เบอร์ต้นๆ เรื่องความอลังการ ถ้าหากเราพูดถึงวงการเพชรบ้านเรา ผู้ที่มักสร้างเซอร์ไพรส์ ทอล์กออฟเดอะทาวน์ได้ทุกครั้ง คงต้องยกให้คนนี้ “ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ” ไฮโซห่มเพชร เจ้าของแบรนด์ “เจมส์ พีซ บาย ชูชัย” และเจ้าของโรงแรมที่เคยเป็นข่าวฮือฮาหน้าหนังสือพิมพ์อย่าง “ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา” แม้ว่าเราจะเห็นความ “จัดเต็ม” ทุกครั้งที่เจอตามงานอีเวนต์ของคุณชูชัย แต่คราวนี้เมื่อเราได้มาสัมผัสเจาะลึกเรื่องสไตล์การแต่งตัวของไฮโซห่มเพชรคนนี้แล้ว เขาบอกกับเราว่า ตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นคนเบาๆ เรียบๆ ง่ายๆ จริงหรือไม่เราต้องลองมาดูสไตล์เบาๆ ของขุ่นแม่กัน!
เป็นเวลา 20 กว่าปีแล้วที่ ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงเพชรนิลจินดา เริ่มต้นจากแบรนด์ “เจมส์ พีซ บาย ชูชัย” ที่เป็นจิวเวลรีชิ้นโตระดับอลังการ แตกไลน์มาเป็น “ซีทรู บาย ชูชัย” ที่เป็นเครื่องประดับชิ้นย่อมๆ ใส่ออกงานเบาๆ ได้ และแผนการใหม่ในยุคดิจอตอลนี้ กับแบรนด์น้องใหม่ที่ขุ่นแม่กำลังเตรียมปลุกปั้น!
“เจมส์ พีซ บาย ชูชัย เราทำมา 20 กว่าปีแล้ว แต่ด้วยความที่เราต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยและคู่แข่ง ตอนนี้กำลังจะทำจิวเวลรีที่เป็นยูนีคพีซกับเน้นเรื่องการขายออนไลน์ ในราคาที่จับต้องได้ อาจจะใช้ชื่อว่า “ชู ไดมอนด์” แต่ก็เข้าใจว่าการซื้อเพชรที่มีราคาเป็นแสนเป็นล้าน ลูกค้าก็คงต้องอยากเห็นเอง ซึ่งเราก็มีโชว์รูมไว้ต้อนรับอยู่แล้ว แต่ที่โฟกัสออนไลน์ เพื่อต้องการเพิ่มช่องทางการเห็นของคนรุ่นใหม่ ที่สนใจอยากลงทุน ซื้อเก็บ หรือไว้ใส่ในชีวิตประจำวัน"
และอีกหนึ่งธุรกิจที่หลายคนคงเคยได้ยิน กับโปรเจกต์อลังการแห่งคุ้งน้ำอัมพวา ที่อาจจะมีปัญหาในระยะแรก แต่ทุกวันนี้ความตั้งใจในการที่จะสร้างความเจริญให้กับชุมชน ก็ค่อยๆ พัฒนาเติบโตขึ้นสมความตั้งใจที่ลงทุน ลงแรงไป
“โรงแรมชูชัยบุรี ศรีอัมพวา ตอนนี้ฟีดแบคดี จนห้องพักไม่พอ! จากแรกๆ โดนแอนตี้ ตอนนั้นก็รู้สึกแย่นะ เราคิดว่าอยากทำอะไรให้ดีกับสังคม กลายเป็นถูกมองว่าไม่ดี ตอนนั้นก็ท้อนะ แต่ตอนนี้ผ่านมา 5 ปีแล้ว ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง อาจเป็นเพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีที่เที่ยวสวยงาม มีศาสนสถาน ลานรักลานศรัทธา มีพิพิธภัณฑ์ ที่เราชอบอัมพวาเพราะว่าวิถีชีวิตอัมพวาค่อนข้างสโลว์ไลฟ์ เราเป็นคนชอบแม่น้ำ กล้าพูดเลยว่าในอัมพวาไม่มีโรงแรมไหนสวยเท่าโรงแรม เรา เป็นเดอะเบสต์โลเกชั่น ลูกค้าที่พักโรงแรมก็สามารถไปเดินเที่ยวตลาดอัมพวาได้เลย ทำให้ตลาดคึกคักไปอีก
เราเคี่ยวเข็ญกับโรงแรมเยอะมาก กระเบื้อง พื้น ผนัง วอลเปเปอร์ต้องผ่านเราหมด เป็นคนที่ชอบทำงานแล้วต้องได้กล่อง เป็นประเภทเสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ คิดถึงคุณภาพที่ต้องเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือถ้าเป็นไปได้เกินร้อย เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด”
ไม่ใช่แค่เรื่องทำงานเท่านั้น แต่เรื่องของสไตล์ส่วนตัวของคุณพี่ชูชัย ก็เต็มร้อยด้วยเหมือนกัน แม้จะถ่อมตัวว่า ความจริงเป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ แต่เราก็แอบผัสผัสได้ถึงความอลังการส่วนตัวของไฮโซห่มเพชรคนนี้!
“สไตล์ที่แท้จริงของพี่ง่ายมากๆ เวลาอยู่บ้านใส่กางเกงบอล เสื้อยืดธรรมดาที่สุดเลย เราเป็นคนไม่แต่งหน้า ไม่ประทินผิวเลย คนไม่รู้อาจจะคิดว่าเราเข้าคอร์สเยอะ แต่ความจริงคือเปล่าเลย! อาบน้ำเสร็จใส่เสื้อผ้า ออกจากบ้านได้เลย ผมไม่เซ็ตด้วย (หัวเราะ) อย่างมากก็ตบแป้ง ทาลิปมันก็ไปได้แล้ว โชคดีที่เป็นคนผิวพรรณดี
ความจริงเราก็เป็นคนรักการแต่งตัว เป็นคนที่ชอบมิกซ์แอนด์แมตช์ มีความเป็นอาร์ตในตัว ไม่ติดแบรนด์ จะเห็นว่าบางครั้งเราใส่เสื้อผ้าหลักร้อยก็มีหลักพันก็มี แต่คนจะมองว่าเราใส่ของแพง เงินทองหายาก ซื้อแบรนด์ทุกชิ้นก็แอบเสียดายเงิน เอาเงินไปซื้อเพชรหรือทำบุญดีกว่า สไตล์ส่วนใหญ่ของเราชอบใส่เสื้อผ้าสีพื้นๆ แล้วมาเน้นที่เครื่องประดับ ชอบซื้อเสื้อผ้าญี่ปุ่น เพราะดีไซน์ชิคและมีไซส์ที่ใส่ได้ นอกจากนี้ ใส่แล้วไม่เหมือนใคร แต่ถ้าเป็นแบรนด์เนมที่ซื้อบ่อยๆ ก็จะเป็น D&G กับ อาร์มานี เพราะเสื้อผ้ามีลีลา ดูมีคลาส นอกจากนั้น ก็ให้ช่างตัดแบบที่เราอยากได้ รู้สึกว่าที่เราออกแบบเองนั่นแหละดีที่สุด เดี๋ยวนี้นักออกแบบแฟชั่นไทยเก่งอยู่แล้ว
แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องเยอะ เพราะคนชินกับลุคนั้น แต่ถ้าวันไหนแต่งน้อยคนจะคิดว่าป่วย (หัวเราะ) การแต่งตัวเยอะๆ ให้ดูบลิงค์ๆ นั้นง่าย แต่การจะแต่งให้น้อยแล้วดูแพงนั้นยาก พี่ขอเป็นสไตล์นิ่ง เรียบ แต่มีดีเทลดีกว่า คำว่ามีดีเทลเป็นการบ่งบอกถึงความเป็นอาร์ตในตัวเอง ว่าเราเป็นคนมีรสนิยมหรือเปล่า เราเป็นเหมือนแฟชั่นไอคอนคนหนึ่ง รสนิยมเป็นสิ่งสำคัญมากในการที่คนจะจับจ้องมองเรา ถ้าเราไม่มีรสนิยม ความเชื่อถือก็หายไป”
ในเมื่อเป็นคนขายเพชร แน่นอนว่าต้องมีเครื่องเพชรชิ้นโปรดที่ติดตัวอยู่เสมอ โดยสิ่งที่ขาดไม่ได้ในแต่ละวันก็คือ “แหวนเพชร” ที่สลับวงกันไปในแต่ละวัน แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบชิ้นอื่นมาประดับตัว ไม่ให้เสียชื่อ “ชูชัย”
“ต้องใส่เครื่องประดับทุกวัน เพราะเป็นการบ่งบอกอาชีพของเรา ถ้าถามถึงสิ่งที่ทำให้เราเสียเงินได้บ่อยที่สุดก็คือ เพชรนี่แหละ รู้สึกว่าการลงทุนในจุดนี้อย่างไรก็ไม่ขาดทุน และเป็นสิ่งที่เรารัก เอามาครีเอตใส่ด้วย ขายด้วย มีความสุขกับงานที่ทำ เราต้องเป็นคนที่ใช้ชีวิตและใช้เงินให้เป็น ถ้าใช้ชีวิตแบบคนจนเราก็จะไม่จน แต่ถ้าเรารวยแล้วใช้ชีวิตแบบฟุ่มเฟือย ไม่รู้ค่าของเงิน วันหนึ่งเราก็อาจจะจนได้”
นอกจากจะได้รู้จักสไตล์ที่แท้จริงของไฮโซห่มเพชรคนนี้แล้ว ยังได้แนวทางในการใช้ชีวิตดีๆ ไว้ประดับสมอง เติมไอเดียในการใช้ชีวิตให้รวยไปอีกด้วยค่ะ