สปิลเบิร์กถอนตัวแค่จุดเริ่มต้น ลือชาร์ลส์ไม่เสด็จปักกิ่งท้วงกรณีทิเบต

เอเอฟพี – นักเคลื่อนไหวเตือน การประชาสัมพันธ์โอลิมปิกสองพันแปดที่ปักกิ่งยังต้องเจอเรื่องเศร้ากว่านี้ หลังตกเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลกกรณีสตีเว่น สปิลเบิร์ก ผู้อำนวยการสร้างหนังฮอลลิวู้ด โบกมือลาการเป็นที่ปรึกษาฝ่ายศิลปกรรมสำหรับพิธีเปิดและปิดงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อประท้วงที่จีนไม่ยื่นมือช่วยยุติการนองเลือดในภูมิภาคดาฟัวร์

จิลล์ ซาวิตต์ ผู้อำนวยการ “ความฝันแห่งโอลิมปิกเพื่อดาฟัวร์” กลุ่มความเคลื่อนไหวซึ่งจัดตั้งขึ้นในอเมริกา เพื่อกดดันให้จีนเข้าช่วยยุติวิกฤตการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า พวกนักเคลื่อนไหวจะอาศัยโอกาสการวิ่งผลัดคบเพลิงโอลิมปิกระหว่างชาติต่าง ๆ ในช่วงเดือนเมษายน เป็นเวทีประท้วงปัญหาที่รัฐบาลจีนก่อ

จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรสนิทที่สุดชาติหนึ่งของรัฐบาลซูดาน และเป็นผู้ขายอาวุธรายใหญ่ให้ ยืนกรานว่า มีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในซูดานมาโดยตลอด แต่นักเคลื่อนไหวอย่างซาวิตต์ กำลังเล่นการเมืองและจ้องทำลายกีฬาโอลิมปิก

แต่โจอี้ ชี้ก ชาวอเมริกันเจ้าของเหรียญทองการแข่งขันสเกตที่ตูริน วินเท่อร์ เกมส์ เมื่อ 2 ปีก่อน ตอบโต้ว่า ชาติที่ได้เป็นเจ้าภาพ ก็ล้วนจัดการแข่งขันเพื่อเหตุผลด้านการเมืองทั้งนั้น นักเคลื่อนไหวอย่างพวกเขาจึงไม่ควรถูกกล่าวหาว่า เล่นการเมืองกับโอลิมปิก

“ชาติผู้จัดโอลิมปิก ไม่เพียงแค่เพราะชอบกีฬา แต่เพราะต้องการอวดประเทศ, ประชาชน และวัฒนธรรม จึงไม่มีเหตุผลเลย ที่จะมาบอกว่า การแข่งขันโอลิมปิกไม่ใช่การเมือง” ชี้กกล่าว

เขาเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งกลุ่มเคลื่อนไหว ชื่อว่า ทีมดาฟัวร์ ซึ่งประกอบด้วยอดีตนักกีฬาโอลิมปิก และนักกีฬาตัวเก็งในการแข่งขันโอลิมปิกราว 250 คน จาก 42 ประเทศ พวกเขาจะใช้โอลิมปิกที่ปักกิ่งเป็นเวทีประท้วงจีนเรื่องดาฟัวร์ โดยระหว่างลงเล่นฝึกซ้อม นักกีฬาจากทีมดาฟัวร์ จะคาดศีรษะด้วยผ้าสีแดง,เขียว และดำ ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่จีนกระอักกระอ่วนใจอย่างไม่ต้องสงสัย

นอกจากนี้แล้ว ยังจะมีการประท้วงปัญหาอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ปัญหาการปกครองทิเบต , ปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพการนับถือศาสนา ตลอดจนการปราบปรามสาวกลัทธิฝาหลุนกง

“ปักกิ่งเกมส์ตอนนี้กำลังจะเป็นที่รู้จักกันในชื่อใหม่ว่า เกมส์แห่งความอดสู” แม็ต วิตทิเคส โฆษกการรณรงค์เพื่อปลดปล่อยทิเบต กล่าว

เมื่อปีที่แล้ว มีอา ฟาร์โรว์ ดาวค้างฟ้าฮอลลิวู้ด และทูตสันติภาพของยูนิเซฟ ถึงกับตราหน้าโอลิมปิกที่ปักกิ่งว่า “การแข่งขันกีฬาแห่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ในบรรดาข่าวพาดหัวฉาวเกี่ยวกับโอลิมปิกที่ปักกิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังรวมถึงกรณีที่คนสนิทของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ ระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่า พระองค์จะไม่เสด็จร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน เพื่อประท้วงการจัดการของจีนเกี่ยวกับทิเบต

การประชาสัมพันธ์งานของจีนยิ่งเคราะห์ร้ายไปอีกจากความหวังดีที่ไม่คิดว่าจะส่งผลร้ายของสมาคมโอลิมปิกแห่งอังกฤษ โดยสมาคมพยายามปิดปากไม่ให้นักกีฬาของสมาคมวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของจีน เรื่องแดงถึงสื่อมวลชนอังกฤษ จนทางสมาคมต้องยอมถอย แต่ก็สายไป เพราะได้กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเสียแล้ว

รัฐบาลจีนยอมรับว่าการเตรียมการจัดกีฬาโอลิมกำลังได้รับผลกระทบจากการประท้วงของนักเคลื่อนไหว

“จีนกำลังเผชิญข้อกล่าวหาจากทั่วโลก ซึ่งอาจก่อปัญหาในการจัดและการวางแผนการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้” หนังสือพิมพ์พีเพิ่ลส์เดลี่ กระบอกเสียงของรัฐบาลจีนระบุเมื่อเร็ว ๆ นี้

จีนอัดสปิลเบิร์กนักฝันไซ-ฟาย

อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนจีนได้พากันโจมตีสปิลเบิร์กอย่างต่อเนื่อง หลังการถอนตัว แม้ที่ผ่านมา หนังที่สปิลเบิร์กสร้างจะทำรายได้สูงในจีนก็ตาม “บุคคลผู้นี้ติดอยู่ในโลกแห่งความเพ้อฝันแบบหนังไซ-ฟาย ที่เขาสร้าง ไม่สามารถแยกแยะความฝันกับความจริงได้” เป็นคำวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์ไชน่ายู้ทเดลี่

ขณะที่สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนระบุว่า ชาวจีนงุนงงกับพฤติกรรมของบุรุษ ซึ่งอยู่เบื้องหลังหนังทำเงินอย่าง อี.ที., จูราสสิก ปาร์ก และชินเดล่อร์ส ลิสต์ “นายสปิลเบิร์กไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความบากบั่นของจีนที่จะแก้ไขปัญหาในดาฟัวร์” ซินหัวอ้างคำวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์กวงหมิง “เขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาวิจารณ์รัฐบาลจีน”

ขณะเดียวกัน มีชาวจีนหลายพันคนเข้าไปต่อว่าสปิลเบิร์กในเว็บไซต์ เช่น เป็นคนไม่รักษาคำพูด หรือตั้งคำถามว่า “สหรัฐฯ ฆ่าผู้คนเป็นเบือในอัฟกานิสถานและอิรัก ท่านผู้กำกับสปิลเบิร์ก ไม่ละอายใจที่เป็นคนอเมริกันบ้างหรือ?”