หนังสือพิมพ์สากล / เป่ยฟังเน็ต – แหล่งข่าววงในเผยในการประชุมคณะรัฐมนตรีจีนเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาและอนุมัติโครงการควบรวมปฏิรูปโครงสร้างวิสาหกิจด้านโทรคมนาคม จาก 5 ค่ายยักษ์ใหญ่เหลือเพียง 3 ค่าย เพื่อเพิ่มศักยภาพและความทัดเทียมในการแข่งขัน ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศออกมาในช่วงก่อนการประชุมใหญ่สมาชิกสภาผู้แทนประชาชนในเดือนหน้า
หลังจากก่อนหน้านี้ เลขาธิการสมาพันธ์ TD-SCDMA นายหยางหัวได้เปิดเผยว่า ทางการจีนได้มีการตัดสินใจที่จะอนุมัติโครงการการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม และเตรียมออกใบอนุญาต 3 จีแล้ว จนมีข่าวลือเรื่องการที่จะมีการควบรวมกิจการว่าจะควบจาก 5 เหลือ 3
ล่าสุดก็มีเจ้าหน้าที่จากไชน่า โมบายได้เปิดเผยว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (21 ก.พ.) บริษัทไชน่า โมบายได้เรียกประชุมผู้จัดการใหญ่แผนกต่างๆ โดยได้ยอมรับว่าขณะนี้โครงการที่จะควบรวมกิจการด้านโทรคมนาคมได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว และจะมีการประกาศออกมาในช่วงก่อนจะเริ่มการประชุมสภาผู้แทนประชาชนในเดือนหน้า
การควบรวมดังกล่าวจะมีการแบ่งเอาโครงข่ายซีดีเอ็มเอ กับจีเอสเอ็มของไชน่า ยูนิคอมออกจากกัน โดยซีดีเอ็มเอจะถูกจัดให้ไปรวมกับไชน่า เทเลคอม ในขณะที่โครงข่ายจีเอสเอ็ม จะเป็นการรวบของไชน่ายูนิคอม กับไชน่า เน็ตเข้าด้วยกัน ส่วนบริษัทไชน่า เถี่ยทงก็ให้ควบรวมเข้ากับบริษัทไชน่าโมบาย กลายเป็นสามค่ายยักษ์ใหญ่สมดังที่ตั้งเป้าไว้มานาน
แหล่งข่าวภายในได้ระบุว่า แม้โครงการควบรวมจะมีผลลงเอยแล้ว แต่การปฏิบัติจริงจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการควบรวมปฏิรูปโครงสร้างยังต้องใช้เวลาอีกระยะใหญ่ ซึ่งก่อนจะถึงเวลานั้น แต่ละบริษัทก็จะยังดำเนินธุรกิจของตัวเองต่อไปก่อน
หนึ่งในจุดประสงค์สำคัญที่ให้มีการควบรวมและปรับปรุงโครงสร้าง ก็คือการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ และเปลี่ยนแปลงรูปแบบการผูกขาด นั่นก็คือพยายามผลักดันให้ทั้ง 3 ยักษ์ใหญ่ที่เหลือนั้นสามารถก้าวขึ้นมาแข่งขันในเวทีที่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะการควบรวมในครั้งนี้ ได้สร้างลักษณะพิเศษขึ้นก็คือจะทำให้ในอนาคตทั้ง 3 วิสาหกิจต่างให้บริการทั้งโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยกันทั้งสิ้น
การควบรวมในครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าการแข่งขันด้านโทรคมนาคมในจีนใหม่ โดยนายเฉินยุ่นหง นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์กั๋วจินได้เปิดเผยในรายงานว่า “ความได้เปรียบในการแข่งขันที่มีมาตลอดของไชน่าโมบายจะลดลงอย่างแน่นอน และผู้ที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดจากการควบรวมจะเป็นไชน่า เทเลคอม เพราะจะสามารถได้รับธุรกิจใหม่ๆจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ และการที่ไชน่า เทเลคอมเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งแบบโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาจจะทำให้ไชน่า โมบายไม่สามารถสร้างผลกำไรได้เทียบเท่ากับที่ผ่านมา
ทว่านายฟู่เลี่ยง จากบริษัทที่ปรึกษาวั่นฟัง ดาต้า กลับมองว่า หากดูจากราคาของหุ้นของบริษัทโทรคมนาคมเหล่านี้ในฮ่องกง ซึ่งได้สะท้อนศักยภาพของบริษัทอย่างดีนั้นจะพบว่า ความได้เปรียบของไชน่า โมบายนั้นยากที่จะถูกสั่นคลอนได้ในระยะสั้น โดยปัจจุบันไชน่า โมบายมีลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่คิดเป็น 70% ของประเทศ และมีลูกค้าคิดเป็น 40% ของผู้ใช้โทรศัพท์ทั้งหมดทั่วประเทศ ดังนั้นรูปแบบการแข่งขันในอนาคตอาจจะออกมาเป็น 1 ใหญ่กับ 2 เล็ก
ทั้งนี้ คนในวงการคาดว่า หากมีการประกาศควบรวมในเดือนนี้ ขั้นตอนทั้งหมดจะต้องใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 4-6 เดือน นั่นก็หมายความว่ากว่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมดก็จะเป็นช่วงเวลาหลังโอลิมปิก และนั่นอาจจะหมายถึงว่าการออกใบอนุญาต 3 จีน่าจะเป็นเรื่องหลังจากโอลิมปิกปักกิ่งไปแล้ว
