วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ไวรัสโควิด 19 (Covid-19)” หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่กำลังระบาดหนักอยู่ขณะนี้ โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวคราวเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากคุณปู่คุณย่าที่เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกลับมาแล้วเกิดการติดเชื้อไวรัส โดยปิดบังข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ จนทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และกระจายไปสู่หลานวัย 8 ขวบ สร้างความตื่นตระหนกต่อผู้คนในสังคมเป็นวงกว้าง และเกิดการตระหนักว่าทุกคนควรมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ไม่ควรปิดบังข้อมูลในการเดินทาง หรือเมื่อมีอาการไม่สบายควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาทันที
เพราะการแพร่เชื้อของไวรัสชนิดนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เซเลบคนดังหลายคนล้วนตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวมมากกว่าการนึกถึงผลประโยชน์ของตัวเอง ดังนั้นจึงมีหลายคนที่ได้โพสต์ในไอจีส่วนตัวเพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม แม้บางคนต้องจำใจเลื่อนงานสำคัญทั้งที่ลงทุนไปก่อนแล้วก็มี หรือบางคนเดินทางไปท่องเที่ยวทั้งในประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือไม่เสี่ยง ต่างก็รีบออกมาโพสต์ว่า เมื่อกลับมาแล้วจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
เริ่มที่ “หนุ่มมั๊งค์-ชัยลดล โชควัฒนา” ที่หลังจากพาลูกสาวไปเที่ยวญี่ปุ่นกลับมา ก็ต้องดูแลตัวเองและระมัดระวังไม่สัมผัสใกล้ชิดกับคนรอบข้าง “ผมพาลูกสาวไปเที่ยวโตเกียวมาช่วงต้นเดือน ตอนที่เดินทางไปยังไม่มีข่าวการระบาดหนักที่ญี่ปุ่นเลยครับ พออยู่ไปสักพักเริ่มมีข่าวมากขึ้นเรื่อยๆ แต่โชคดีที่ผมเป็นคนระมัดระวังเรื่องความสะอาดอยู่แล้ว พกพวกเจลแอลกอฮอล์ ทิชชูเปียกอยู่ตลอด ยิ่งพอมีข่าวก็ยิ่งใส่ใจเรื่องความสะอาด สุขลักษณะต่างๆ มากขึ้น เรียกได้ว่าจับอะไรปุ๊บล้างมือปั๊บ หรือเวลาเข้าร้านอาหารนี่คือฉีดแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดทุกอย่างเองหมดเลย ไม่ว่าจะโต๊ะ เก้าอี้ ช้อนส้อม ต้องมั่นใจว่าทุกอย่างสะอาด ปราศจากเชื้อโรคที่สุด
แล้วก็ตามข่าวว่าเมืองไทยหน้ากาก แอลกอฮอล์ ขาดตลาด ก็เลยคิดว่าจะซื้อจากที่โน่นกลับมาเผื่อไว้ แต่กลายเป็นว่าญี่ปุ่นยิ่งหาซื้อไม่ได้เลยเหมือนกัน พวกเจลล้างมือ หรือแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อต่างๆ เดินหาเป็น 20 ร้านก็ไม่มีของ หน้ากากพอจะเจอบ้างตามร้าน 100 เยน หรือร้าน Daiso แต่ก็จะจำกัดการขาย คนละ 1-2 ชิ้นเท่านั้น แต่สิ่งที่ดีอย่างคือ ของทุกอย่างราคาเท่าเดิม ไม่มีการขายโก่งราคา แม้ว่าบางอย่างจะหาซื้อยาก แต่ถ้ามีวางขายก็ขายในราคาเท่ากับเวลาปกติครับ
ตามที่ผมสังเกตคือ คนที่นั่นเขาไม่ถึงกับตื่นตูมนะครับ ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้มีกักตุนสินค้าอะไร เราจะเห็นว่าทุกคนใส่หน้ากาก แต่นั่นคือคนญี่ปุ่นเขาจะใส่หน้ากากปกติอยู่แล้ว ทั้งป้องกันเชื้อโรค ช่วงอากาศเปลี่ยน แล้วก็เรื่องแพ้ละอองเกสรดอกไม้
หลังกลับมาเมืองไทย ผมกับลูกก็ทำตามมาตรการควบคุมโรค พยายามไม่เข้าใกล้ผู้อื่น วัดไข้ตลอด ดูอาการตัวเอง แล้วก็ทำความสะอาดพื้นที่ที่เราอยู่ หรือสิ่งของที่เราสัมผัสตลอด เพื่อสุขภาพของทั้งตัวเราเองและคนรอบข้างครับ”
ด้านแม่มดสาวเจ้าเสน่ห์ “พาย-ภัทรียา ณ นคร” ที่ช่วงนี้กำลังสนุกสนานกับการเล่นสกีที่เมือง Niseko ประเทศญี่ปุ่น อันเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พอเกิดเหตุการณ์เชื้อไวรัสชนิดนี้มีความรุนแรงมากขี้นในประเทศไทย เจ้าตัวจึงออกมาโพสต์รับผิดชอบต่อสังคมไนไอจีส่วนตัวว่า “อย่าโกรธกันนะที่มาเที่ยวญี่ปุ่น เราสัญญาว่าหลังจากกลับจากเที่ยวจะอยู่ดูอาการที่บ้านไม่ออกไปไหน 2 อาทิตย์ และจะไม่ให้แม่บ้านเข้ามาทำบ้านด้วย จะไม่ออกไปไหนจะไม่เจอใคร หรือให้ใครมาเจอ”
ขณะที่ “ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์” ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ได้พาภรรยาและลูกแฝดทั้ง 2 คนไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลี อันเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงต้องห้ามเช่นกัน เจ้าตัวจึงโพสต์ในไอจีส่วนตัวว่า หลังจากที่ได้เดินทางกลับจากเกาหลี เขาและครอบครัวก็ได้เก็บตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วันตามคำเตือนของหลายๆ คน และเมื่อเวลาไปไหนมาไหนเขาและครอบครัวจะใส่มาสก์ทุกครั้ง ล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรค ที่สำคัญได้มีการวัดไข้สมาชิกในครอบครัวเป็นประจำทุกวันด้วย
ส่วนนักธุรกิจสาวคนเก่งเจ้าแม่ดิสนีย์แลนด์เมืองไทย “แพร-แพรพรรณ ธรรมวัฒนะ” ที่เตรียมจะจัดงานใหญ่ในเร็ววันนี้ แต่ด้วยเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เจ้าตัวจึงออกมาโพสต์ในไอจีว่า เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างหน้าที่ทางสังคมกับหน้าที่การงาน หน้าที่ทางสังคมและความปลอดภัยของทุกคนมาก่อน จึงเลื่อนการจัดงาน ATMOS CON BANKOK VOL.1 ‘UNBOX’ อันเป็นงานที่เจ้าตัวได้ลงทุนไปเรียบร้อยแล้วออกไปก่อน รอให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยกลับมาจัด เรียกว่าเป็นนักธุรกิจที่มีจิตใจรับผิดชอบต่อสังคมมากที่สุดอีกคนหนึ่งก็ว่าได้ ถึงแม้จะต้องขาดทุนก็ตาม แต่สังคมส่วนรวมย่อมมาก่อนเสมอ
อีกหนึ่งนักธุรกิจหญิงที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม “ขวัญ-ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์” ที่ได้ออกมาโพสต์ในไอจีส่วนตัวว่า ช่วงนี้งดบินทุกไฟลต์ แม้ว่าอาทิตย์หน้าต้องเดินทางไปทำงานที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ขอยกเลิกออกไปก่อนเพื่อความสบายใจของทุกคน แถมผู้บริหารคนเก่งยังได้ออกมาตรการเข้มกับพนักงานบริษัทในเครือ ชาริช โฮลดิ้ง กว่า 180 ชีวิตว่า ให้ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุขทุกประการด้วย ส่วนโชว์รูมของออฟฟิศก็ให้พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดตลอดเวลา เพิ่มเครื่องกรองอากาศ และเจลฆ่าเชื้อทุกจุด ตรวจวัดอุณหภูมิ ให้พนักงานใส่หน้ากากอนามัย หากไม่สบายให้หยุดงานทันที และงดเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนใครที่เดินทางไปประเทศในกลุ่มเสี่ยง ให้หยุดพักทำงานที่บ้านแทน
สำหรับช่างผมกรรไกรเพชร “พี่แดง-ดร.สมศักดิ์ ชลาชล” ที่ถึงแม้จะไม่ได้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เมื่อมีอาการป่วยก็รีบไปพบแพทย์ทำการตรวจรักษาโดยด่วน และปรากฏว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อสังคม สร้างมาตรฐานให้ช่างผมไทยมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เจ้าตัวขอแอดมิตพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าจะหายเป็นปกติ และขณะนี้พี่แดงก็หายแล้วจ้า แถมยังยืนยันว่าที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลแค่ 3 คืนก็ฟื้นตัวได้เร็วก็เพราะความมีวินัยในการออกกำลังกายของตัวเองด้วยนั่งเอง
ปิดท้ายที่ “เอ๋-กัญญารัตน์ พลาดิศัย” ที่ได้วางแผนการเดินทางไว้หมดแล้ว ทำให้ไม่สามารถยกเลิกการเดินทางได้ ที่สำคัญไม่ได้เดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง แต่เจ้าตัวก็ไม่วายมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ด้วยการโพสต์ในไอจีส่วนตัวว่า เนื่องจากการเดินทางไปต่างประเทศได้วางแผนไว้หมดแล้ว และไม่ได้เดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง แต่เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยแล้วจะเก็บตัวดูแลทำความสะอาดบ้านเป็นเวลาสองสัปดาห์เช่นกัน
