เอเอฟพี - หลายพื้นที่ในเมืองตูเจียงเยี่ยน มณฑลเสฉวน ซึ่งมีประชากรอยู่ประมาณ 60,000 คน และห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวเพียง 50 กิโลเมตรเต็มไปด้วยความเศร้าสลด หลายพื้นที่ความช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึง
เช้าวันอังคารชาวเมืองตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเหน็บหนาวและความเศร้าสลด เสียงร้องไห้ยังคงระงมไปทั่วบริเวณ หญิงชราคนหนึ่งเดินไปเปิดพลาสติกที่คุมร่างเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวแล้วต้องปล่อยโห เมื่อเธอพบว่าร่างไร้วิญญาณที่นอนอยู่นั้นคือลูกชายของเธอเอง
เช่นเดียวกับ ซือ หวายกุ้ย ชายเกษียณวัย 58 ปี ซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเรือนที่ทลายลงมาด้วยแรงสั่นของแผ่นดิน กำลังมองหาภรรยาของเขา
ลุงซือเล่าว่า เขาออกไปซื้อของที่ร้านขายของชำ ทิ้งภรรยาชื่อ เฉา เติงผิง ซักรีดเสื้อผ้าอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์คนเดียว พร้อมย้ำว่าชีวิตแต่งงานตลอด 40 ปีที่ผ่านมานั้นเต็มไปด้วยความสุข แต่แล้วความสุขก็พังทลายลง ซากปรักหักพังเบื้องหน้าคือบ้านของลุง และร่างภรรยาลุงซืออยู่ที่ใดที่หนึ่งข้างใต้นั้น “ผมอยากขอให้ใครสักคนช่วยเข้ามา และขุดเอาร่างญาติพี่น้องเราออกมาจากซากตึกนี้” ลุงซือกล่าว
ลุงซือเป็นหนึ่งในชาวเมืองหลายพันคนที่ต้องนอนตากน้ำค้างอยู่ด้านนอก บางคนไม่ต้องการกลับไปบ้านเพราะกลัวอาฟเตอร์ช็อค แต่บางคนก็ไม่มีบ้านให้กลับอีกต่อไป
“เราไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีทั้งอาหารและของใช้ ไม่มีใครสนใจเราเลย” ชายวัยกลางคนกล่าว
ด้านแพทย์และพยาบาลต่างวุ่นวายกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในเต็นท์ซึ่งติดตั้งเฉพาะกิจกลางถนน “เรากำลังรักษาผู้บาดเจ็บประมาณ 200 คน และได้รับศพผู้เสียชีวิตประมาณ 24 ศพ นี่เฉพาะในเขตนี้เท่านั้นนะ ไม่มีการเตรียมความพร้อมใดๆ มาก่อนเลย มันยุ่งยากมากๆ” คุณหมอท่านหนึ่งกล่าว
ส่วนเส้นทางสายหลักที่มุ่งสู่ ตูเจียงเยี่ยน การจราจรเป็นอัมพาตยาวเป็นกิโลทั้งขาเข้า-ขาออก เนื่องจากยานพาหนะกู้ชีพพยายามเข้าไปในที่เกิดเหตุ ขณะที่ประชาชนในบริเวณนั้นก็พยายามที่จะหนีออกมาจากพื้นที่
เวิน เสี่ยวปิง ชายหนุ่มวัย 38 ปี ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยืนอยู่ข้างร่างไร้วิญญาณที่ถูกคลุมด้วยพลาสติก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแม่ของเขา วัย 61 ปี เวินระบายความในใจว่า “ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ผมเสียบ้าน เสียแม่ พี่ชายของผมตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล บาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าอก ผมกำลังรอคอยใครสักคนเข้ามาช่วย แต่ยังไม่มีใครเข้ามาเลย" เวินกล่าวพร้อมน้ำตา
เช้าวันอังคารชาวเมืองตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเหน็บหนาวและความเศร้าสลด เสียงร้องไห้ยังคงระงมไปทั่วบริเวณ หญิงชราคนหนึ่งเดินไปเปิดพลาสติกที่คุมร่างเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวแล้วต้องปล่อยโห เมื่อเธอพบว่าร่างไร้วิญญาณที่นอนอยู่นั้นคือลูกชายของเธอเอง
เช่นเดียวกับ ซือ หวายกุ้ย ชายเกษียณวัย 58 ปี ซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเรือนที่ทลายลงมาด้วยแรงสั่นของแผ่นดิน กำลังมองหาภรรยาของเขา
ลุงซือเล่าว่า เขาออกไปซื้อของที่ร้านขายของชำ ทิ้งภรรยาชื่อ เฉา เติงผิง ซักรีดเสื้อผ้าอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์คนเดียว พร้อมย้ำว่าชีวิตแต่งงานตลอด 40 ปีที่ผ่านมานั้นเต็มไปด้วยความสุข แต่แล้วความสุขก็พังทลายลง ซากปรักหักพังเบื้องหน้าคือบ้านของลุง และร่างภรรยาลุงซืออยู่ที่ใดที่หนึ่งข้างใต้นั้น “ผมอยากขอให้ใครสักคนช่วยเข้ามา และขุดเอาร่างญาติพี่น้องเราออกมาจากซากตึกนี้” ลุงซือกล่าว
ลุงซือเป็นหนึ่งในชาวเมืองหลายพันคนที่ต้องนอนตากน้ำค้างอยู่ด้านนอก บางคนไม่ต้องการกลับไปบ้านเพราะกลัวอาฟเตอร์ช็อค แต่บางคนก็ไม่มีบ้านให้กลับอีกต่อไป
“เราไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีทั้งอาหารและของใช้ ไม่มีใครสนใจเราเลย” ชายวัยกลางคนกล่าว
ด้านแพทย์และพยาบาลต่างวุ่นวายกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในเต็นท์ซึ่งติดตั้งเฉพาะกิจกลางถนน “เรากำลังรักษาผู้บาดเจ็บประมาณ 200 คน และได้รับศพผู้เสียชีวิตประมาณ 24 ศพ นี่เฉพาะในเขตนี้เท่านั้นนะ ไม่มีการเตรียมความพร้อมใดๆ มาก่อนเลย มันยุ่งยากมากๆ” คุณหมอท่านหนึ่งกล่าว
ส่วนเส้นทางสายหลักที่มุ่งสู่ ตูเจียงเยี่ยน การจราจรเป็นอัมพาตยาวเป็นกิโลทั้งขาเข้า-ขาออก เนื่องจากยานพาหนะกู้ชีพพยายามเข้าไปในที่เกิดเหตุ ขณะที่ประชาชนในบริเวณนั้นก็พยายามที่จะหนีออกมาจากพื้นที่
เวิน เสี่ยวปิง ชายหนุ่มวัย 38 ปี ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยืนอยู่ข้างร่างไร้วิญญาณที่ถูกคลุมด้วยพลาสติก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแม่ของเขา วัย 61 ปี เวินระบายความในใจว่า “ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ผมเสียบ้าน เสียแม่ พี่ชายของผมตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล บาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าอก ผมกำลังรอคอยใครสักคนเข้ามาช่วย แต่ยังไม่มีใครเข้ามาเลย" เวินกล่าวพร้อมน้ำตา