xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤต COVID-19 ส่ง เจฟฟ์ เบซอส แห่ง Amazon รวยเพิ่ม 6.4 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในวิกฤตมีโอกาสสำหรับบางคน อย่างเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก เจฟฟ์ เบซอส เจ้าของอาณาจักรแอมะซอน (Amazon) ที่อยู่ดีๆ ก็รวยเพิ่มขึ้นมาอีกกว่า 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงชีวิตของการ “ล็อกดาวน์” ทั่วโลก เนื่องจากการระบาดของโคโรนาไวรัส

นอกจากมูลค่าการซื้อขายในตลาดที่พุ่งขึ้นมาเกือบ 5 เปอร์เซ็นต์แล้ว ความต้องการสั่งสินค้าออนไลน์ก็ยังเพิ่มสูงขึ้นด้วย จนชักพาเงินจำนวนมากมาเข้ากระเป๋าของผู้ก่อตั้งแอมะซอน ล่าสุดต้องออกมาประกาศรับสมัครคนเพิ่มอีก 75,000 อัตรา จากเดิมมีอยู่แล้ว 1 แสนคน เพื่อตอบรับการขยายตัวของธุรกิจ (ซึ่งตำแหน่งงานใหม่นี้คนสมัครกันเต็มภายในวันเดียว)

ข้อมูลจากวันอังคารที่ผ่านมา หุ้นของแอมะซอนปิดการซื้อขายที่ 2,283.32 ดอลลาร์ จากมูลค่าเดิมที่เคยสูงสุดที่ 2,170.22 ดอลลาร์ ทำให้ เจฟฟ์ เบซอส ที่ถือหุ้น 11.2% นั้นรวยขึ้นทันทีอีก 6.4 พันล้านดอลลาร์ (เป็น 1.38 แสนล้านดอลลาร์) โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนเขาเพิ่งได้รับการจัดอันดับเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกติดต่อกัน 3 ปีซ้อน

เจฟฟ์ เบซอส ซึ่งก่อตั้งเว็บไซต์เพื่อการซื้อขายออนไลน์ amazon.com จากชั้นใต้ดินของบ้านที่ซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ในปี 1994 ยังได้แบ่งปันกำไรจากหุ้นให้ แมคเคนซี เบซอส อดีตภรรยาและผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ เป็นเงิน 36 พันล้านดอลลาร์อีกด้วย

การระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไปทั่วโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund - IMF) คาดการณ์ว่าจะย่ำแย่เสียยิ่งกว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำสมัยหลังสงครามโลก (Great Depression) เสียอีก แต่สำหรับเว็บไซต์แอมะซอน ที่กลายเป็นตอบโจทย์ความต้องการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ในช่วงการรณรงค์ให้คนอยู่บ้าน กลับแปรผกผันกับสภาพเศรษฐกิจในช่วงนี้



แอมะซอนต้องออกมาประกาศรับสมัครคนเพิ่มอีก 75,000 อัตรา จากเดิมมีอยู่แล้ว 1 แสนคน เพื่อมาตอบรับการขยายตัวของธุรกิจ โดยบรรจุเข้าทำงานในตำแหน่งสต๊อกสินค้าและพนักงานส่งสินค้า

จากจุดเริ่มของการขายหนังสือออนไลน์ มาเป็นขายทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบที่มีขายอยู่ใน amazon.com แล้ว ตอนนี้พวกเขายังร่วมมือกับ Whole Foods ซึ่งถือเป็นลำดับความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ในการส่งอาหารสดใหม่สู่มือผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม ในความอู้ฟู่ของผู้ก่อตั้ง ก็ใช่ว่าแอมะซอนจะมีแต่ทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ในช่วงการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสก็เกิดดรามาขึ้นแก่สำนักงานของแอมะซอนทั่วสหรัฐฯ โดยคนงานได้ออกมาประท้วงเรื่องมาตรการการรักษาความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานในโกดังสินค้า พนักงานขนส่ง และขายปลีก หลังจากมีรายงานการติดเชื้อ COVID-19 ในกลุ่มพนักงานเหล่านี้

รายงานข่าวว่า มีพนักงาน 3 รายถูกให้ออกหลังออกมาพูดเรื่องมาตรการความปลอดภัย ทั้งบาชีร์ โมฮัมเหม็ด จากโกดังสินค้าเมืองมินนิโซตา รวมทั้งพนักงานส่วนออกแบบ อย่างเอมีลี คันนิงแฮม และมาเร็น คอสตา


แอมะซอนแถลงว่า บาชีร์ถูกเชิญให้ออกเพราะเขาปฏิเสธการเจรจากับหัวหน้างาน ส่วนเอมีลีกับมาเร็นเจอข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงในบริษัท

ข้อพิพาททั้งหลายจบลงหลังจากที่แอมะซอนไล่ คริสเตียน สมอลล์ พนักงานอีกคนออก หลังเขาออกมาเป็นตัวแทนเรียกร้องมาตรฐานด้านสุขอนามัยในที่ทำงานในช่วงการระบาดของโรค COVID-19 จนแอมะซอนต้องทำการสาธิตให้โลกเห็นมาตรฐานความปลอดภัยผ่านสื่อ โดยยกตัวอย่างจากโกดังสินค้าบนเกาะสเตเทน นอกจากนี้ยังมีแผนจะขึ้นเงินเดือนให้พนักงานทุกตำแหน่ง

แอมะซอนคาดว่าจะใช้เงิน 500 ล้านดอลลาร์ในการเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานทั่วโลก จากเดิมที่จ่ายอยู่ราว 350 ล้านดอลลาร์/ต่อปี



กำลังโหลดความคิดเห็น