เอเอฟพี – รัฐบาลจีนเผย เมื่อเดือนมี.ค. เกิดเหตุการณ์ประท้วงในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์-ซินเจียง (ซินเกียง) ในช่วงเดียวกับที่เกิดเหตุจลาจลในทิเบต ชี้เป็นความพยายามในการแบ่งแยกดินแดน ด้านซินเจียงพลัดถิ่นโต้ แค่เรียกร้องสิทธิ และความเป็นธรรม
เมื่อวันพุธ (2 เม.ย.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุไม่สงบในบริเวณซินเจียง ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ชนชาติอุยกูร์ เมื่อเดือนที่แล้ว ช่วงเดียวกับที่เหตุไม่สงบในทิเบตและมณฑลโดยรอบอุบัติขึ้น โดยเวบไซต์ของ เทศบาลอำเภอเหอถัน (โคทาน) เขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์-ซินเจียง แถลงว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค. กลุ่มผู้ชุมนุมหัวรุนแรงพยายามก่อเหตุไม่สงบขึ้นบริเวณตลาดท้องถิ่น
“คนกลุ่มหนึ่งพยายามก่อความแตกแยก และความไม่สงบในตลาด พร้อมกับชักจูงประชาชนให้เข้าร่วมก่อการ อย่างไรก็ตามตำรวจได้เข้าควบคุมสถานการณ์ ป้องกันเหตุไม่สงบ ด้วยวิธีการตามกฎหมาย” แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ชนกลุ่มน้อยชาวทิเบต และอุยกูร์ มักอ้างว่า รัฐบาลจีนกดขี่พวกตนด้วยวิธีการต่างๆ
ฝ่ายกลุ่มชาวอุยกูร์พลัดถิ่นอ้างว่า การประท้วงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย 2 อย่างคือ การเสียชีวิตอย่างปริศนาของนักธุรกิจชาวอุยกูร์ ขณะถูกคุมขัง และการเรียกร้องสิทธิในการสวมฮิญาบของกลุ่มสตรี
“ชาวอุยกูร์เริ่มประท้วง หลัง มูตุลลิบ ฮาญีม นักธุรกิจที่ถูกจับตัวไปเสียชีวิตอย่างปริศนา ขณะเดียวกันกลุ่มสตรีก็ออกมาเรียกร้องสิทธิในการสวมฮิญาบ มีผู้ประท้วงรวม 1,000 คน ราว 600 คนถูกทางการจีนจับกุมไป” อลิม เซียตอฟฟ์ แห่งวิทยุเอเชียเสรี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯเผย
ทั้งนี้ฝ่ายอุยกูร์พลัดถิ่นยังกล่าวอีกว่า ศพของฮาญีมถูกส่งกลับไปยังครอบครัวเมื่อวันที่ 3 มี.ค. โดยทางตำรวจสั่งให้ครอบครัวของเขาปิดปากเงียบ ห้ามแพร่งพรายเรื่องการตายให้ใครทราบ พร้อมทั้งต้องรีบฝังศพให้เร็วที่สุด