร์ชื่อดังแดนมังกร

โรงเบียร์ชิงเต่าตั้งอยู่ในเมืองชิงเต่า มณฑลซันตง ภาคตะวันออกของจีน เป็นเบียร์ยี่ห้อเก่าแก่บนแผ่นดินใหญ่จวบจนวันนี้ก็มีอายุมากกว่า 100 ปี จุดเริ่มต้นของโรงเบียร์แห่งนี้ ต้องนับย้อนไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี 1903 โรงงานผลิตเบียร์ก่อตั้งขึ้นด้วยการทุ่มเงิน 400,000 มาร์คของพ่อค้าชาวเมืองเบียร์ร่วมกับพ่อค้าชาวอังกฤษ โดยใช้ชื่อเริ่มต้นว่า “ บริษัทเบียร์เจอมานิสเชส (Germanisches) แห่งเมืองชิงเต่า จำกัด” และใช้เทคโนโลยีการหมักบ่มและวัตถุดิบจากเยอรมนี

กิจการของพวกเขาดำเนินไปได้ 13 ปี ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 โรงงานผลิตเบียร์แห่งนี้จึงถูกเปลี่ยนมือไปเป็นของทหารญี่ปุ่นอีก 29 ปี และเปลี่ยนชื่อเป็น “ โรงงานผลิตเบียร์ไดนิปปอน คอร์เปอเรชั่น ” หลังจากนั้นเมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม โรงงานแห่งหนึ่งก็ตกอยู่ในมือของพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองได้ทำให้กิจการดำเนินไปอย่างไม่ราบรื่นนัก

การกลับมามีชีวิตใหม่ของโรงเบียร์ชิงเต่า เริ่มต้นตั้งแต่ 2 มิถุนายนปี 1949 เมื่อทหารกองทัพปลดปล่อยแห่งพรรคคอมมิวนิสต์มีชัยชนะเหนือพรรคก๊กมินตั๋งในเมืองชิงเต่า และยึดโรงเบียร์แห่งนี้เป็นวิสาหกิจของรัฐอย่างเต็มตัว ซึ่งมีกิจการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 1959 ศักยภาพทางการผลิตก็เริ่มทะลุ 10,000 ตัน ถัดมาในปี 1963 ได้รับยกย่องให้เป็นเบียร์แห่งชาติยี่ห้อเดียวของจีน และเป็นต้นแบบของอุตสาหกรรมนี้บนแผ่นดินใหญ่เรื่อยมาจนทุกวันนี้

ในปี 1993 โรงงานผลิตเบียร์แห่งนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อต้องปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทเบียร์ชิงเต่าจำกัด และเข้าสู่ตลาดทุนเป็นครั้งแรก ด้วยการปรากฏตัวทั้งในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และฮ่องกง และเมื่อจีนเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก(ดับเบิลยูทีโอ) เบียร์ชิงเต่าก็ได้ใช้โอกาสนี้เป็นพันธมิตรกับอันเฮาเซอร์ บุช ผู้ผลิตเบียร์ ‘บัดไวเซอร์’ จากสหรัฐฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น