รอยเตอร์ – เมืองน้ำแข็งแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจีนอย่างเมืองฮาร์บิน กำลังประสบปัญหาน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว นักวิทยาศาสตร์ชี้เหตุเพราะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจากภาวะโลกร้อน
จากสถิติอุณหภูมิเฉลี่ยเมืองฮาร์บินเมื่อปี 2007 อยู่ที่ 6.6 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดที่เคยมีมา โดยทั่วไปแล้วอุณหภูมิเฉลี่ยของฮาร์บินในทุกปีจะอยู่ที่ 3.5 องศาเซลเซียส ทั้งนี้เพราะเมืองฮาร์บินติดกับดินแดนไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย และจากผลพวงดังกล่าวได้ส่งผลกระทบไปยังเทศกาลน้ำแข็ง ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้
“ในปี 2002 โคมไฟที่สร้างขึ้นจากการแกะสลักอย่างสวยงามในเทศกาลน้ำแข็งฮาร์บิน เกิดการละลายอย่างรวดเร็ว เมืองน้ำแข็งทั้งหลายต่างละลายเป็นแม่น้ำ” อิ่นเสี่ยว์เหมี่ยนนักอุตุนิยมวิทยาประจำศูนย์ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาเฮยหลงเจียงกล่าวต่อผู้สื่อข่าว
กระทั่งปี 2006 ปัญหาดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น และทำให้คณะกรรมการที่จัดเทศกาลน้ำแข็งต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาหาศาลในการซ่อมแซมปะติมากรรมน้ำแข็ง อีกทั้งอุณภูมิที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ระยะเวลาจัดเทศกาลน้ำแข็งสั้นลง
เนื่องจากภาวะโลกร้อนที่ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้า ด้านแดนมังกรก็ระบุว่าจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทำให้ประสบกับปัญหาพื้นที่เพาะปลูกลดน้อยลง เนื่องจากธารน้ำแข็งละลายตัวอย่างต่อเนื่อง
“ที่ผ่านมาหัวข้อภาวะโลกร้อนจำกัดอยู่ในวงแคบๆ แต่ปัจจุบันหลังจากมีการเผยถึงข้อมูลและสถิติอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี ทำให้เราตระหนักถึงความน่ากลัวของมันมากยิ่งขึ้น” อิ่นเสี่ยว์เหมี่ยนบอกผ่านผู้สื่อข่าว
ปัจจุบันทุกพื้นที่ในประเทศจีนนอกจากจะประสบกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นแล้ว ปัญหาความแห้งแล้งและน้ำท่วมก็ไม่หยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย และท่ามกลางการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนของนานาประเทศ จีนเป็นผู้ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดแซงหน้ายักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม จีนก็ออกมาปฏิเสธที่จะทำตามข้อตกลงพิธีสารเกียวโต พร้อมระบุว่าควรที่จะให้ประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นผู้นำร่องปฏิบัติ อีกทั้งชี้ว่าประเทศมหาอำนานจควรสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานสะอาดให้กับประทศที่กำลังพัฒนาอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันคณะกรรมการจัดงานเทศกาลน้ำแข็งเมืองฮาร์บิน ก็ได้มีการหารือเกี่ยวกับวิธีการชะลอการละลายตัวของปะติมากรรมน้ำแข็งแกะสลัก