>>สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินแล้ว ทุกวินาทีมีค่า เพราะการเจ็บป่วยที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเกิดอุบัติเหตุหรือการล้มป่วยอย่างฉับพลันกะทันหันนั้นเป็นการเกิดเหตุในขณะที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการรักษาพยาบาลที่ถูกต้องและรวดเร็วอาจส่งผลร้ายการเจ็บป่วยหนักถึงขึ้นสูญเสียอวัยวะ พิการ ไปจนถึงการเสียชีวิต
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงได้จัดทำเครือข่ายรักษาผู้ป่วยอุบัติเหตุ (BDMS Trauma Care Network) ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดและทันท่วงที ทำงานสอดประสานกันเพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมที่สุด และลดระยะเวลาการรอคอยลง พร้อมทั้งมีศูนย์ BDMS Alarm Center รับแจ้งเหตุผู้ป่วยวิกฤตและฉุกเฉินอย่างครบวงจร
โดยในงาน The International Travel & Health Insurance Conference: ITIC 2017 ที่ผ่านมา ทาง BDMS ได้โชว์ศักยภาพยกระดับการให้บริการผู้ป่วยอุบัติเหตุและเจ็บป่วยฉุกเฉิน ด้วยการแนะนำเครือข่ายรักษาผู้ป่วยอุบัติเหตุ (BDMS Trauma Care Network) ของโรงพยาบาล 9 แห่ง ในเครือ BDMS ที่ได้รับการยกระดับเป็นศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทาง (Center Of Excellence : COE) ด้านอุบัติเหตุและออโธปิดิกส์
อันประกอบด้วย ที่กรุงเทพฯ มีโรงพยาบาลกรุงเทพ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โรงพยาบาลสมิติเวช ถนนสุขุมวิท โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลพญาไท 2 และในต่างจังหวัดมีทั้ง โรงพยาบาลกรุงเทพ เชียงใหม่ โรงพยาบาลกรุงเทพ อุดรธานี โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา และโรงพยาบาล รอยัล พนมเปญ ประเทศกัมพูชา
นายแพทย์สุทร บวรรัตนเวช ผู้อำนวยการใหญ่ ศูนย์อุบัติเหตุและออโธปิดิกส์ ในเครือบริษัท และผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์กระดูกและข้อกรุงเทพ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวแนะนำถึงเครือข่ายรักษาผู้ป่วยอุบัติเหตุ (BDMS Trauma Care Network) ว่า
“ BDMS ได้จัดตั้งเครือข่ายรักษาผู้ป่วยอุบัติเหตุ (BDMS Trauma Care Network) ขึ้นในโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่งดังกล่าว เพื่อให้เป็นศูนย์กลางด้านการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุและเจ็บป่วยฉุกเฉินอย่างครบวงจรตามหลักมาตรฐานสากล ซึ่งจะกระจายครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทยและกัมพูชา เราได้จัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทางในทุกด้านประจำตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นพยาบาล วิสัญญี หรือแพทย์จากแผนกต่างๆ อย่างครบถ้วน พร้อมที่จะประเมินข้อมูลผู้ป่วยฉุกเฉินและวินิจฉัยในขั้นแรกรับร่วมกัน ซึ่งจะทำให้การดูแลผู้ป่วยในเบื้องต้นเป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำ ตั้งแต่การรับแจ้งเหตุซึ่งจะมีหน่วยงาน BDMS Alarm Center ช่วยประสานงานทีมแพทย์ฉุกเฉิน ในการออกไปดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น รวมไปถึงการจัดหาและติดต่อโรงพยาบาลในเครือข่ายที่ใกล้ที่สุดและเหมาะสมที่สุด” นายแพทย์สุทรกล่าว
โดย BDMS Alarm Center เป็นศูนย์ในการรับแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยอุบัติเหตุ ที่จัดตั้งขึ้นโดยเครือโรงพยาบาลเอกชนเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ให้บริการแบบ One Number, All Access ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินพื้นที่ใดของประเทศไทย โดยมีคอลเซ็นเตอร์เบอร์ 1724 ที่พร้อมให้คำแนะนำและดูแลตลอด 24 ชั่วโมงทั้งในภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาอื่นๆ ซึ่งทางนายแพทย์สมมาตร สมศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้กล่าวอธิบายถึงเรื่องนี้ว่า
“BDMS Alarm Center จะเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินของโรงพยาบาลในเครือ BDMS ตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นศูนย์กลางคอยดูแลการแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือผู้ป่วยอุบัติเหตุของโรงพยาบาลในเครือ BDMS ซึ่งมีทั้งหมด 45 แห่งทั้งในประเทศไทยและกัมพูชา โดยที่นี่จะมีทีมแพทย์และพยาบาลคอยประจำการตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง 7 วัน ในการรับแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยอุบัติเหตุ เพื่อทำการวิเคราะห์และประเมินข้อมูลผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสม” นายแพทย์สมมาตรกล่าว
โดยขั้นตอนนี้นับเป็นส่วนสำคัญของการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยอุบัติเหตุ หากบุคลากรไม่มีความรู้ทางการแพทย์ การซักประวัติอาจจะไม่ละเอียดครบถ้วน ก็จะลำบากในแง่ของการเตรียมทีมบุคลากรในการดูแลผู้ป่วย เพราะต้องมีการเตรียม ตั้งแต่ทีมแพทย์ที่จะเดินทางออกไปดูแลผู้ป่วยในเบื้องต้น ไปจนถึงการประสานกับทางโรงพยาบาลปลายทางในเครือข่ายที่ใกล้ที่สุด เพื่อจัดบุคลากร อุปกรณ์ ยา และเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่รวดเร็วและเหมาะสมที่สุด
นายแพทย์สุทร กล่าวเสริมว่า “เรามีบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ครบวงจร ดังนั้นไม่ว่าคนไข้จะได้รับอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยในรูปแบบใดก็สามารถช่วยเหลือได้ทุกสถานการณ์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเวชภัณฑ์หรือเครื่องมือต่างๆ พร้อมบุคลากรผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน อย่างทีมแพทย์ฉุกเฉินและพยาบาล ซึ่งผ่านการอบรมแบบเฉพาะทางมาอย่างเชี่ยวชาญและฝึกฝนอยู่เสมอ เพื่อจะคงระดับความสามารถ ความชำนาญเอาไว้ตลอดเวลา พร้อมทั้งมีการจำลองเคสแบบสมจริง เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์และฝึกเตรียมความพร้อมรับทุกสถานการณ์ ให้ทีมงานสามารถรักษาและปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้อย่างดีที่สุด และยังสามารถวินิจฉัยอาการได้อย่างรวดเร็ว พร้อมที่จะประสานงานส่งต่อข้อมูลให้กับทีมแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อเริ่มการรักษาต่อเนื่องได้ทันท่วงที” นายแพทย์สุทรกล่าว
ซึ่งมิใช่เพียงแค่ทางรถพยาบาลแต่ยังรวมไปถึงวิธีการเดินทางต่างๆ เพื่อให้ไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างครอบคลุมและรวดเร็วที่สุด เช่น รถพยาบาล เรือ เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และมอเตอร์ไซค์ จึงเป็นการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ครบวงจรทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ ทำให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเร็วขึ้น สะดวกขึ้นและมีประสิทธิภาพ โดยบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยของเรา นอกจากจะมีการฝึกฝนและตรวจสอบด้วยตัวเองอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังได้รับการรองรับจาก “มาตรฐานการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยของอเมริกา” (The Commission on Accreditation of Medical Transport Systems - CAMTS) ซึ่งเป็นมาตรฐานการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางบกและทางอากาศที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกอีกด้วย
นายแพทย์สุทร เล่าว่า “การจะส่งผู้ป่วยไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลปลายทางนั้น นอกจากพิจารณาในเรื่องของความใกล้ไกลในการเดินทางแล้ว ยังต้องพิจารณาขีดความสามารถของโรงพยาบาลด้วย ยกตัวอย่าง หากเกิดอุบัติเหตุในแถบภาคตะวันออก เช่น จังหวัดระยอง โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดคือโรงพยาบาลกรุงเทพ ระยอง แต่ถ้าพิจารณาจากอาการผู้ป่วยแล้วว่าต้องการการรักษาที่ยุ่งยากซับซ้อน เราก็จะส่งไปยังโรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา ซึ่งถือว่าเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายแทน ทำให้ไม่เสียเวลาและช่วยทำการรักษาได้รวดเร็วขึ้น” นายแพทย์สุทรกล่าว
นอกจากนี้ศูนย์ BDMS Alarm Center ยังพร้อมให้บริการผู้ป่วยต่างชาติ ด้วยหมายเลข +662 Bangkok หรือ +662-226-4565 โดย BDMS Alarm Center จะมีบุคลากรที่สามารถสื่อสารได้ทุกภาษาหลักๆ ทั้งภาษาอังกฤษ อารบิก เกาหลี ญี่ปุ่น รัสเซีย จีน และพม่า เป็นต้น โดยสามารถดูแลในพื้นที่เอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า เวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน และญี่ปุ่น โดยทาง BDMS มีบริการเครื่องบินพยาบาล หรือ แอร์แอมบูแลนซ์ ที่เรียกได้ว่าเป็น Sky I.C.U ที่พร้อมให้การดูแลผู้ป่วยระหว่างการเดินทางพร้อมทีมบุคลากรที่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมืออาชีพ
