ขึ้นชื่อว่าเป็นกรรมกรก็มีเสน่ห์มัดใจสาวๆ ที่ชื่นชอบหนุ่มร่างกายกำยำ และยิ่งเป็นเซเลบหนุ่มกรรมกรพันล้าน ที่มีอาณาจักรก่อสร้างระดับอภิมหาโปรเจกต์ด้วยแล้ว สาวๆ แทบจะเทใจ เพราะหนุ่มมาดแมนเหล่านี้ไม่ได้นั่งอยู่บนหอคอยงาช้างเพื่อรอสืบทอดกิจการเท่านั้น แต่ยังลงไปเรียนรู้งานด้วยตัวเอง ซึ่งจะมีหนุ่มคนไหนบ้าง ตามไปเปิดวาร์ปกันได้เลย
หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งมาดแมนสูงโปร่ง “บ๊อม-อรรถรส ลิปตพัลลภ” ทายาทธุรกิจรับเหมาก่อสร้างประยูรวิศว์ บริษัทที่ตอกเสาเข็มสร้างสถานที่และอาคารชื่อดังต่างๆ ในประเทศไทยมาแล้วมากมาย บ๊อมเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงในวงการก่อสร้าง หลังจากจบปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม ก็กลับมาช่วยธุรกิจของครอบครัวเต็มตัวด้วยการรับหน้าที่วางระบบใหม่ให้กับบริษัท
“ตั้งแต่เรียนปริญญาตรีแล้วผมไปๆ มาๆ ระหว่างเรียนกับช่วยกิจการครอบครัว และพอมาเรียนต่อปริญญาโทผมจึงมีโอกาสได้ไปฝึกงานที่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เพราะตอนนั้นเขามีโปรเจกต์ทำสะพานข้ามแม่น้ำแถววงเวียนราชพฤกษ์ ผมจึงมีโอกาสได้ไปเรียนรู้งานโครงสร้างและวางระบบจากที่นั่น และพอเรียนจบผมก็มาช่วยงานที่บ้านเต็มตัว ซึ่งผมรับผิดชอบในงานวางระบบภายในโรงงาน ซึ่งโรงงานของเราก็จะมีการประกอบ Box segment เพื่อใช้ในการก่อสร้างสะพานที่ต่างๆ และเมื่อประกอบเสร็จก็ต้องออกมาติดตามและดูการติดตั้งประกอบเป็นตัวสะพาน” หนุ่มบ๊อมอธิบายโครงสร้างการทำงาน
ในยุคคุณปู่คุณย่าหลายคนอาจรู้จัก “ประยูรวิศว์” ในฐานะบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างถนนหนทางต่างๆ แต่ช่วงหลังนี้ได้เปลี่ยนมารับเหมาก่อสร้างสะพาน เพราะมีโรงงานผลิต Box segment ที่ใช้ประกอบเป็นตัวสะพาน ผลงานโดดเด่นของบริษัทคือการก่อสร้าง “สะพานศรีสุราษฎร์” จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสะพานที่สูงที่สุดในภาคใต้นั่นเอง
“การตรวจเยี่ยมไซต์งานแต่ละครั้งนั้น ตรวจได้วันละที่นี่ก็ถือว่าเยอะมากแล้ว เพราะแต่ละแห่งอยู่ไกลกัน ตั้งแต่ กรุงเทพฯ เชียงราย สงขลา เป็นต้น ไปทีเป็นสัปดาห์ตามแต่ความใกล้-ไกล อย่างเมื่อก่อนมีไซต์งานที่สมุทรปราการ ผมก็ไปเช่าที่พักใกล้ๆ กับไซต์งานอยู่จันทร์-ศุกร์ ส่วนเสาร์-อาทิตย์ก็กลับมานอนที่บ้าน เช้าวันจันทร์ค่อยไปใหม่ ใช้ชีวิตแบบนี้จนงานที่สมุทรปราการเสร็จ เพราะทุกงานของเราตั้งแต่ลงเสาเข็มจนเสร็จเป็นรูปเป็นร่างนั้นต้องมีความแข็งแกร่งและคงทน เป็นสมบัติอยู่คู่กับเจ้าของไปตราบนานเท่านาน” บ๊อมเผยความมุ่งมั่นเกินร้อย
หากพูดถึง ช.การช่าง เจ้าของอาณาจักรธุรกิจก่อสร้าง และสัมปทานยักษ์ใหญ่ครบวงจร ภาพของรถไฟฟ้าใต้ดินทั่วมหานครกลางกรุง และกำลังขยายไปสู่นอกเมืองในอนาคตอันใกล้นี้ ก็ผุดขึ้นมาในหัวใจของชาวเมืองฟ้าอมรทันที “โจ้-ณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์” ทายาทรุ่น 2 ของ ช.การช่าง ลูกชายคนเล็กของ ปลิว ตรีวิศวเวทย์ ก็เป็นส่วนหนึ่งในความภาคภูมิใจนี้ ที่ตัวเองได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาความสะดวกสบายให้ผู้คนในเมืองกรุง กับการสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีบางซื่อถึงหัวลำโพง และกำลังการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่กำลังขุดเจาะอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของประเทศไทย
ทุกวันนี้โจ้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่และเลขานุการ บมจ.ช.การช่าง เล่าว่า กว่าที่จะได้ดำรงตำแหน่งนี้คุณพ่อส่งให้เขาไปเรียนรู้การทำงานที่หน้าไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีม่วงด้วยตัวเอง ต้องเริ่มต้นตั้งแต่เปิดไซต์งานก่อสร้าง เรียนรู้การเคลื่อนย้ายสาธารณูปโภคต่างๆ การบริหารส่วนต่างๆ จนมีความเข้าใจในระบบการทำงานก่อสร้างแทบทุกขั้นตอน
ปัจจุบันรถไฟใต้ดินทั้ง 18 สถานีมีผู้ใช้บริการเข้า-ออกมากถึง 7 แสนคนต่อวัน ดังนั้น การดูแลและบริหารพื้นที่ภายในสถานีต้องตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาวออฟฟิศได้เป็นอย่างดี ทุกวันนี้หนุ่มโจ้จึงพ่วงตำแหน่งเป็น Managing Director ของบริษัท BMN ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในระบบรถไฟฟ้า MRT ทุกสถานี
“หน้าที่ของผมคือบริหารพื้นที่ภายในสถานีรถไฟใต้ดินทั้ง 18 สถานี ทั้งเรื่องร้านค้า คมนาคม สัญญาณโทรศัพท์ รวมไปถึงห้องน้ำภายในสถานี และอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ ผมต้องลงไปดูงานเองทั้งหมด พาลูกค้าที่สนใจเช่าร้านค้าชมพื้นที่จริง หรือบางสถานีขณะนี้ก็กำลังปิดปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะ 3 สถานีหลักอย่าง สุขุมวิท เพชรบุรี และจตุจักร ซึ่งมีผู้ใช้บริการมากที่สุดในแต่ละวัน เราได้ศึกษาไลฟ์สไตล์ของคนทำงานในชั่วโมงเร่งรีบว่าต้องการร้านอาหารที่ให้บริการอย่างรวดเร็ว ร้านสะดวกซื้อและร้านกาแฟ รวมไปถึงห้องน้ำที่สะอาด เราจึงได้ปรับปรุงพื้นที่ภายในสถานีให้สอดคล้องกับความต้องการมากที่สุด” โจ้เล่าด้วยความภาคภูมิใจ
โจ้เล่าว่า การก่อสร้างรถไฟใต้ดิน MRT นั้นถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของบริษัทเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบ และนำความทันสมัยมาสู่ประเทศไทยด้านการคมนาคมแล้ว ช.การช่างยังเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ในการอำนวยความสะดวกความรวดเร็วให้แก่ชาวกรุงได้มีชีวิตที่ดีในการเดินทาง ถึงแม้บางสถานีจะก่อสร้างด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นมาได้และเห็นรอยยิ้มที่สดใสของคนเมืองหลวง ความเหนื่อยยากทั้งหมดก็หายไปทันที
นอกจากนี้ก็ยังมีหนุ่มเนื้อหอมที่เข้ามาสานต่องานจากผู้เป็นบิดา หรือกำลังเข้ามาเรียนรู้งานเพื่อเตรียมตัวก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็น เป๊ก-เศรณี ชาญวีรกูล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ อนุทิน ชาญวีรกูล แห่ง ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ที่ถึงแม้ยังไม่ได้เข้าไปช่วยงานเต็มตัว แต่หนุ่มเป๊กก็ไปๆ มาๆ ระหว่างบริษัทกับไซต์งานเพื่อตรวจการทำงานของพนักงานอยู่เป็นประจำ
ณัฐพล จุฬางกูร กรรมการบริหาร บจก.ซัมมิท วินด์มิลล์ กอล์ฟคลับ ที่มีทั้งบริการให้เช่าเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และโรงแรมหรู และให้เช่าตึกย่านบางนาและราชเทวีสำหรับใช้ทำออฟฟิศ
โก้-ชานนท์ เรืองกฤตยา CEO คนรุ่นใหม่แห่ง บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่เข้ามาเรียนรู้งานการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี ก็ทำให้ทุกวันนี้คอนโดฯ หรูกลางเมืองที่หนุ่มโก้เป็นคนบุกเบิกลงหลักปักฐานได้กลายเป็นขวัญใจชาวกรุงไปแล้ว
ปิดท้ายที่ ปลาทู-ดิฐวัฒน์ อิสสระ หลังจากปล่อยให้พี่ชาย ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ แสดงผลงานโครงการอภิมหามหึมาที่ศรีพันวา จ.ภูเก็ต มาแล้ว ครั้งนี้หนุ่มทูเลยขอแสดงฝีมือในวงการอสังหาฯ อย่างเต็มตัว กับเมกะโปรเจกต์ริมหาดหัวหินมูลค่านับหมื่นล้าน อย่างโครงการ “ทิวทะเล เอสเตท” นอกจากจะมีคอนโดมิเนียมแล้ว ยังมีโรงแรมสุดหรู “Baba Beach Club HuaHin” ไว้บริการบนพื้นที่กว่า 110 ไร่อีกด้วย
เรียกว่าเป็นเซเลบหนุ่มกรรมกรพันล้านที่สาวๆ หลายคนอยากจะให้ไปตรวจไซต์งานในหัวใจเหลือเกิน