เอเจนซี-ขณะที่จีนกำลังถูกอัดยับจากนานาชาติ เรื่องละเมิดสิทธิมนุษย์จากการนำกองกำลังเข้าปรามปราบกลุ่มประท้วงและเรียกร้องอิสรภาพทิเบต กอปรด้วยกระแสรักชาติจีนที่กำลังลุกโหมราวจะเผาทุกสิ่งที่ขวางหูขวางตาวอดวาย จนบานปลายยุ่งขิง ยิ่งซ้ำเติมภาพลักษณ์จีนมัวหมองในช่วงไม่ถึง 100 วัน ก่อนเปิดม่านโอลิมปิกในกรุงปักกิ่ง
ดังนั้น การเยือนแดนอาทิตย์อุทัยครั้งแรกในรอบ 10 ปี ของผู้นำระดับประมุขแห่งรัฐคือนายหู จิ่นเทา ในวันอังคาร(6 พ.ค.) จึงมีเป้าหมายใหญ่ในการขัดรอยด่างดำในภาพลักษณ์มากกว่า และการปรับปรุงสัมพันธภาพที่ดีขึ้นระหว่างศัตรูเก่า ก็จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของจีน ดูดีขึ้น
สายสัมพันธ์จีน ญี่ปุ่นลุ่มๆดอนๆ มาตลอด เริ่มจากช่วงที่จีนพยายามเค้นคอผู้นำยุ่นให้แถลงคำขอโทษต่อกรณีกองทัพพระจักรพรรดิรุกรานและสังหารโหดชาวจีนนับแสนในทศวรรษที่ 1930 ซึ่งจีนบ่นมาตลอดว่าญี่ปุ่นแค่แสดงความเสียใจเท่านั้น ขณะที่ชาวญี่ปุ่นหลายคนคิดว่าไม่ยุติธรรม ที่จะมารื้อฟืนคาดคั้นเรื่องนี้อีก
ในปี 1998 อดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน จุดกระแสโกรธาขุ่นเคืองไปทั่วญี่ปุ่น ด้วยการรุกจี้ทวงคำขอโทษระดับที่จริงจังขึ้นในงานเลี้ยง ที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตเป็นเจ้าภาพ
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สองชาติก็ได้พยายามกระเตื้องสัมพันธภาพ ขณะที่ อำนาจทางทหารจีนขยายใหญ่ และเศรษฐกิจแดนปลาดิบ ก็กระเตื้องขึ้นจากการส่งออกเครื่องมือเครื่องกล วัตถุดิบ และชิ้นส่วน ไปยังจีน
สำหรับการประชุมสุดยอดหรือซัมมิตระหว่างหู จิ่นเทา และนายกรัฐมนตรียาสุโน ฟูกูดะ ทั้งสองก็ได้กล่าวคำสรรเสริญซึ่งกันและกัน สัญญามั่นจะสมานฉันท์ในฐานะเพื่อนบ้านและชาติที่ทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย ร่วมรับผิดชอบสันติภาพและการพัฒนาของโลกในศตวรรษที่ 21 ต่อสู้โลกร้อน...ฯลฯ
ในแถลงการณ์ร่วมยังเรียกร้องเปิดซัมมิตระหว่างกันทุกปี
จีน-ญี่ปุ่นดูจะถนอมใจกันสุดฤทธิ์ โดยในแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้คือ ไม่ได้ระบุถึงศึกพิพาทสิทธิเหนือดินแดนขุมแก็สธรรมชาติบริเวณทะเลจีนตะวันออก ที่เจรจามาราธอนมาร่วมสิบปีและคว้าแต่น้ำเหลวทุกครั้ง แต่นายฟูกูดะก็กล่าวว่า ทั้งสองประเทศเชื่อว่าจะเห็นวี่แววหนทางแก้ไขปัญหา “เราตกลงจะคลี่คลายปัญหาโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”
ผู้นำยุ่นกล่อมหู จิ่นเทา
นายใหญ่แห่งรัฐบาลญี่ปุ่น ได้บอกให้ผู้นำจีน คลี่คลายศึกเผชิญหน้ากันอย่างนองเลือดกับทิเบต ให้โลกสบายใจ แต่หู จิ่นเทาได้ตอบไปว่า ปัญหานี้ ทะไล ลามะผู้นำจิตวิญญาณและผู้นำรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบตจะต้องหยุด “เสี้ยมความรุนแรง”
ฟูกูดะเผยว่าเขาได้พูดเรื่องนี้กับหู จิ่นเทา ผู้ซึ่งออกมาเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับจากเกิดศึกนองเลือดในลาซาเมื่อกลางเดือนมีนาคม “ผมเรียกร้องให้จีนขจัดความวิตกกังวลของประชาคมโลก โดยเดินหน้าเจรจา และหวังว่าจะมีการเจรจาอย่างเต็มรูปแบบกันในอนาคต” ฟูกูดะกล่าวหลังซัมมิต
ด้านหู จิ่นเทาก็ได้แสดงความหวังความคืบหน้าจากการเจรจากับผู้แทนของทะไล ลามะ แต่ก็ได้ย้ำว่าทะไล ลามะพยายามแบ่งแยกทิเบต และขอให้พระองค์หยุดพวกแบ่งแยกดินแดน หยุดวางแผน หยุดเสี้ยมความรุนแรง หยุดทำลายโอลิมปิก ปักกิ่ง...ฯลฯ
สำหรับจุดยืนที่ทะไล ลามะได้ตรัสคือ ต่อต้านความรุนแรงและต้องการเพียงการปกครองตัวเองที่แท้จริงมากขึ้น สิทธิทางวัฒนธรรมของดินแดนบ้านเกิดชาวพุทธภายในดินแดนจีน
หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุงรายงานในวันเสาร์(3 พ.ค.) ว่ากลุ่มวุฒิสมาชิกญี่ปุ่นกำลังรุมกดดันฟูกูดะ ซึ่งเป็นผู้นำที่อุทิศให้กับการออมชอมกับจีนมานาน ให้ยกเลิกการเข้าร่วมโอลิมปิก เกมส์ที่ปักกิ่ง เพื่อโต้ตอบจีนเรื่องทิเบต
กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้ว่าการปรับปรุงภาพลักษณ์ประเทศก่อนเปิดงานโอลิมปิกในเดือนสิงหาคม เป็นงานสำคัญที่เร่งด่วนของจีนในขณะนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีแห่งหน่วยกำหนดนโยบายด้านศาสนาและความสัมพันธ์ระหว่างชนชาติของพรรคคอมมิวนิสต์ได้แก่ จู เหว่ยฉวิน และซีทาร์ ก็ได้ไปพบกับกลุ่มผู้แทนของทะไล ลามะ
นอกไปจากนี้ เฉิน กังนักวิจัยประจำสถาบันเอเชียตะวันออกในสิงคโปร์ จีนจะต้องพยายามส่งสารไปยังประชาชนของตัวเองด้วย “ขณะนี้ เราอยู่ในโลกโลกานุวัตน์ และไม่สามารถมาก่อกระแสชาตินิยมอย่างเวอร์ๆได้อีก”
ทั้งนี้ เหตุการณ์เผชิญหน้านองเลือดในทิเบตตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ซึ่งฝ่ายรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบตบอกว่ามีผู้เสียชีวิต มากกว่า 200 คน แต่ฝ่ายจีนบอกว่ามีเพียง 22 คนนั้น ได้จุดกระแสประท้วงจีนไปทั่วโลก ระหว่างนั้น คลื่นมหาชนผู้รักชาติชาวจีน ก็ออกมาต่อต้านถึงขั้นอาละวาดต่อต้านกลุ่มที่สนับสนุนอิสรภาพทิเบต ไม่ว่าจะเป็นห้างคาร์ฟูร์ ผู้นำแห่งฝรั่งเศส หรือใครต่อใครก็ตาม กระแสรักชาติจีนท่วมล้นจนสร้างความวิตกแก่ผู้นำจีนเองด้วย
นอกจากนี้ ในวันอังคาร(6 พ.ค.) หู จิ่นเทา ยังประกาศให้เช่าแพนด้ายักษ์แห่งญี่ปุ่น 2 ตัว สำหรับงานวิจัยร่วมกัน หลังจากที่ฟูกูดะบอกว่าชาวญี่ปุ่นชอบแพนด้า ก่อนหูมาโตเกียว แพนด้าขวัญใจชาวญี่ปุ่นคือหลิงหลิงแห่งสวนสัตว์อูเอโนได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจล้มเหลว จีนได้มอบหลิงหลิงแก่โตเกียว เป็นการแลกเปลี่ยนกับลูกหมีแพนด้าที่เกิดในญี่ปุ่นเมื่อปี 1992