หากพูดถึงฟาสต์แฟชั่นที่ครองใจคนหมู่มาก ที่สวีเดนมีเอชแอนด์เอ็ม สเปนมีซาร่า ถ้าเป็นที่จีนแผ่นดินใหญ่จะเป็นแบรนด์อะไรถ้าไม่ใช่ เมเทอร์ส/บอนวี
โจวเชิงเจียน มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งแบรนด์ เมเทอร์ส/บอนวี มีพื้นเพเป็นลูกชาวนา แถมยังเคยล้มละลายถึง 2 ครั้งก่อนเขาจะอายุ 18 เสียอีก
ทุกวันนี้ เมเทอร์ส/บอนวี มีร้านสาขามากกว่า 3,900 แห่งทั่วประเทศจีน ไม่นับรวมที่ขายส่วนใหญ่ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ กับคอลเลกชันใหม่ๆ มากกว่า 3,000 ไอเท็มต่อปี กับมูลค่าทรัพย์สินของโจวเชิงเจียน ราว 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าไม่เลวเลยสำหรับช่างเสื้อที่ต้องเลิกเรียนกลางคันอย่างเขา
เป้าหมายของโจวเชิงเจียน คือ การทำให้ เมเทอร์ส/บอนวี เป็นแบรนด์แฟชั่นระดับโลก แม้ว่าจุดเริ่มต้นของแบรนด์จะอยู่ที่เมืองเล็กๆ ในป่าเขาของจีนอย่างชายฝั่งของเมืองเจ้อเจียงก็ตาม
สมัยเด็กๆ โจวเชิงเจียนถูกพ่อแม่เลี้ยงแบบตามใจ เขามักจะมีข้ออ้างดีๆ ทำให้ไม่ต้องช่วยที่บ้านทำงานในฟาร์ม ครั้งหนึ่งตอนอายุ 8 ขวบ เขาเข้าไปซื้อข้าวของจำเป็นในเมือง นำกลับมาขายในหมู่บ้านเพื่อเอากำไร
โจวเชิงเจียน เลิกเรียนหนังสือตอนอายุ 12 และเริ่มศึกษาเรื่องการค้าขายเสื้อผ้า เขาเปิดกิจการแรกในปี 1982 นั่งตัดเย็บเสื้อผ้าตอนกลางคืน แล้วนำออกมาขายในตอนกลางวัน
ตอนที่ได้รับคำสั่งซื้อมูลค่า 74,000 ดอลลาร์ โจวเชิงเจียน ตาโตว่าโชคของเขามาถึงแล้ว เงินจำนวนนั้นจะทำให้เขามีทุนจ้างคนเป็นร้อยมาเย็บผ้า แต่ฝันก็สลายในพริบตาเมื่อลูกค้ารับของไปแต่ไม่จ่ายตังค์ เพราะบอกว่าสินค้าไม่ได้คุณภาพ ธุรกิจแรกของเขาจบลงด้วยการล้มละลาย นับเป็นการล้มละลายครั้งที่ 2 หลังจากตอนอายุ 14 ที่เคยถูกหลอกขายเหรียญโบราณปลอม
“ผมอายุยังไม่ถึง 18 เลย แต่มีหนี้สินรุงรัง แต่ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เพราะฉะนั้นก็อย่าได้แคร์”
ความล้มเหลวบางทีก็กลายเป็นจุดเปลี่ยน คืนหนึ่งระหว่างที่ โจวเชิงเจียน กำลังขึ้นแบบสูทตัวใหม่ เขาเผลอตัดแขนเสื้อสูทสั้นเกินไป ซึ่งแทนที่จะโยนทิ้ง เขาก็ปรับเปลี่ยนให้เป็นชุดที่ลำลองขึ้น นั่นนับเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ เมเทอร์ส/บอนวี
ก่อนจะมีแบรนด์ลูกๆ ทั้ง มี แอนด์ ซิตี้ มี แอนด์ ซิตี้ คิดส์ และมูมู่ ตามออกมาตอบสนองทุกแฟชั่นไลน์ ตั้งแต่หนุ่มสาวออฟฟิศ เสื้อผ้าวัยรุ่น ชุดออกกำลังกาย ฯลฯ และย้ายฐานการผลิตจากชนบทมาอยู่แถวๆ เมืองเซี่ยงไฮ้