จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวัน เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือนในวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ดูไม่ค่อยดีนักในมณฑลเหอเป่ย ติดกับกรุงปักกิ่ง
เหอเป่ย ซึ่งเข้าสู่โหมดช่วงเวลาแห่งสงครามเมื่อวันอังคาร (5 ม.ค.) รายงานพบผู้ติดเชื้อระดับท้องถิ่น 51 จากทั้งหมด 52 เคส ตามข้อมูลของคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติในวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) เพิ่มขึ้นอย่างมากจากหนึ่งวันก่อนหน้านี้ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน อยู่ที่ 20 ราย
ยอดรวมทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ของเคสผู้ติดเชื้อรายวัน อยู่ที่ 63 คน เพิ่มขึ้นจากระดับ 32 คนหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ส่งผลให้มันเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม โดยคราวนั้นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันทั้งสิ้น 127 คน
ส่วนจำนวนคนไข้ที่ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการรายวัน อยู่ที่ 79 คนในวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) เพิ่มขึ้นจากระดับ 64 คนของหนึ่งวันก่อนหน้านี้
ข้อมูลของคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ ระบุด้วยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมโควิด-19 ในจีนแผ่นดินใหญ่ นับตั้งแต่การแพร่ระบาดเริ่มต้นขึ้นในเมืองอู่ฮั่น ในช่วงปลายปี 2019 เวลานี้อยู่ที่ 87,278 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตไม่มีการเปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 4,634 ราย
เจ้าหน้าที่ในฉือเจียจวง เมืองเอกของมณฑลเหอเป่ย ได้เริ่มโครงการตรวจเชื้อหมู่ไปแล้ว และมีคำสั่งห้ามการรวมตัวของประชาชน ในความพยายามลดการแพร่ระบาของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะเดียวกันนักเดินทางจำเป็นต้องมีผลตรวจโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมง “เป็นลบ” ถึงจะได้รับอนุญาตให้โดยสารรถไฟหรือขึ้นเครื่องบินในมณฑลแห่งนี้
ในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ซึ่งรายงานพบผู้ติดเชื้อระดับท้องถิ่นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกชาวบ้านในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงปานกลางและเสี่ยงสูง ถูกห้ามออกนอกเมือง ส่วนประชาชนในพื้นที่อื่นๆ ได้รับคำแนะนำว่าให้ระงับการเดินทางที่ไม่จำเป็นออกนอกมณฑลเหลียวหนิงเอาไว้ก่อน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ในเมืองมณฑลกวางตุ้ง ระบุในช่วงค่ำวันพุธ (6 ม.ค.) รายงานพบคนไข้รายหนึ่ง ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ชนิดเดียวกับพบในแอฟริกาใต้ ซึ่งมันแพร่เชื้อที่ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมหลายเท่า
พวกนักวิทยาศาสตร์บางคนแสดงความกังวลว่าวัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบันที่เริ่มโครงการฉีดไปแล้วหรือกำลังเปิดตัวออกมา อาจไม่สามารถปกป้องมนุษย์จากตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้
(ที่มา : รอยเตอร์)
