xs
xsm
sm
md
lg

“วันอ่านหนังสือโลก” จี้รบ.มีสำนึกส่งเสริมอัตราการอ่าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เด็กกำลังเปิดหนังสืออ่านเล่นอย่างเพลิดเพลินที่ห้องสมุดแห่งใหม่ของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในนครเทียนจิน
เอเจนซี—สื่อจีน กระทุ้งสำนึกรัฐบาลรับผิดชอบต่อการอ่านหนังสือของประชาชน ผลสำรวจล่าสุดชี้ การอ่านจากสื่อออนไลน์ ขยายตัวแซงหน้าการอ่านหนังสือจากสิ่งพิมพ์เป็นครั้งแรก

เนื่องในวันอ่านหนังสือและลิขสิทธิ์โลกคือในวันที่ 23 เมษายนนี้ สื่อจีนเผยแพร่การสำรวจอัตราการอ่านหนังสือของชาวจีนชุดล่าสุด ผลปรากฏว่าอัตราการอ่านหนังสือพิมพ์ยังสูงเป็นอันดับหนึ่ง เท่ากับร้อยละ 74.5, การอ่านจากสื่อหนังสือประเภทนิตยสารสูงตามมาเป็นอันดับสอง เท่ากับร้อยละ 50.0, และการอ่านจากสื่อออนไลน์ สูงเป็นอันดับสาม เท่ากับร้อยละ 36.5

อย่างไรก็ตามอัตราการอ่านจากสื่อออนไลน์ ก็ขยายตัวขึ้น ร้อยละ 8.7 เทียบกับร้อยละ 27.8 ของปี 2005 ขณะที่อัตราการอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์นั้น ตกลงร้อยละ 14 เทียบกับร้อยละ 48.7 ของปี 2005

จิน หัวกั๋วผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทจัดพิมพ์แห่งซินหัว ย้ำว่าอย่างไรก็ตาม ผู้คนไม่ควรลืมการอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์ ที่เป็นการอ่านที่ต้องใช้ความคิดและจิตใจเข้าไปสัมผัส

แนวโน้มการอ่านของผู้คน มุ่งไปที่การใช้ประโยชน์ทางวัตถุมากขึ้นทุกที ทำให้วิสัยทัศน์การอ่านของคน นับวันยิ่งแคบลง ชั้นจำหน่ายหนังสือที่คึกคัก จะเป็นหนังสืออย่าง “มหัศจรรย์สู่การเป็นเจ้าของกิจการ” “เส้นทางสู่ความสำเร็จ” และ“ความลับธุรกิจการค้า” ซึ่งล้วนแนะนำเส้นทางสู่ความมั่งคั่งในชั่วข้ามคืน สำหรับชั้นวางหนังสือเกี่ยวมนุษย์ สังคม และวัฒนธรรมนั้น ดูร้างไร้ผู้คนสนใจ และการที่การอ่านเพื่อประโยชน์ทางวัตถุเฟื่องฟูขึ้นทุกวันนั้น สะท้อนถึงบรรยากาศในสังคมที่เต็มไปด้วยความหุนหันพลันแล่น

นอกจากนี้ สื่อแถวหน้าจีนซินจิงเป้า ก็ได้เสนอบทวิพากษ์วิจารณ์ในวันอ่านหนังสือโลก ชี้การอ่านหนังสือ ดูจะกลายเป็นกิจกรรมที่อับเฉาลงทุกวัน หิ้งหรือห้องเก็บหนังสือในบ้าน ล้วนมีแต่ตำราเรียนเก่าๆของเด็ก หรือไม่ก็เป็นที่เก็บนิตยสารเก่าๆ

หลายๆคนมองการกำหนดวันอ่านหนังสือโลกขึ้น เพราะการอ่านหนังสือเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างหนึ่ง แต่จริงๆแล้ว การอ่านหนังสือ ไม่ใช่เพียงแค่รูปแบบการใช้ชีวิตเท่านั้น ยังเป็นหนทางที่ค่อยๆก่อร่างความก้าวหน้าในสังคมอย่างหนึ่งด้วย เมื่อดัชนีเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำลง ผู้คนต่างถือเป็นสัญญาณเตือนหน่วยงานต่างๆในรัฐบาล ให้ทบทวนปัญหาและเสาะหามาตรการแก้ไข แต่เมื่อดัชนีการอ่านหนังสือตกต่ำลง หลายๆแห่งกลับเมินเฉยไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่

การประเมินค่าเมืองๆหนึ่ง ควรพิจารณาจากจำนวนร้านขายหนังสือ และการประเมินบทบาทรัฐบาล ก็ควรให้คะแนนแก่การสร้างบรรยากาศการอ่านหนังสือด้วย การขยายอัตราการการอ่านหนังสือ ดำเนินมาตรการสำคัญ อาทิ เผยแพร่รายชื่อหนังสือ สนับสนุนการลดราคาหนังสือ ลดอุปสรรคการลงทุนภาคอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ พัฒนาห้องสมุดสาธารณะที่สมบูรณ์ โครงสร้างพื้นฐานรองรับอื่นๆ ตลอดจนเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทดสอบวัดระดับการศึกษา เป็นต้น

นอกจากความรับผิดชอบของปัจเจกชนแล้ว รัฐบาลก็ต้องมีความรับผิดชอบในเชิงระบบและกฎระเบียบต่างๆที่ช่วยสนับสนุน และนอกเหนือจากความสนใจอ่านหนังสือของแต่ละบุคคลแล้ว “วันอ่านหนังสือโลก” ควรกระตุ้นสำนึกรับผิดชอบของรัฐบาลแรงยิ่งขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น