หุ้นของวอลมาร์ทพุ่งขึ้นมากกว่า 10% ทำให้ครอบครัวผู้บริหารร่ำรวยเพิ่มขึ้นอีกถึง 11.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีความรวยของบลูมเบิร์ก รายงานว่า ทายาทของ วอลมาร์ท มีทรัพย์สินรวมกับถึง 163.2 พันล้าน ซึ่งมากกว่าเจฟฟ์ เบซอส, บิล เกตส์ และวอร์เรน บัฟเฟตต์
ครอบครัววอลตัน ผู้บริหารวอลมาร์ท นับว่าร่ำรวยที่สุดในอเมริกา และในโลก พวกเขาร่ำรวยกว่าครอบครัวที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 2 อย่างครอบครัวโค้ชที่ทำธุรกิจด้านพลังงานถึง 70 พันล้านดอลลาร์
ลูกๆ ทั้ง 3 ของ แซม วอลตัน ผู้ก่อตั้งวอลมาร์ท ล้สนมีส่วนร่วเป็นเจ้าของกิจการที่พ่อสร้างขึ้น วอลมาร์ทเป็นแหล่งค้าปลีกที่ใหญที่สุดในโลก เมื่อวัดจากรายได้รายปีที่ได้ถึง 500 พันล้านดอลลาร์ โดยมีกว่า 12,000 สาขาทั่วโลก
ใน 3 พี่น้อง มีเพียง ร็อบพี่ชายคนโต ที่นั่งอยู่ในบอร์ดบริหารของวอลมาร์ท โดย เจมส์น้องชายของเขาเคยอยู่ในบอร์ดจนกระทั่งปี 2016 ก่อนจะให้ลูกชายของเขามานั่งแทน
สำหรับ อลิศ วอลตัน น้องนุชสุดท้อง ไม่เคยทำหน้าที่บริหารธุรกิจของครอบครัวเลย เธอไปเอาดีทางสะสมและสนับสนุนศิลปะ
ตอนที่บริษัทเป็นธุรกิจขาขึ้น ทั้งครอบครัวมีรายได้คนละหลายๆ ล้าน พวกเขาใช้ชีวิตแบบคนยุคใหม่ อย่างน้อยก็เบื้องหน้าสาธารณะ
แซม วอลตัน (พ่อ) ที่เสียชีวิตในปี 1992 ได้เปิดร้านวอลมาร์ทขึ้นครั้งแรกในอาร์คันซอส์ เมื่อปี 1962
เขาแต่งงานกับเฮเลน ร็อบสัน ทั้งคู่มีลูกด้วยกับ 4 คน คือร็อบ จอห์น จิม และอลิศ
ซามูเอล ร็อบสัน “ร็อบ” วอลตันพี่ชายคนโต นั่งตำแหน่งประธานบริหารวอลมาร์ท ตั้งแต่ปี 2015
เขามีบ้านในพาราไดซ์ วัลลีย์ รัฐแอริโซนา ใกล้ๆ ตีนเขาคาเมลแบ็ค เมาน์เทน ซึ่งในอดีตเคยมีพนักงานวอลมาร์ทมาเดินขบวนประท้วงของขึ้นค่าแรงถึงหน้าบ้าน
ร็อบ ยังสะสมรถยนต์วินเทจไว้เป็นจำนวนมาก ในปี 2013 เขานำรถเดย์โทนา คูเป้ สนนราคา 15 ล้านดอลลาร์ออกมาขับ แล้วรถแฉลบออกข้างทาง และพังยับเยิน วินเทจคาร์คันนี้ผลิตออกมาเพียง 5 คันเท่านั้น
จอห์น วอลตัน พี่ชายคนรอง เสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินตกในปี 2005 ขณะที่อายุได้ 58 ปี เขาแต่งงานกับคริสตี วอลตัน และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน คือ ลูคัส จอห์นได้ทิ้งหุ้น 17% ไว้ให้ภรรยาของเขา ส่วนที่เหลือเขาเขียนพินัยกรรมไว้ว่ามอบให้ลูกชาย และองค์กรการกุศล
เจมส์ “จิม” วอลตัน น้องชายคนเล็ก น่าจะร่ำรวยถึง 42.1 พันล้านดอลลาร์ เขานั่งเป็นประธานบอร์ด ธนาคารอาร์เวสต์ อีกหนึ่งธุรกิจของครอบครัว ถึงมีทรัพย์สินราว 18 พันล้านดอลลาร์ เขาเคยนั่งในบอร์ดของวอลมาร์ท ก่อนที่ สจวร์ต ลูกชายจะมานั่งแทนในปี 2016
น้องสาวคนสุดท้อง อลิศ วอลตัน แม่ไม่เคยทำหน้าที่บริหารธุกิจครอบครัว แต่เธอก็มีหุ้นที่มีมูลค่าถึง 40.4 พันล้านดอลลาร์ เธอแต่งงานและหย่ามาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่มีลูก
อลิศชื่นชอบในงานศิลปะตั้งแต่เด็ก ตอนเธออายุ 10 ขสบ เธอก็เริ่มซื้องานศิลปะชิ้นแรก เป็นชิ้นงานก๊อบปีงานปิกัสโซราคา 2 ดอลลาร์ จนถึงปัจจุบัน เธอสะสมผลงานของแอนดี วอร์ฮอล์ และ จอร์เจีย โอคีฟ ไว้จำนวนหนึ่ง
อลิศ ยังเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะ คริสตัล บริดจ์ เพื่อที่จะใช้เป็นที่เก็บงานศิลปะมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ที่เธอสะสม ตอนที่เปิดใหม่ๆ นั้นใช้เงินทุนมากกว่าพิพิธภัณฑ์ศิลปะวิทนีย์ ที่โด่งดังในนิวยอร์กถึง 4 เท่า
ในปี 2014 อลิศ ซื้อภาพของจอร์เจีย โอคีฟถึง 44.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนับว่าเป็นภาพเขียนของสตรีที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์
อลิศยังเพาะพันธุ์ม้า ที่ ร็อกกิล ดับเบิลยู แรนช์ ที่ดินขนาด 250 เอเคอร์ของเธอในมิลล์แซป รัฐเท็กซัส มูลค่า 16.5 ล้านดอลลาร์ ที่เต็มไปด้วยวัว และม้า
เธอยังมีที่ดินขนาด 4,416 เอเคอร์ในรัฐเท็กซัส มูลค่า 22 ล้านดอลลาร์ ที่เธอปลูกบ้านทรงโมเดิร์นขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แถมพกด้วยวิวแม่น้ำ
อลิศยังมีคอนโด 2 ชั้นที่พาร์คอเวนิว ในนิวยอร์กพื้นที่กว่า 6,000 ตารางฟุต โดยเธอซื้อมา 25 ล้านดอลลาร์ในปี 2014 คอนโดมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ 52 บาน ที่มองออกไปจะเห็นวิวของเซ็นทรัลพาร์คอย่างถนัดตา
ในปี 2016 อลิศ บริจาคเงิน 3.7 ล้านจากส่วนแบ่งในวอลมาร์ทของเธอให้กับมูลนิธิครอบครัววอลตัน โดยมีผูร่วมบริจาคเข้ามูลนิธิถึง 530 ล้านดอลลาร์ ในปี 2017