xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องน่ารู้ “วิทยาลัยวิชาการทหารดันทรูน” & “รัชกาลที่ ๑๐” กษัตริย์จอมทัพไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ข้าพเจ้าผู้เป็นสยามมกุฎราชกุมาร จะรักษาเกียรติยศและอริยศักดิ์ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานไว้ด้วยชีวิต จะภักดีต่อชาติบ้านเมือง จะซื่อสัตย์ต่อประชาชน จะปฏิบัติภาระหน้าที่ทุกอย่างโดยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถ และโดยความเสียสละ เพื่อความเจริญสงบสุขและความมั่นคงไพบูลย์ของประเทศไทย จนตราบเท่าชีวิตร่างกายจะหาไม่”

คำถวายสัตย์ปฏิญาณในการพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันสถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ ขึ้นดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2515 เพื่อเป็นรัชทายาทสืบสันตติวงศ์

และวันนี้สิ่งที่ปวงชนชาวไทยได้ประจักษ์นั่นก็คือ พระองค์ทรงพระวิริยอุตสาหะในการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ด้านการทหารอยู่ตลอดเวลา เพื่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทยโดยมิย่อท้อ นั่นทำให้เราจะพาคุณย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของพระปรีชาการทหารของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐

ย้อนเวลากลับไปในช่วงต้นเดือนมกราคมปี พ.ศ. 2515 หลังจากที่ศึกษาจบจาก คิงส์สกูล (King’s School) นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ ในขณะนั้น ทรงเข้าศึกษาต่อ ณ วิทยาลัยวิชาการทหารดันทรูน (Royal Military College, Duntroon) กรุงแคนเบอร์รา นครหลวงของออสเตรเลีย

แดงน้ำเงิน สีของผู้กล้าจากสงครามโลก
วิทยาลัยวิชาการทหารดันทรูน หรือที่รู้จักสั้นๆ ว่า ดันทรูน เป็นโรงเรียนฝึกอบรมของกองทัพออสเตรเลีย ตั้งอยู่ใกล้กับกระทรวงกลาโหม เปิดสอนวิชาการทหารและระดับอุดมศึกษาสำหรับทหารในกองทัพออสเตรเลียทั้งทหารบก ทหารอากาศ และทหารเรือ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2454 หลังจากการก่อตั้งเพียง 3 ปี ดันทรูนก็พิสูจน์ให้ทั้งโลกได้เห็นว่า ที่นี่คือแหล่งฝึกฝนทหารหาญชั้นเยี่ยมด้วยการผลิตนายทหาร 158 นายเข้าร่วมต่อสู้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่างกล้าหาญ จึงเป็นที่มาให้ในปี พ.ศ. 2468 พระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งอังกฤษ โปรดให้ดันทรูนใช้สีแดงน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของเชื้อพระวงศ์ เป็นสีประจำสถาบันนับตั้งแต่นั้น
เซอร์ ฟรานซิส แฟรงก์ ฮาสเซ็ท (ผบ.หน่วยรบป้องกันดินแดนคนแรกของออสเตรเลีย)
ดันทรูน ยอดนายร้อยสุดแกร่ง
ดันทรูนขึ้นชื่อเรื่องการฝึกความแกร่งให้กับนักเรียนของพวกเขา ตั้งแต่ก้าวแรกของผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้ามา จะได้รับประสบการณ์ทดสอบความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยโปรแกรม "5 สัปดาห์นรก" ที่ต้องทดสอบทั้งความแข็งแกร่งของร่างกาย จิตใจ พละกำลัง การใช้อาวุธ และยุทธวิธีเบื้องต้นทางการทหาร อย่างเข้มข้น ต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 ฝึกยาวไปจนถึงดึก และจะไม่สามารถออกจากเขตวิทยาลัยได้แม้แต่นาทีเดียว หลายคนถอดใจและไม่สามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ แต่ไม่ใช่ล้นเกล้าฯ ร.๑๐ ในเวลานั้น พระองค์ใช้พระนามในภาษาอังกฤษว่า “STAFF CADET V MAHIDOL” ได้เข้าทดสอบสมรรถนะทางกาย ซึ่งพระองค์ทรงผ่านแบบ 100% ได้ถึง 3 วิชาด้วยกัน
 ริชาร์ด ไรห์ส โจนส์ (ผบ.กองทัพนิวซีแลนด์คนปัจจุบัน)
ดันทรูน แหล่งผลิตนักรบหัวใจสิงห์
นายทหารหนุ่มจากดันทรูน สร้างความประทับใจและเป็นที่จดจำในสนามรบมากมายนับไม่ถ้วน "ชาร์ล บีน" นักประวัติศาสตร์ด้านสงคราม ได้จำกัดความนายร้อยจากดันทรูนเอาไว้ว่า "เมื่อพวกเขาต้องอยู่ในสนามรบ พวกเขาจะสู้อย่างสิงโต" นั่นก็คือดุดัน แข็งแกร่ง ฉลาด และมีความเป็นผู้นำสูง และเมื่อถึงเวลาสงคราม เด็กหนุ่มจากดันทรูนจะก้าวเท้าอาสาโดยไม่ต้องรอคำสั่ง
พลเอกดันแคน ลูอิส (เลขาธิการหน่วยข่าวกรองออสเตรเลีย)
ดันทรูน แหล่งผลิตผู้นำทางการทหาร
ราชวิทยาลัยทหารดันทรูนนั้น มีกฎบัตรและพันธกิจกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า เป็นสถานศึกษาเพื่อการผลิตทหาร ที่มีความสามารถในการเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพขนาดใหญ่ ด้วยการปลูกฝังความเป็นผู้นำไปพร้อมกับความซื่อสัตย์ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีผู้นำทางด้านการทหารระดับสูง หรือนักการเมืองการปกครองในออสเตรเลียรวมถึงนิวซีแลนด์ที่จบการศึกษามาจากสถาบันนี้
เซอร์ ชาร์ล สปรี (ผู้อำนวยการคนแรกของหน่วยข่าวกรองออสเตรเลีย)


กำลังโหลดความคิดเห็น