เอเจนซี – สื่อต่างชาติประโคมข่าวรับสองการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ระบุ “เจียงเจ๋อหมิน” อดีตผู้นำเรืองอำนาจแดนมังกรกำลังป่วยหนัก ด้านน้องสาวออกโรงโต้ข่าวดังกล่าว ขณะที่สื่อฮ่องกงเองก็รายงานข่าวเกี่ยวกับผู้ที่มีเปอร์เซ็นต์ขึ้นนั่งตำแหน่งประธานศาลประชาชนสูงสุดและสำนักงานอัยการสูงสุด โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อของ “เฉาเจี้ยนหมิง” ที่หลายฝ่ายมองว่าเขาเป็นขุนพลคู่ใจของเจียงนั่นเอง
ในขณะที่การประชุมสภาที่ปรึกษาการเมือง ซึ่งเป็นองค์กรให้คำปรึกษาแก่สภาประชาชนเปิดม่านไปเมื่อวันจันทร์ (3 มี.ค.) และการประชุมสภาผู้แทนประชาชนกำลังจะเปิดตามมาในวันนี้ (5 มี.ค.) สื่อต่างชาติหลายสำนักพากันประโคมข่าวอาการป่วยของ “เจียงเจ๋อหมิน” อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และอดีตประธานาธิบดีจีนอย่างครึกโครม โดยระบุว่า เจียงวัย 81 ปี กล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาต และยังมีอาการของโรคพาร์กินสันร่วมด้วย จึงไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะได้อีก และไม่สามารถเข้าร่วมสองการประชุมใหญ่ของจีนในเดือนนี้ได้
ทั้งนี้ ในการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนครั้งที่ 17 เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว บรรดาอดีตแกนนำรุ่นเดอะของจีน อาทิ เจียงเจ๋อหมิน รวมทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีจีน หลี่เผิง และจูหรงจี ต่างเข้าร่วมการประชุม แต่เป็นที่สังเกตได้ชัดว่า เจียงเจ๋อหมินดูอ่อนระโหยโรยแรงมาก จึงกลายเป็นที่จับตาของสื่อนับแต่นั้น
อีกทั้งมีคนเห็นเจียงเจ๋อหมินปรากฎตัวต่อสาธารณะครั้งสุดท้ายตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายนของปีที่แล้ว เมื่อครั้งไปไหว้เจ้าที่วัดกุยหยวนที่เมืองอู่ฮั่น และถ่ายรูปหมู่กับสาวสวยริมแม่น้ำ ซึ่งหลังจากนั้นได้มีคนโพสต์รูปดังกล่าวลงในอินเตอร์เน็ตด้วย
ต่อข่าวอาการป่วยของเจียงนั้น เจียงเจ๋อฮุ่ย น้องสาวของเจียงเจ๋อหมิน ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของสถาบันวิทยาศาสตร์ป่าไม้ ควบตำแหน่งอาจารย์ที่ปรึกษานักศึกษาปริญญาเอก และจะเข้าประชุมสภาที่ปรึกษาการเมืองและสภาประชาชนจีน ได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนว่า เจียงเจ๋อหมินตอนนี้สบายดี สุขภาพแข็งแรง
พ้นจากประเด็นข้างต้น สำนักข่าวฮ่องกงยังได้รายงานเกี่ยวกับตัวเก็งที่จะได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นนั่งบัลลังก์ประธานศาลประชาชนสูงสุดและประธานสำนักงานอัยการสูงสุดแห่งชาติจีน หนึ่งในนั้นมีชื่อของเฉาเจี้ยนหมิง ขุนศึกคู่ใจของเจียงเจ๋อหมินรวมอยู่ด้วย
ตามรายงานระบุว่า หวังเซิ่งจวิ้น เลขาธิการสำนักงานการเมืองและกฎหมายแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ จะมานั่งตำแหน่งประธานศาลประชาชนสูงสุดแทนเซียวหยาง ส่วนเฉาเจี้ยนหมิง รองประธานประจำศาลประชาชนสูงสุดที่ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะขึ้นแทนตำแหน่งของเซียวนั้น ก็จะถูกโยกไปรับตำแหน่งประธานสำนักงานอัยการสูงสุดแทนเจี่ยชุนวั่ง
โดยทั้งเซียวหยางและเจี่ยชุนวั่งนั้นจะถอนตัวและไม่รับตำแหน่งใดๆ ทั้งในสภาที่ปรึกษาการเมืองและสภาประชาชน ทั้งนี้ศาลประชาชนสูงสุด และสำนักงานอัยการสูงสุดนั้น เป็นองค์กรตุลาการที่มีความสำคัญระดับประเทศ ไม่ใช่แค่ระดับมณฑลเท่านั้น
อนึ่ง หวังเซิ่งจวิ้นวัย 62 ปี เริ่มทำงานด้านการเมืองมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1985 คลุกคลีในวงการมานานกว่า 20 ปี และเป็นบุคคลที่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ให้การยอมรับ แต่การเลื่อนตำแหน่งของเฉาเจี้ยนหมิงนั้น หลายฝ่ายมองว่าเกี่ยวพันกับเจียงเจ๋อหมินด้วย ในบรรดานักวิชาการด้านกฎหมายที่เซี่ยงไฮ้นั้น เจียงเจ๋อหมินถูกใจอยู่ 2 คน คนหนึ่งคือ หวังฮู่หนิง ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถาบันกฎหมายของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น อีกคนคือ เฉาเจี้ยนหมิง ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการสถาบันกฎหมายหัวตง
ในปี 1995 หวังฮู่หนิงเข้ามาทำงานที่ปักกิ่ง และกลายเป็นมันสมองให้แก่เจียง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยนโยบายพรรคคอมมิวนิสต์ ส่วนเฉาเจี้ยนหมิงในปี 1999 เขาได้รับการโปรโมทเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นรองประธานประจำศาลประชาชนสูงสุด รายงานระบุว่า การที่เฉาเจี้ยนหมิงได้เลื่อนขึ้นเป็นประธานสำนักงานอัยการสูงสุดนั้นนับเป็นการถ่ายเลือดให้คนของเจียงเข้าควบคุมองค์กรสูงสุดของประเทศ