>>เท่าที่เห็นและสัมผัสกับผู้หญิงคนนี้เราแทบจะไม่ค่อยมีโอกาสเห็น “คุณส้ม-ชนัดดา จิราธิวัฒน์” ในแบบโทรมๆ เลยก็ว่าได้ เพราะทุกภาพที่เห็น ทุกอีเวนต์ที่ไป เธอมักจะมาพร้อมกับความสวยเนี้ยบตั้งแต่หัวจดเท้า ทำให้เราอยากจะลองบุกมาเปิดตู้ ดูสไตล์ของคุณส้ม-ชนัดดา จิราธิวัฒน์ คุณแม่วัยซิ่งของน้องแพร-น้องพีช และน้องพาย ที่ยังคงความสวยไม่สร่าง ซึ่งทุกวันนี้เธออยู่เหนือคำว่าแฟชั่นไปแล้วเพราะเธอต่างหากที่เป็นคนเลือกแฟชั่นมาใช้กับตัวเอง
เคยผ่านงานมาหลายอย่างทั้งงานด้านรีเทล ดูแลงานจัดซื้อของธุรกิจฟาสต์ฟูด ทั้งส่วนของอาหาร เฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆ ที่จะใช้ในการเปิดสาขาร้านฟาสต์ฟูดในเครือเซ็นทรัล มาจนถึงทำธุรกิจส่วนตัวเรื่องสวยๆ งามๆ เกี่ยวกับเครื่องเพชร แต่วันนี้ด้วยโลกที่หมุนเร็วอยู่ในกระแสโซเชียลมีเดีย ทำให้คุณส้ม-ชนัดดา จิราธิวัฒน์ ต้องรุกเร็วก่อนใครด้วยการลุยงานดิจิตอล มาร์เกตติ้งที่กำลังขลุกอยู่กับงานอย่างเมามัน
“ตอนนี้ทำบริษัทกึ่งเอเยนซีดูแลด้านการตลาด เน้นไปในส่วนของดิจิตอล มาร์เกตติ้ง เป็นที่ปรึกษา เพราะเราเคยทำงานด้านรีเทลมา 20 กว่าปี และต้องทำการตลาดด้วย เราก็รู้สึกชอบมาตลอด ชอบที่ได้ศึกษา ได้เรียนรู้ จนมาถึงจุดจุดนึงที่อิ่มตัวจากตรงนั้นแล้ว ก็เลยมาทำธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง ลงมือทำเองและมีทีมที่ถนัดด้านดิจิตอล มาร์เกตติ้งมาช่วยเสริมด้วย
หน้าที่หลักของเราคือ มองช่องทางให้ลูกค้า ช่วยประสานงานและดูความเหมาะสมของสินค้า โดยเราจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมคอนเนกชันให้ลูกค้าเพื่อต่อยอดทางธุรกิจด้วย ซึ่งการที่มีบริษัทเป็นของตัวเอง ข้อดีก็คือได้เรียนรู้ทุกวันและไม่หยุดนิ่ง ทุกวันนี้เราได้ความรู้จากลูกค้าเยอะมาก และต้องเรียนรู้ให้ทันกับ Social media ที่มีการอัปเดตทุกวัน
เพราะตอนนี้เทรนด์ของเรื่องออนไลน์มาแรง ขณะเดียวกันเราก็ต้องทำแบบออฟไลน์ควบคู่ไปด้วย หลักๆ ส้มจะเป็นคนลงมือทำเอง อย่างเช่น ผลิตคอนเทนต์ แต่เรามีทีมทำไวรัล มีทีมผู้กำกับ แบ่งงานตามความถนัดจากประสบการณ์ที่ผ่านมา แล้วนำมาประยุกต์ใช้”
คุยอัปเดตเรื่องงานกันพอหอมปากหอมคอ แต่พอยต์หลักของเราที่จะมาพูดคุยกับคุณนายจิราธิวัฒน์คนนี้ก็คือเรื่องของสไตล์การแต่งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ติดตาม IG ของเธออยู่ หรือเปิดหน้าข่าวสังคมบ่อยๆ ก็มักจะเห็นการแต่งตัวที่ดูดีงาม ถูกต้องตามกาลเทศะด้วยเสื้อผ้าที่ดูเหมาะกับตัวเธอจริงๆ ซึ่งความเป็นคนเนี้ยบและรู้จักแต่งตัวนั้นถูกสั่งสมมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ จากการฝึกวินัยของคุณแม่
“โดยปกติเป็นคนชอบแฟชั่น เพราะว่าโดนคุณแม่จับแต่งตัวตั้งแต่เด็ก ก็เลยติดจนมาถึงทุกวันนี้ (หัวเราะ) คุณแม่จะสอนว่าตื่นเช้ามาสิ่งแรกที่ต้องทำคือล้างหน้า อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะออกไปข้างนอกหรืออยู่บ้านก็ตาม จะไม่มีการมาใส่ชุดนอนลากจนถึงบ่ายถึงเย็น เพราะเราไม่รู้ว่าใครจะมาบ้านเราบ้าง เราต้องสวยพร้อมตลอดเวลา”
แม้ว่าชอบแต่งตัวตั้งแต่สมัยสาวๆ มาจนถึงปัจจุบัน แต่ก็เคยมีช่วง “พลาด” ของสไตล์อยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นการเรียนรู้สไตล์ของตัวเอง เพื่อคัดสรรมาสู่สไตล์ปัจจุบัน
“ชอบแต่งตัวมาตั้งแต่สาวๆ แต่ก็มียุคที่แต่งตัวพลาดเช่นกัน เช่น ตอนที่อายุยังน้อยๆ จะแต่งตัวออกแนวคุณนาย ใส่ฟองน้ำที่หลัง ใส่สูท ผมก็ต้องมีกระบังลมข้างหน้า แล้วก็มีความรู้สึกว่าจะรีบแต่งตัวแก่ไปไหน โดยส่วนตัวถือเป็นความพลาดในเรื่องการแต่งตัวของเรา (หัวเราะ)
แต่ทุกวันนี้เป็นสไตล์ที่ใช่ตัวตนของเราแล้ว ซิกเนเจอร์ของการแต่งตัวจะเน้นที่คัตติ้งของเสื้อผ้า ชอบเสื้อผ้าที่มีแพตเทิร์นสวยๆ จะไม่ใส่เสื้อที่ใหญ่กว่าตัวมากเกินไป ขอแบบที่เข้ากับรูปร่างของตัวเอง ส่วนสไตล์จะมีความหลากหลายมาก ตามอารมณ์ เช่นเดียวกับสีสันที่จะเลือกหยิบมาใส่ในวันนั้นๆ
เป็นคนติดตามแฟชั่น แต่ไม่ถึงขนาดว่าต้องไม่ให้หลุดเทรนด์ หรือต้องแต่งตัวตามเทรนด์ตลอด แต่จะนำเทรนด์แฟชั่นเหล่านั้นมาดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับบุคลิกหรือหน้าที่การงาน ให้เป็นสไตล์ที่เป็นตัวเองมากกว่า คือไม่เรียบจนเกินไป แต่จะมีการซ่อนรายละเอียดเก๋ๆ ที่เข้ากับเราลงไป”
ส่วนในเรื่องนิสัยการชอปปิ้งนั้นเธอเป็นลูกค้าเอลิสต์ของหลายๆ แบรนด์ที่อยากจะเชิญมาชมคอลเลกชันก่อนใคร แต่เธอก็ออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้ซื้อทุกคอลเลกชัน แต่พิจารณาดูแล้วว่าเป็นสไตล์ตัวเธอและสามารถแชร์กับลูกๆ ได้ก็ทำให้ตัดสินใจชอปไอเท็มนั้นๆ ง่ายขึ้น
“การเลือกซื้อเสื้อผ้าแต่ละชิ้นจะมีที่ปรึกษาคือลูกสาวและลูกชาย เราจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าอันนี้สวยหรือไม่สวย ยุคก่อนเป็นยุคที่ลูกต้องเชื่อฟังพ่อแม่ ต้องอยู่ในกรอบ แต่ยุคนี้เป็นยุคที่ต้องเชื่อฟังลูก (หัวเราะ) แต่เป็นในเรื่องของแฟชั่นนะ เพราะตอนนี้ลูกสาวเริ่มโตเป็นสาวไซส์เท่าๆ คุณแม่แล้ว การใส่เสื้อผ้าก็มีการแชร์กันบ้าง ซึ่งถือเป็นการประหยัดด้วย
การชอปปิ้งจะขึ้นอยู่กับวาระโอกาส ถ้าเกิดได้เดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัวก็จะมีเวลาเยอะ สามารถเลือกซื้อของสวยๆ งามๆ ได้
แต่ต้องคอยห้ามนิสัยที่ไม่ดีอย่างหนึ่งเรื่องการซื้อของ Sale เรามักจะซื้อโดยที่ไม่คิด แต่เดี๋ยวนี้ต้องตั้งสติในการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่เป็นสไตล์ตัวเอง อาจมีการเลือกน้อยชิ้น แต่ใส่แล้วต้องรู้สึกคุ้มค่า ใช้ได้นาน แต่ตอนนี้สะดวกขึ้นเพราะในออนไลน์มีช่องทางมากมาย อย่างมีแฟชั่นใหม่ๆ ทางแบรนด์ก็จะส่งมาให้ดู บางทีอยู่บ้านหรือทำงานแค่หยิบโทรศัพท์มือถือมาดูก็เสียตังค์ได้
เสื้อผ้าแบรนด์โปรด ส่วนใหญ่จะขึ้นกับแต่ละ Collection ว่ามีแบบที่ถูกใจ ใช้ได้นาน ใช้ได้คุ้ม และสามารถใช้กับลูกได้หรือเปล่า สิ่งที่ซื้อมากที่สุดก็จะเป็นเสื้อผ้าเพราะว่าต้องเปลี่ยนบ่อย การเลือกซื้อก็ต้องดูสภาพอากาศด้วย อย่างในตู้เราอาจจะมีเสื้อผ้าฤดูหนาวน้อยหน่อย แต่ถ้าจะไปต่างประเทศก็ค่อยค้นในตู้หรือซื้อเพิ่มเท่าที่จำเป็น”
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวท็อปของแวดวงสังคม แต่เมื่อคุยจริงๆ แล้วคุณนายส้มแห่งบ้านจิราธิวัฒน์ก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือยเรื่องการแต่งตัว เพียงแค่รู้จักเลือก คัดสรรและลงทุนกับของคุณภาพที่เหมาะกับสไตล์ของเธอจริงๆ เท่านั้น :: Text by FLASH
Credit
นางแบบ :: ชนัดดา จิราธิวัฒน์
ช่างภาพ :: กมลภัทร พงศ์สุวรรณ
สถานที่ :: ร้าน CLUB21 ชั้น 2 ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก และร้าน MOTIF ชั้น 3 ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก