เอเยนซี – อากาศวิปลาสทำรัฐบาลเครียด หิมะตกไม่หยุดคร่า 50 ชีวิต 78 ล้านคนเจอผลกระทบ รัฐบาลงัดปฏิบัติการตอบโต้ฉุกเฉิน สั่งทหารครึ่งล้านออกบรรเทาสาธารณภัย นักวิชาการอัด ‘วัวหายล้อมคอก’ ไม่คิดแก้ปัญหาระยะยาว
หลังหิมะกระหน่ำจีนไม่หยุดตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาว รวมทั้งอุบัติเหตุที่มีสาเหตุจากอากาศแปรปรวนร่วม 50 ราย ส่วนเอเอฟพีรายงานว่า มีผู้ได้รับผลกระทบติดค้างตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งที่เผชิญภาวะยากเข็ญจากภัยหิมะราว 78 ล้านคน
“ภาพที่ผมเห็นเป็นภาพสุดสยองขวัญ ผมกลัวว่า เมื่อผมเปิดประตูออกไป ภายนอกจะเต็มไปด้วยซากศพ หรือคนร้องขอความช่วยเหลืออย่างทุกข์ทรมาน” เกาจื้อปิน หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถโดยสารพลิกคว่ำ เนื่องจากพื้นถนนกลายเป็นลานน้ำแข็งในมณฑลกุ้ยโจวกล่าว ทั้งนี้อุบัติเหตุรถโดยสารพลิกคว่ำในกุ้ยโจวแห่งเดียวมียอดผู้เสียชีวิตรวม 25 ราย ขณะที่รายงานความเสียหายจากมณฑลอื่นๆก็ทยอยออกสู่หน้าสื่ออาทิ เหตุโรงงานเฟอร์นิเจอร์ในเซี่ยงไฮ้ถล่ม เนื่องจากหิมะตกหนักจนหลังคามิสามารถรับน้ำหนักได้
เมื่อวันอังคาร (29 ม.ค.) นายกรัฐมนตรีเวินเจียเป่าได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์ที่มณฑลหูหนัน หนึ่งในมณฑลที่ได้รับผลกระทบหนักด้วยตัวเอง พร้อมกล่าวขอโทษต่อความล่าช้าของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา “ผมขออภัยอย่างสุดซึ้ง ที่พวกท่านต้องติดค้างอยู่ ณ สถานีรถไฟแห่งนี้ และมิสามารถกลับไปฉลองตรุษจีนที่บ้านได้เร็วกว่านี้ เรากำลังพยายามอย่างที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหา ท่านทั้งหลายจะได้กลับบ้านในช่วงตรุษจีน” เวินแถลงผ่านเครื่องกระจายเสียง ล่าสุดเมื่อวันพุธ (30 ม.ค.) เวินได้เดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟกว่างโจว (กวางเจา) มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) พร้อมกล่าวขอโทษด้วยข้อความที่คล้ายกัน
ทั้งนี้รัฐบาลได้สั่งให้ทหารกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนกว่า 500,000 นายเข้าช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยตามมณฑลต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ ท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวนที่ปราศจากวี่แววคลี่คลาย หน่วยทหารได้เข้าให้ความช่วยเหลือส่งอาหาร และน้ำดื่มให้กับประชาชนที่ติดค้างตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งยังเร่งปรับพื้นที่กวาดหิมะออกจากทางสัญจรหลัก
ถนนรวมทั้งทางรถไฟหลายสายไม่สามารถใช้การได้ เนื่องจากกลายสภาพเป็นลานน้ำแข็ง ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต ผู้คนมิสามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ยังส่งผลให้การขนส่งถ่านหิน ทรัพยากรหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าพลอยสะดุดตาม ล่าสุด 17 มณฑลจาก 31 มณฑลของจีนประสบปัญหาไฟตก และดับในบางส่วนของมณฑล
บริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่งอาทิ ฟอร์ด, โตโยต้า, ฮอนด้า และเปอโยต์ ซึ่งส่วนมากมีโรงงานผลิตอยู่ที่มณฑลกว่างตง ประกาศยุติการผลิตชั่วคราว เนื่องจากภาวะขาดแคลนไฟฟ้า ซึ่งมีสาเหตุมาจากหิมะตกหนัก
รุมอัดรัฐบาลยับ
ด้านบทบรรณาธิการของเซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ วิจารณท่าทีของรัฐบาลจีนว่า “วัวหายล้อมคอก”
“ปักกิ่งไม่เตรียมแผนการรับมือกับภัยพิบัติทำนองนี้ เมื่อเกิดภัยธรรมชาติอาทิ แผ่นดินไหว หรือน้ำท่วมทีไร ก็มักประกาศปฏิบัติการฉุกเฉินตอบโต้ นำโดยเจ้าหน้าที่ระดับรองนายกรัฐมนตรี ทว่าภัยพิบัติที่เกิดขึ้น มีลักษณเฉพาะระดับท้องถิ่น ซึ่งควรใช้มาตรการตอบโต้เฉพาะพื้นที่ การตอบโต้วิกฤตการณ์ยังขาดยุทธศาสตร์ รวมทั้งการวางแผนบำรุงรักษาสาธารณูปโภคพื้นฐานของพลเรือน และการบังคับใช้มาตรการฉุกเฉิน แถมช่วงนี้ยังเป็นฤดูโยกย้ายตำแหน่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางรายรู้ตัวว่าจะโดนเด้ง ข่าวดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อการตอบโต้สถานกาณ์อากาศวิปลาส”
ขณะเดียวกันกลุ่มนักวิชาการก็รุมอัดรัฐบาลจีนที่มิสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุประสิทธิผล พอล แฮร์ริส จากมหาวิทยาลัยหลิงหนัน ฮ่องกง กล่าวว่า “ในฐานะประเทศกำลังพัฒนา ที่มีประชากรกว่าครึ่งอยู่ในสภาพยากจน เหตุการณ์นี้ย่อมส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อจีน ทว่าสิ่งที่เราได้เห็นคือความไร้สมรรถภาพของรัฐบาล ที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาดังกล่าว” พร้อมกันนี้ แฮร์ริสยังชี้ที่มาของปัญหาว่าเกิดจากประเด็นโลกร้อน
หวังฉีเหว่ย นักพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาจีนยอมรับว่า “วิกฤตดังกล่าวเกิดจากปัญหาโลกร้อน และวิกฤตครั้งนี้เตือนเราว่า ควรเอาใจใส่กับสิ่งแวดกล้อมมากขึ้น”
“ใครจะไปคิดว่า หิมะจะตกทางภาคใต้ของจีน จีนจะได้รับผลกระทบหนักจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และจีนเองก็ต้องพยายามรับมืออย่างดีที่สุด” หยางอ้ายหลุน จากกลุ่มกรีนพีซ ประเทศจีนกล่าว
จีนประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติมาแล้วหลายครั้ง และคราวนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในครั้งที่ร้ายแรงที่สุด เมื่อปี 2006 อุณหภูมิในจีนร้อนที่สุดในรอบ 55 ปี ส่วนปีที่แล้วก็เกิดภาวะแห้งแล้งที่สุดในรอบทศวรรษ
“ภัยพิบัติจากโลกร้อนจะร้ายแรง และถี่ขึ้นเรื่อยๆ ชนชั้นล่างของจีนจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด จนอาจทำให้สังคมจีนโกลาหลได้ รัฐบาลจีนทุ่มเงินมหาศาลไปกับการสร้างสนามกีฬาโอลิมปิก ส่งยานอวกาศ พัฒนายุทโธปกรณ์ แต่ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลับไม่ได้รับความสนใจเป็นหนึ่งในประเด็นหลัก สำหรับการวางแผนเศรษฐกิจ ผมคิดว่านี่เป็นปัญหาสำคัญ” แฮร์ริสกล่าว
ชี้นโยบายรัฐทำปัญหาหนัก
หลายฝ่ายคาดว่าอากาศวิปลาสครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน ดันอัตราเงินเฟ้อพุ่ง เนื่องจากอากาศหนาวอย่างรุนแรงส่งผลต่อพื้นที่เพาะปลูก ขณะเดียวกันยังทำให้การขนส่งสินค้า และปัจจัยการผลิตต่างๆหยุดชะงัก
เมื่อวันอังคารปักกิ่งเผยว่า จะอัดฉีดเงินสนับสนุนให้กับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำเพิ่ม หากเงินเฟ้อยังพุ่งทะยานไม่หยุด เนื่องจากปัจจัยราคาอาหารและเชื้อเพลิงพุ่งในช่วงที่ผ่านมา บวกกับอากาศแปรปรวน อาจทำให้แรงกดดันอัตราเงินเฟ้อในเดือนมกราคมหนักกว่าที่คาด ล่าสุดราคาอาหารที่ถีบตัวสูงขึ้นทำให้ชาวจีนในบางมณฑล ลดการบริโภคอาหารจาก 3 มือเหลือเพียง 2 มื้อ
แม้รัฐบาลจะออกมาแถลงเตรียมฉีดเงินแก้ปัญหา ทว่ากระแสวิจารณ์ท่าทีและนโยบายรัฐต่อวิกฤตหิมะกระหน่ำก็ยังไม่หยุด กระวิจารณ์หนาหูอันหนึ่งระบุว่า ปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า ณ ปัจจุบัน ที่จริงแล้วมีส่วนสำคัญจากนโยบายรัฐเมื่อปี 2007 ที่ทางรัฐบาลไล่ปิดโรงงานถ่านหินรายย่อย จนการผลิตถ่านหิน ณ ปัจจุบันไม่พอป้อนโรงไฟฟ้า นอกจากนี้การที่รัฐบาลหวั่นประชาชนไม่พอใจ จึงสั่งแก้ปัญหาราคาสินค้าที่สูงขึ้นด้วยการคุมราคาทำให้ปัญหายิ่งบานปลาย
การคุมราคาน้ำมัน และไฟไฟฟ้าทำให้ผู้ผลิตขาดแรงจูงใจที่จะผลิตเพิ่ม ส่งผลให้ ปัจจุบันเกิดปัญหากระแสไฟฟ้าขาดแคลนในหลายมณฑล