ฝรั่งเศสลุกเป็นไฟ! ต้นตอของความไม่สงบในประเทศ เกิดจากการเสียชีวิตของ “นาเอล เอ็ม.” เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงระหว่างหยุดรถของเขาที่นองแตร์-ย่านชานเมืองกรุงปารีส และในคืนเดียวกันนั้น ร้านค้าจำนวนมากในปารีส ก็ถูกทำลายและปล้นสะดม โดยเฉพาะ ย่านชาเตอเลต์ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและชาวปารีส รวมถึงย่านถนนริโวลีที่มีชื่อเสียงด้วย
เจ้าของร้านขายเครื่องสำอางริมถนนริโวลีเล่าว่า ความโกลาหลเริ่มขึ้นเมื่อผู้ชุมนุมประท้วงจุดไฟเผารถยนต์ จากนั้นก็ทำลายทุกสิ่งที่เป็นของรัฐ และทุบกระจกร้านค้าเพื่อฉกฉวยข้าวของ สมาคมนายจ้างของบริษัทฝรั่งเศสประเมินความเสียหายว่า มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านยูโร สาขาธนาคารกว่า 300 แห่ง ร้านขายยาสูบ 250 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 220 แห่ง และร้านค้าปลีกราว 1,200 แห่ง ถูกปล้นและทุบทำลาย
ในย่านชาเตอเลต์ มีกราฟิตีบนผนังอาคารที่ส่อถึงการจลาจล ผู้ประท้วงพ่นสีว่า ‘ตำรวจฆ่าประชาชน’ ‘คืนความยุติธรรมให้นาเอล’ ฯลฯ หนึ่งสัปดาห์หลังจากจลาจลทุกอย่างเกือบจะกลับสู่ภาวะปกติ นักท่องเที่ยวเริ่มผ่านไปบนถนนชอปปิ้ง มีผู้คนขวักไขว่ขึ้น แต่ยังเหลือร่องรอยให้เห็น เช่น ถังขยะที่ถูกเผา ด้านหน้าอาคารหลายแห่งพังยับเยิน หรือร้านขายเครื่องประดับ Mauboussin ต้องใช้แผ่นไม้อัดมาตอกปิดบานกระจกที่ถูกทุบแตก หรือบริเวณตรงข้ามห้างดัง Samaritaine ก็มีแผ่นไม้สีน้ำตาลปิด ร้านขายเสื้อผ้า Caroll ที่อยู่ใกล้เคียง แม้จะรอดพ้นแต่ก็ยังคงใช้ไม้อัดมาปิดทับบานกระจก เพื่อความปลอดภัย
ช่วงเกิดเหตุวุ่นวาย การจองเที่ยวบินลดลง 33-41% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเดียวกัน ส่วนโรงแรมในย่านที่เกิดเหตุ อย่าง L’Empire แม้ว่าไม่ได้รับความเสียหาย แต่นักท่องเที่ยวก็หวาดกลัว จึงยกเลิกการจองห้องพัก
สัปดาห์ต้นเดือนกรกฎาคม แม้ดีไซเนอร์บางคน อย่าง “เฮดี สลิมาน” กับแบรนด์ Celine จะแจ้งยกเลิกงานโชว์สำหรับแฟชั่นวีกในปารีส แต่อีกหลายแบรนด์ยังคงโชว์กันต่อไป โดยเฉพาะ ค่าย Schiaparelli ซึ่งมีเซเลบเดินทางไปร่วมงานอย่างคับคั่ง ทั้ง คาร์ดิ บี, เทรซี เอลลิส รอสส์, แอนนา วินทัวร์ และอีกนับร้อยคน แน่นอนว่า คาร์ดิ บี ซึ่งเป็นแขกพิเศษ สวมใส่ Schiaparelli ที่ไม่ใช่จากฤดูกาลปัจจุบัน แต่สั่งทำพิเศษ เธอสวมเสื้อโค้ตขนนกขนาดใหญ่ พร้อมต่างหูรูปใบหูขนาดใหญ่เช่นกัน
งานโชว์เริ่มจริงจังราวกับว่าไม่มีเหตุจลาจลเกิดขึ้น รถไฟใต้ดินมีผู้โดยสารเนืองแน่น บนถนนเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว คาเฟ่และร้านอาหารมีลูกค้าเต็มร้าน มีงานโชว์ของ Dior ต่อด้วย Nine d’Urso และดีไซเนอร์รุ่นใหม่วัย 23 Charles de Vilmorinทั้งยังมีโชว์ของ Chanel บริเวณริมฝั่งแม่น้ำแซน, Armani ก็หอบเอาความหรูหราบางเบาของไลน์ Privé มาโชว์ ส่วน Valentino ก็นำเสนอคอลเลกชันกูตูร์ ที่ ชาโต เดอ ช็องติลญี ใกล้กรุงปารีส
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ในเมืองใหญ่เมืองเดียวกัน อย่างที่เขาว่า “ปารีสไม่เคยนิ่งงันหรือหลับใหล”