暗 อ่านว่า อ้าน แปลว่า มืด หรือ ไม่เปิดเผย
箭 อ่านว่า เจี้ยน แปลว่า ธนู
伤 อ่านว่า ซาง แปลว่า ทำร้าย
人 อ่านว่า เหริน แปลว่า คน
สมัยชุนชิว อ๋องรัฐเจิ้งได้รับการสนับสนุนจากรัฐฉี และรัฐหลี่ว์ วางแผนที่จะทำสงครามกับรัฐสี่ว์ (รัฐสี่ว์เป็นรัฐเล็กๆ ปัจจุบันคือเมืองสี่ว์ชางในมณฑลเหอหนาน ส่วนรัฐเจิ้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐสี่ว์ )
ปีหนึ่งในช่วงฤดูร้อน เดือนห้า อ๋องเจิ้งทำการทดสอบความเข้มแข็งของกองทหาร โดยการให้มีการแข่งขันชิงรถม้า ระหว่างแม่ทัพเก่าแก่นามว่า หยิ่งซูเข่า กับแม่ทัพวัยหนุ่มนาม กงซุนจื่อตู ฝ่ายหยิ่งซู่เข่า แม้จะสูงวัยกว่า แต่เป็นแม่ทัพแกล้วกล้ามีกำลังเข้มแข็ง เมื่อมือจับรถม้าได้ก็วิ่งลากออกไปด้วยความรวดเร็ว ส่วนกงซุนจื่อตู ซึ่งปกติไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา มีความมั่นใจในตัวเองสูง เห็นดังนั้นจึง รีบไล่ตาม แต่เมื่อไล่ตามมาถึงถนนใหญ่ หยิ่งซูเข่าก็ลับหายไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้กงซุนจื่อตูแค้นใจเป็นอันมาก
เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง เดือนเจ็ด อ๋องเจิ้งมีคำสั่งให้ไปโจมตีรัฐสี่ว์ ทหารเจิ้งบุกตีเข้าไปจนถึงเมืองหลวงของรัฐสี่ว์ หยิ่งซูเข่ารบด้วยความกล้าหาญ วิ่งนำกองทัพปีนขึ้นกำแพงเมืองเป็นคนแรก กงซุนจื่อตูเห็นดังนั้นแล้วก็คิดอิจฉาความเข้มแข็งของหยิ่งซูเข่าประกอบกับความแค้นเรื่องชิงรถมาที่ผ่านมา เขาจึงอาศัยช่วงชุลมุนลอบยิงธนูใส่แม่ทัพอาวุโสจนถึงแก่ความตาย
เนื่องจากความชุลมุนในสงคราม ทำให้แม่ทัพ และทหารเจิ้งต่างพากันคิดว่าแม่ทัพหยิ่งซูเข่าโดนทหารรัฐสี่ว์ฆ่าตาย จึงเกิดเพลิงแค้นบุกตีเมืองหลวงสี่ว์จนราบคาบ ทำให้อ๋องรัฐสี่ว์หนีตายไปหลบยังรัฐเว่ย
เหตุการณ์ “ใช้ธนูลอบทำร้ายคน” ภายหลังได้มีการนำมาเป็นคำเปรียบเทียบกับแผนการ หรือพฤติกรรมลอบทำร้ายผู้อื่น