สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน “เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์” ครั้งที่ 2 โดย มูลนิธิชัยพัฒนา และ บมจ.เดอะมอลล์ กรุ๊ป โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา, หนิง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และ ลักขณา นะวิโรจน์ รองกรรมการประธานผู้บริหารอาวุโส เดอะมอลล์ กรุ๊ป เฝ้ารับเสด็จ ณ ควอเทียร์ แกลอรี ชั้น M ตึก B ดิ เอ็มควอเทียร์
โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทานเรื่องเล่า “น้ำมันเมล็ดชา” แก่ผู้ร่วมงานว่า น้ำมันเมล็ดชามีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ทั้งใช้ประกอบอาหาร คล้ายกับน้ำมันโอลีฟของตะวันตก เราจึงเรียกกันว่าน้ำมันโอลีฟแห่งตะวันออก ใช้ในเรื่องของเครื่องสำอาง เพื่อปกป้องผิวหนังได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า และใช้ทางด้านเภสัชกรรม เป็นประโยชน์ของน้ำมันในเชิงยา ขณะนี้มีปลูกมากที่สุดที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ในขณะที่ประเทศจีนมีความต้องการสูง แต่ในประเทศไทยยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่ ตอนนี้ได้นักธุรกิจในด้านสปา และด้านอาหาร เป็นลูกค้าซื้อ แล้วผลิตอาหารออกมาจำหน่าย ขายได้บางช่วง จึงอยากให้คนรู้จักน้ำมันเมล็ดชามากขึ้น เพราะการทำน้ำมันเมล็ดชานี้ ไม่ได้ให้ผลในเชิงธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนาชุมชนด้วย เพราะทำให้เกิดรายได้ ไม่อดอยาก และดูแลรักษาผืนแผ่นดินไทยเอาไว้อย่างดี”
จากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการ “น้ำมันเมล็ดชา” ซึ่งเป็นหนึ่งในพระราชดำริ ที่พระราชทานให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา นำเมล็ดพันธุ์ต้นชาน้ำมันจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาศึกษาและทดลองปลูกในประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างองค์ความรู้ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และกระตุ้นให้คนไทยใส่ใจในสุขภาพ เหนือสิ่งอื่นใดยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่า และรักษาระบบนิเวศน์ป่าไม้ในพื้นที่ภาคเหนืออีกด้วย ทั้งยังทอดพระเนตรร้านพันธมิตรที่เข้าร่วมงาน อาทิ กรูเมต์ มาร์เก็ต, การบินไทย, ธรรมชาติซีฟู้ดส์, ไทยยามาซากิ, Gourmet One และ Coffee Bean By Dao เป็นต้น
ในการนี้ ทรงปรุงอาหารที่ใช้น้ำมันเมล็ดชาเป็นส่วนประกอบ ประกอบด้วยเมนูพระราชทาน 2 รายการ คือ “ไก่นาบกระทะ” และ “ไข่พระอาทิตย์” โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีลายพระหัตถ์บันทึกถึงไข่พระอาทิตย์ในหนังสือว่า
“เมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยทรงประกอบอาหารพระราชทานเรียกว่า ไข่พระอาทิตย์ มีผู้ถามว่าทำไมเรียกว่าไข่พระอาทิตย์ ข้าพเจ้าทูลถาม ทรงเล่าว่าเมื่อส่องกล้องแล้ว พื้นผิวดวงอาทิตย์มีลายเหมือนเมล็ดข้าว ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า grain de riz และเป็นสูตรอาหารที่พระราชโอรสและพระราชธิดาต้องทำเป็นทุกพระองค์”
เมนู “ไข่พระอาทิตย์” รับสั่งว่า เหมือนไข่เจียวเราดีๆ นี่เอง แต่ว่าใส่ข้าวสุกลงไป ไม่ใช่ข้าวเละๆ แต่ต้องเป็นข้าวเนื้อแข็งจะดี ใส่เข้าไปกวนจนเข้ากัน หากรูปร่างข้าวมีลักษณะยาวๆ จะดี ตำรานี้เป็นตำราที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสอนตั้งแต่เล็กๆ ที่บ้านทำเป็นทุกคน ทั้งครอบครัว โดยใส่ส่วนผสมลงไป ปรุงรสตามชอบ ทอดเหมือนเราทอดไข่เจียวธรรมดา (ส่วนผสมเมนูไข่พระอาทิตย์ :ข้าวสวย 1 ทัพพี, ไข่ไก่ 1 ฟอง, น้ำปลา, ซอสปรุงรส, น้ำมันเมล็ดชา)
ขณะที่ “ไก่นาบกระทะ” เป็นตำราที่ได้รับประทานตอนเล็กๆ โดยมีคนอื่นสอน โดยวิธีการนำอกไก่เอาไปหมัก โดยส่วนผสมมี น้ำมันชา, ซีอิ๊ว, กระเทียม, พริกไทย รากผักชี และบรั่นดีด้วย หมักทิ้งไว้ 1 คืน ที่เราเรียกว่านาบกระทะ เพราะจะเรียกว่าไก่ทอดก็ไม่ใช่ เรานำไก่มานาบกับกระทะทั้ง 2 ข้าง จากนั้นเทไวน์ขาวลงไป รอซักพักแล้วตักใส่จาน”
“เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์” ครั้งที่ 2 จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้จนถึง10 พ.ย. 59ณ ควอเทียร์ แกลอรี่ ชั้น M ตึก B ดิ เอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ ภายในงานสามารถซื้อน้ำมันเมล็ดชา เครื่องสำอางที่มีน้ำมันเมล็ดชาเป็นส่วนประกอบ พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์ภัทรพัฒน์ ผลิตผลจากการพัฒนาของมูลนิธิชัยพัฒนา และ ร้านจันกะผัก นอกจากนี้ ยังสามารถร่วมชิมและชมการสาธิตการปรุงอาหารด้วยน้ำมันเมล็ดชาจากเชฟชื่อดัง เช่น ม.ล. ขวัญทิพย์ เทวกุล และร้านอาหารชั้นนำ เช่น Coffee Bean by Dao, Thai Peppery และ Happy Beef by M เป็นต้น