>>Glasshouse@Sindhorn ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์และความอร่อยหน้าอาคารสินธร ถนนวิทยุ คัดสรรเมนูสุดพิเศษมาให้คุณได้เฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่กับ Festive Menu 3 สัญชาติ จากร้านอาหารชั้นนำของเมืองไทยอย่าง “Café Parisien” ร้านอาหารฝรั่งเศสรสชาติดั้งเดิม “Café Milano” ร้านอาหารอิตาเลียนแท้สไตล์โมเดิร์น และ “เสน่ห์จันทน์” ร้านอาหารไทยต้นตำรับ ที่จะเสิร์ฟความอร่อยสุดพิเศษนี้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 15 มกราคมนี้เท่านั้น
โดยที่ร้าน “Café Parisien” เขานำเสนอมื้อพิเศษที่เริ่มด้วยอาหารฝรั่งเศสสูตรต้นตำรับที่ถูกใจคนชอบทานเนื้ออย่างเมนู Beef Wellington Perigourdines Sauce เป็นTraditional Menu ของฝรั่งเศส นำเนื้อสันในทั้งเส้น ไร้ไขมัน ซึ่งจัดว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุด มาหมักเครื่องเทศ โรยด้วยเห็ดทรัฟเฟิล พาร์มาแฮม ก่อนห่อด้วยแป้งพาย แล้วนำไปอบให้สุก เนื้อสันในนุ่มๆ หอมกลิ่นแป้งพาย ผสานกับกลิ่นหอมของทรัฟเฟิลและเครื่องเทศ ราดด้วย Perigourdines Sauce เสริมความอร่อยยิ่งขึ้น
หรือจะเลือกอร่อยแบบแคลอรีเบาๆ กับ Dover Sole Fillet Normande ปลา Dover Sole อยู่ในตระกูลปลาตาเดียว แล่เป็นแผ่นนำไปจี่บนกระทะ พร้อมกับกุ้งลายเสือ และหอยแมลงภู่ ราดด้วยครีมซอสรสเปรี้ยว ที่มีส่วนผสมของไข่แดงและน้ำสต็อกปลาเป็นหลัก
สำหรับร้าน “Café Milano” ก็นำอาหารอิตาเลียนแท้ๆ มาร่วมเทศกาล เช่น Beef Carpaccio with Black Truffles ที่ดีต่อสุขภาพ เพราะไขมันค่อนข้างต่ำ คัดสรรเนื้อสันในชั้นดีสไลซ์บางๆ โรยด้วยเห็ดทรัฟเฟิลขูดให้ได้กลิ่นหอมๆ เสิร์ฟพร้อมผักร็อกเก็ต โรยหอมแดง ราดด้วยน้ำมันมะกอก ส่วนใครที่ชอบแกะต้องสั่ง Chargrilled Lamb Fillet, Eggplant Puree สันในนำเข้าจากนิวซีแลนด์ หมักด้วยน้ำมันมะกอก สมุนไพร ย่างแล้วหั่นพอดีคำคลุกด้วยซอสที่มีส่วนผสมของ green pea และ mint oil เสิร์ฟพร้อมมะเขือบด
ใครที่อยากทานปลา เขาก็จัด Roast Turbot with Potatoes, Beans and Pesto Sauce ใช้ปลา Turbot จากทะเลลึก นำมาจี่ในกระทะให้สุกกำลังดี ปรุงรสง่ายๆ ด้วยเกลือและพริกไทย เสิร์ฟพร้อมผักผัดน้ำมันมะกอกและกระเทียม เสริมรสด้วยซอสเพสโตโฮมเมด
ฟากอาหารไทยของร้าน “เสน่ห์จันทน์” ที่บริการอาหารไทยแท้ๆ สูตรต้นตำรับ ก็จัดทั้ง “ข้าวตังหน้าตั้ง” เมนูเด็ดของภาคกลาง ข้าวตังกรอบๆ มีหน้าที่ปรุงจากกุ้ง เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส, “กุ้งซอสมะขาม” เป็นกุ้งแม่น้ำเผา ราดซอสทำจากมะขามเปียกเคี่ยวกับน้ำตาลโตนด ทำให้มีกลิ่นหอม โรยด้วยหอมเจียวและพริกทอด รสชาติจะออกเปรี้ยวหวานและได้ความมันจากมันกุ้ง, “ยำหัวปลี” น้ำยำใส่น้ำพริกเผา รสชาติจะออกมันๆ เนื่องจากมีส่วนผสมของกะทิ สูตรเดียวกันกับยำถั่วพู ใส่ไก่ฉีก กุ้ง ไข่ต้ม และหัวปลีกล้วยน้ำว้าสดๆ รสชาติจะไม่เฝื่อน และโรยหน้าด้วยหอมเจียว เพื่อให้มีกลิ่นหอมตัดกับน้ำยำ
และเมนูพิเศษอย่าง “น้ำพริกป่า” อาหารสูตรโบราณที่หารับประทานได้ยาก โดยเขาใช้กะปิอย่างดีมาตำกับหอมแดง กระเทียมไทย พริกขี้หนู และส้มซ่า ทำให้น้ำพริกป่ามีกลิ่นหอมและรสเปรี้ยวเหมือนส้มซ่า ใส่กุ้งเผาที่ฉีกเป็นเส้นลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสิร์ฟพร้อมผักสดและปลาสลิดฟู รสค่อนข้างจัด เหมาะจะรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ
คุณสามารถลิ้มลองความอร่อยแบบ 3 ชาติ 3 สไตล์ใน Festive Menu ของทั้ง 3 ร้านนี้ได้ที่ Glasshouse@Sindhorn ที่อาคารสินธร ถนนวิทยุ ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 มกราคม สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0-2650-9995 หรือ www.glasshouseatsindhorn.com และ www.facebook.com/glasshouseatsindhorn.com
โดยที่ร้าน “Café Parisien” เขานำเสนอมื้อพิเศษที่เริ่มด้วยอาหารฝรั่งเศสสูตรต้นตำรับที่ถูกใจคนชอบทานเนื้ออย่างเมนู Beef Wellington Perigourdines Sauce เป็นTraditional Menu ของฝรั่งเศส นำเนื้อสันในทั้งเส้น ไร้ไขมัน ซึ่งจัดว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุด มาหมักเครื่องเทศ โรยด้วยเห็ดทรัฟเฟิล พาร์มาแฮม ก่อนห่อด้วยแป้งพาย แล้วนำไปอบให้สุก เนื้อสันในนุ่มๆ หอมกลิ่นแป้งพาย ผสานกับกลิ่นหอมของทรัฟเฟิลและเครื่องเทศ ราดด้วย Perigourdines Sauce เสริมความอร่อยยิ่งขึ้น
หรือจะเลือกอร่อยแบบแคลอรีเบาๆ กับ Dover Sole Fillet Normande ปลา Dover Sole อยู่ในตระกูลปลาตาเดียว แล่เป็นแผ่นนำไปจี่บนกระทะ พร้อมกับกุ้งลายเสือ และหอยแมลงภู่ ราดด้วยครีมซอสรสเปรี้ยว ที่มีส่วนผสมของไข่แดงและน้ำสต็อกปลาเป็นหลัก
สำหรับร้าน “Café Milano” ก็นำอาหารอิตาเลียนแท้ๆ มาร่วมเทศกาล เช่น Beef Carpaccio with Black Truffles ที่ดีต่อสุขภาพ เพราะไขมันค่อนข้างต่ำ คัดสรรเนื้อสันในชั้นดีสไลซ์บางๆ โรยด้วยเห็ดทรัฟเฟิลขูดให้ได้กลิ่นหอมๆ เสิร์ฟพร้อมผักร็อกเก็ต โรยหอมแดง ราดด้วยน้ำมันมะกอก ส่วนใครที่ชอบแกะต้องสั่ง Chargrilled Lamb Fillet, Eggplant Puree สันในนำเข้าจากนิวซีแลนด์ หมักด้วยน้ำมันมะกอก สมุนไพร ย่างแล้วหั่นพอดีคำคลุกด้วยซอสที่มีส่วนผสมของ green pea และ mint oil เสิร์ฟพร้อมมะเขือบด
ใครที่อยากทานปลา เขาก็จัด Roast Turbot with Potatoes, Beans and Pesto Sauce ใช้ปลา Turbot จากทะเลลึก นำมาจี่ในกระทะให้สุกกำลังดี ปรุงรสง่ายๆ ด้วยเกลือและพริกไทย เสิร์ฟพร้อมผักผัดน้ำมันมะกอกและกระเทียม เสริมรสด้วยซอสเพสโตโฮมเมด
ฟากอาหารไทยของร้าน “เสน่ห์จันทน์” ที่บริการอาหารไทยแท้ๆ สูตรต้นตำรับ ก็จัดทั้ง “ข้าวตังหน้าตั้ง” เมนูเด็ดของภาคกลาง ข้าวตังกรอบๆ มีหน้าที่ปรุงจากกุ้ง เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส, “กุ้งซอสมะขาม” เป็นกุ้งแม่น้ำเผา ราดซอสทำจากมะขามเปียกเคี่ยวกับน้ำตาลโตนด ทำให้มีกลิ่นหอม โรยด้วยหอมเจียวและพริกทอด รสชาติจะออกเปรี้ยวหวานและได้ความมันจากมันกุ้ง, “ยำหัวปลี” น้ำยำใส่น้ำพริกเผา รสชาติจะออกมันๆ เนื่องจากมีส่วนผสมของกะทิ สูตรเดียวกันกับยำถั่วพู ใส่ไก่ฉีก กุ้ง ไข่ต้ม และหัวปลีกล้วยน้ำว้าสดๆ รสชาติจะไม่เฝื่อน และโรยหน้าด้วยหอมเจียว เพื่อให้มีกลิ่นหอมตัดกับน้ำยำ
และเมนูพิเศษอย่าง “น้ำพริกป่า” อาหารสูตรโบราณที่หารับประทานได้ยาก โดยเขาใช้กะปิอย่างดีมาตำกับหอมแดง กระเทียมไทย พริกขี้หนู และส้มซ่า ทำให้น้ำพริกป่ามีกลิ่นหอมและรสเปรี้ยวเหมือนส้มซ่า ใส่กุ้งเผาที่ฉีกเป็นเส้นลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสิร์ฟพร้อมผักสดและปลาสลิดฟู รสค่อนข้างจัด เหมาะจะรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ
คุณสามารถลิ้มลองความอร่อยแบบ 3 ชาติ 3 สไตล์ใน Festive Menu ของทั้ง 3 ร้านนี้ได้ที่ Glasshouse@Sindhorn ที่อาคารสินธร ถนนวิทยุ ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 มกราคม สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0-2650-9995 หรือ www.glasshouseatsindhorn.com และ www.facebook.com/glasshouseatsindhorn.com
