xs
xsm
sm
md
lg

“แคเทอรีน จีน ไบเดน” แม่ผู้เป็นแรงบันดาลใจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม้ว่า แคเทอรีน “จีน” ไบเดน จะลาจากโลกไปถึง 10 ปีแล้ว แต่สำหรับ โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ แม่จีนยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเข้ามาทำงานการเมืองของเขาในทุกวันนี้


กับคะแนนโหวต 290 เสียง นับว่า โจ ไบเดน แหย่เท้าเข้ามาในทำเนียบขาวแล้วมากกว่าครึ่งตัว ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในนามพรรคเดโมแครต เขามักจะมีโควตคำพูดเก๋ๆ ซึ่งขอยืมมาจากแม่จีนมาใช้เสมอๆ เช่นว่า “เราไม่สามารถรักใครได้หรอก หากไร้ความกล้าหาญ”

แคเทอรีน ยูจีเนีย ฟินเนแกน ไบเดน ที่ครอบครัวเรียกเธอสั้นๆ ว่า จีน เกิดเมื่อปี 1917 ในเพนซิลเวเนีย เธอสมรสกับ โจ ไบเดน ซีเนียร์ ในปี 1941 และปีถัดมาก็มี โจ ไบเดน จูเนียร์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ


ครอบครัวไบเดน ย้ายมาตั้งรกรากในเดลาแวร์ และยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งทั้งพ่อและแม่ ต่างหล่อหลอมให้ โจ ไบเดน จูเนียร์ เติบโตขึ้นมาเป็นนักการเมือง โดยเฉพาะมารดานั้นเป็นแรงบันดาลใจคนสำคัญ

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กเกอร์ รายงานว่า สมัยเด็กๆ เคยมีแม่ชีในโรงเรียนล้อเลียนโจ จูเนียร์ว่า พูดติดอ่าง แม่จีนผู้เคร่งศาสนารู้เข้าก็ไปเอาเรื่องทันที “ถ้าซิสเตอร์ล้อเลียนลูกชายของฉันแบบนั้นอีก ฉันจะกระชากผ้าคลุมหัวซิสเตอร์ออกมาแน่ๆ คอยดู” จีน พยายามช่วยให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลิกพูดติดอ่างอย่างเต็มกำลัง โดยบอกว่า เป็นเพราะโจอี้ฉลาดเกินไปทำให้สมองคิดไปไวกว่าปากจะพูดได้ทัน”


จีน ยังช่วยให้โจ จูเนียร์ ผ่านพ้นเหตุการณ์เลวร้าย เมื่อครั้งที่ภรรยาคนแรก นีลเลีย ฮันเตอร์ กับลูกสาววัยทารก นาโอมิ ไบเดน ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต ช่วยเขาหาเสียงเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกในปี 1972 หาเสียงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ปี 2008 และตอนสมัครเป็นรองประธานาธิบดีด้วย

ที่สำคัญ จีน และครอบครัวทางฝั่งแม่ มีบทบาทสำคัญทำให้โจ ไบเดน จูเนียร์ เลิกดื่มเหล้า โดยเขาให้เหตุผลว่า “ครอบครัวเรามีคนเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังเยอะเกินไปแล้ว”


ตอนที่ โจ ไบเดน ซีเนียร์ ตายในปี 2002 จีนบอกกับลูกชายให้สร้างบ้านสักหลัง เธอจะย้ายเข้าไปอยู่ แต่โจ จูเนียร์บอกว่า ไม่มีเงินพอจะสร้างบ้าน เธอก็เลยบอกให้ลูกๆ ขายบ้านหลังที่มีอยู่แล้วเอาเงินมาสร้างหลังที่เล็กกว่า ผลออกมาเป็นกระต๊อบขนาดกะทัดรัดที่ต่อเติมมาจากโรงรถในที่ดินของบ้านไบเดน ซึ่งแม่จีนเข้าอยู่อาศัยอย่างมีความสุข ก่อนจะจากไปเมื่อปี 2010 ในวัย 92 ท่ามกลางความรักของครอบครัวถึงรุ่นหลาน รุ่นเหลน

“ท่านเป็นศูนย์กลางแห่งความรักของครอบครัว คำสอนที่ท่านมีให้พวกเรานั้นมีคุณค่ามาก ท่านเป็นเข็มทิศให้เราผ่านพ้นวิกฤตในชีวิตมาได้ทุกครั้งไป ความเข้มแข็งของท่านไม่อาจที่วัดค่าได้ ท่านจะอยู่ในใจพวกเราเสมอ” โจ ไบเดน จูเนียร์ กล่าวในคำไว้อาลัย


กำลังโหลดความคิดเห็น