>>แค่เห็นโปรไฟล์ของ “ทราย-ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรารถนา ปุณณกิติเกษม” สาวสวยหน้าหวานที่มีดีกรีเป็นถึงดอกเตอร์สาว สามารถคว้าปริญญาเอกจากสหรัฐอเมริกามาครองได้ตั้งแต่อายุเพียง 26 ปี ก็อดประทับใจไม่ได้
ยิ่งรู้ว่าตอนนี้เธอไม่เพียงเป็นอาจารย์สอนปริญญาโท พ่วงด้วยตำแหน่งประธานหลักสูตรการจัดการสุขภาพแบบองค์รวมที่วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล แต่ยังสวมหมวกอีกใบในฐานะกรรมการผู้จัดการ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส จังหวัดภูเก็ต ยิ่งชวนให้อยากทำความรู้จักผู้หญิงตรงหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเจ้าตัวบอกเล่าถึงภารกิจหลังสุดด้วยดวงตาเป็นประกายว่า ภารกิจหลังสุดนี้ทำเพราะมีแพสชั่นเป็นตัวนำล้วนๆ
“ตอนเด็กๆ ความฝันของทรายก็เหมือนกับเด็กสายวิทย์อีกหลายๆ คน นั่นคือ อยากเป็นหมอ แต่ที่แปลกคือ ที่บ้านไม่สนับสนุน (ยิ้ม) เพราะคุณพ่อท่านเป็นห่วง เห็นว่าเป็นอาชีพที่ทำงานค่อนข้างหนัก ด้วยความที่คุณพ่อท่านมีความเชื่อว่า ‘วิทยาศาสตร์’ เป็นศาสตร์ที่ฝึกให้คนเราคิดอย่างมีตรรกะ และเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน ประกอบกับที่บ้านทำธุรกิจสีทาบ้าน ถ้าเรียนต่อในสาขาที่เกี่ยวข้อง น่าจะต่อยอดธุรกิจที่บ้านได้ เลยตัดสินใจเอนทรานซ์เข้าคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ“
ทรายบอกว่า ช่วงที่เรียนจบก่อนจะได้ทุนไปต่อปริญญาโทและปริญญาเอก เธอมีโอกาสนำความรู้ที่เรียนมาไปทำงานในฐานะวิศวกรปิโตรเลียม และวิศวกรการผลิต ให้กับบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด หรือ ปตท.สผ. ก่อนจะชิงทุนไปเรียนต่อด้านวิศวะอุตสาหกรรมที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสในอาร์ลิงตัน สหรัฐอเมริกา ใครจะคิดว่าการเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศครั้งนั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตที่ทำให้เธอหันมาสนใจธุรกิจด้านสุขภาพ และหลงรักจนพาตัวเองมาสู่การเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาสปาสุดหรู
“ตอนที่ทำวิทยานิพนธ์ช่วงเรียนปริญญาเอก หัวข้อที่ทรายเลือก คือ การปรับปรุงพัฒนาการดำเนินงานในโรงพยาบาลและธุรกิจสุขภาพในสหรัฐฯ ผลงานชิ้นนี้ทำให้ทรายได้เก็บข้อมูลจากหมอและพยาบาลมากมาย พอบวกกับความสนใจด้านสุขภาพที่มีอยู่เดิม เลยเหมือนได้เข้ามาศึกษาด้านนี้จริงจังขึ้นเรื่อยๆ จนพอกลับมาเมืองไทย ทรายมาเป็นอาจารย์ที่คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล พอดีช่วงนั้นทางมหิดลฯ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านสุขภาพ เห็นตรงกันว่า เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีแนวโน้มมาแรง ทรายจึงได้รับหน้าที่สำคัญในการเป็นผู้ร่วมพัฒนาหลักสูตรการจัดการสุขภาพแบบองค์รวมหลักสูตรแรกในประเทศไทย และดำรงตำแหน่งประธานหลักสูตรการจัดการสุขภาพแบบองค์รวมที่วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล”
หลังจากใช้ความชอบด้านสุขภาพที่มีในการทำงานสายวิชาการ โชคชะตาก็เหมือนจะเล่นตลก นำพาโอกาสดีๆ มาถึงหน้าประตูบ้าน เมื่ออาจารย์สาวสวยได้รับการทาบทามให้มาร่วมพัฒนาโปรแกรมสปาให้กับ "อมาธารา สปา" ซึ่งตอนนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมรีเจนท์ ภูเก็ต เคปพันวา เพื่อให้เป็นสวรรค์สำหรับคนรักสุขภาพ ที่อยากดูแลสุขภาพแบบครบวงจร หลังจากเข้ามาช่วยพัฒนาสปาได้สักระยะ ทางทีมผู้บริหารมองว่าอยากจะตอกย้ำภาพการเป็นเดสติเนชั่นแห่งใหม่ในภูเก็ตที่ชูจุดเด่นเรื่องสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของนักท่องเที่ยวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงเปลี่ยนชื่อโรงแรมเป็น อมาธารา รีสอร์ต แอนด์ เวลเนส ในปัจจุบัน
“สำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกมาใช้บริการของเรา สามารถเดินทางมาเพื่อการพักผ่อนเฉยๆ ก็ได้ หรือจะเข้าร่วมกับโปรแกรมดูแลสุขภาพที่ทางเราออกแบบไว้ให้ก็ได้ โดยแพกเกจของเราจะดูแลตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในโรงแรม ด้วยการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสำรวจไลฟ์สไตล์ของแขกคนสำคัญ พร้อมจัดกิจกรรมออกกำลังหลากหลายรูปแบบ ทั้งโยคะ ขี่จักรยาน แอโรบิกในน้ำ ฯลฯ เพื่อตอบโจทย์ ร่วมกับการนำเสนอเมนูพิเศษที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันเพื่อให้มั่นใจเรื่องรสชาติ ครบครันด้วยโปรแกรมสปาเพื่อผ่อนคลาย เรียกว่า เหมือนเป็นการมาพักผ่อนเพื่อให้รางวัลกับชีวิตอย่างแท้จริง ไม่เพียงได้ชาร์จพลังจากความเหนื่อยล้า แต่ยังได้ร่างกายที่สดชื่นกลับไปด้วย โดยแพกเกจนี้ลูกค้าต้องใช้เวลาอยู่กับเราอย่างน้อย 3 คืน”
นอกจากจุดเด่นเรื่องการดูแลสุขภาพในช่วงเวลาพักผ่อนให้กับแขกคนสำคัญ อีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ทรายยกให้ประสบการณ์ใหม่ในการทำสปาที่มีชื่อเก๋ๆ ว่า “สปาไทยฮัมมัม” ซึ่งที่นี่เป็นแห่งแรกของโลกที่ผสานทรีตเมนต์ในแบบตุรกีและโมร็อกโกแบบดั้งเดิม เข้ากับภูมิปัญญาและศาสตร์การบำบัดของไทยอย่างลงตัว หลังจากเปิดตัวไม่นานโปรแกรมนี้ได้รับรางวัลสปาหรูแนวใหม่ของประเทศไทย (Luxury Emerging Spa - Thailand) จากงาน 2016 World Luxury Spa Awards ซึ่งเป็นงานประกาศผลรางวัลที่จัดขึ้นเพื่อยกย่องผู้นำในธุรกิจสปาระดับหรูทั่วโลก
แน่นอนว่า ท่ามกลางความปลื้มปีติ ผู้บริหารสาวยังย้ำว่า ทีมงานยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริการที่ดีอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาโปรแกรมที่ช่วยตรวจหาภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance) ให้กับแขกที่มาใช้บริการ เพื่อจะสามารถจัดเมนูอาหารให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน
จากหลากหลายบทบาทที่สาวสวยตรงหน้าแบกรับอยู่นี้ ชวนให้สงสัยว่า แล้วเธอแบ่งเวลาระหว่างการทำงาน ครอบครัว และการดูแลตัวเองอย่างไร เจอคำถามนี้เข้าไป ทำเอาผู้บริหารสาวอมยิ้มก่อนจะตอบว่า ทุกวันนี้ทำงานแทบจะ 7 วัน แต่ก็จะพยายามจัดสรรวันอาทิตย์ให้เป็นวันสำหรับครอบครัว ได้ไปกินข้าวด้วยกัน หรือถ้ามีเวลาก็จะไปเข้าสปา ซึ่งเป็นกิจกรรมโปรดของสมาชิกทุกคนในครอบครัว
“ที่ขาดไม่ได้ คือ การหาเวลาออกกำลังกาย ทรายพยายามจัดสรรเวลาให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ไปเข้ายิม เล่นโยคะ แต่ถ้าถามว่า ที่ทำอยู่ได้ดูแลสุขภาพดั่งที่ตั้งใจหรือยัง ตอบเลยว่ายัง เพราะจริงๆอยากออกกำลังกายได้มากกว่านี้ อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ ส่วนเรื่องอาหารการกิน ทรายก็ไม่ละเลยดูแลควบคู่ไปด้วย ซึ่งก็ไม่ง่าย เพราะทรายเป็นคนชอบกิน โชคดีที่ทรายมีคุณแม่เป็นไอดอลเรื่องสุขภาพ เป็นตัวอย่างทั้งการเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์และการออกกำลังกาย ให้เราทำตาม”
พอสาวสวยยกคุณแม่เป็นไอดอลในการดูแลสุขภาพ เลยอดถามถึงผู้ที่เป็นไอดอลในการทำงานและการใช้ชีวิตด้วยไม่ได้ งานนี้ทรายเลยไขข้อข้องใจให้ว่า คนเราเรียนรู้ได้ทุกวัน เธอพยายามเรียนรู้จากคนเก่งๆ รอบตัวที่ได้เจอ ได้ร่วมงาน แต่หนึ่งในบุคคลต้นแบบในชีวิตที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ คุณพ่อคุณแม่
“คุณพ่อจะเป็นฝ่ายวางแผน ไม่ว่าทำอะไรจะมองภาพใหญ่ทั้งหมด ส่วนคุณแม่จะเป็นสายปฏิบัติ ลงรายละเอียดในทุกเรื่อง ทรายว่า คุณพ่อคุณแม่มีความเป็นหยินและหยางชัดเจน ซึ่งพอทรายได้เรียนรู้และซึมซับจากท่านทั้งสอง เลยกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ทำให้ทุกวันนี้ไม่ว่าจะทำอะไรทรายต้องมองภาพใหญ่ มีแผนระยะยาวก่อน แต่ก็ไม่ลืมใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ด้วย”
นอกจากการเรียนรู้จากคนใกล้ตัวแล้ว ทรายยังบอกด้วยว่า การสวมบทบาทของนักธุรกิจและอาจารย์ไปพร้อมกัน ก็เป็นสองขั้วอาชีพที่ลงตัวเช่นกัน เพราะการทำธุรกิจทำให้เธอได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และบทเรียนจริงในการทำธุรกิจไปสอนนักศึกษา ขณะที่การสวมบทอาจารย์ ก็ทำให้เธอได้ใช้ทักษะหลายอย่าง ได้เข้าใจความคิดของเด็กรุ่นใหม่
“ถามถึงความยากและความท้าทายในการทำงาน ทรายคิดว่า งานบริการเป็นงานที่ต้องขับเคลื่อนด้วยคน แน่นอนว่าการบริหารคนไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนตัวทรายมีวิธีในการรับมือ ด้วยการใช้ทัศนคติคิดบวกเข้าสู้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอปัญหาหรืออุปสรรค ทรายจะมองว่านั่นคือการเรียนรู้ เราจะจดจำและไม่ทำผิดซ้ำอีก ซึ่งนี่เป็นหัวใจสำคัญที่ทรายนำมาปรับใช้ทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต”
สำหรับเป้าหมายในอนาคต ทรายบอกว่า ตอนนี้ขอโฟกัสกับอมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส ภูเก็ต เพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืน จากนั้นจึงค่อยมองภาพใหญ่เพื่อขยับขยายไปสู่เวทีที่ใหญ่ขึ้น
ใครๆ ก็เฮลตี้ได้ แค่เริ่มต้นลงมือทำ
1. ถ้าเป็นมือใหม่ แนะนำให้ลองออกกำลังกายหลายๆ ประเภท เพื่อตามหารูปแบบการออกกำลังกายแบบที่ใช่ เข้ากับไลฟ์สไตล์ และลองตั้งหน้าตั้งตาทำไปสักพัก
2.ออกกำลังกาย ดูแลอาหารการกินแล้ว อย่าลืมหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพดีอย่างการนอนหลับพักผ่อนที่มีคุณภาพให้เพียงพอต่อวัน
“ส่วนตัวทรายให้ความสำคัญกับการนอนหลับเป็นอันดับต้นๆ ต้องนอนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมง และถึงจะชอบดื่มกาแฟ แต่ถ้ามื้อเย็น จะพยายามหลีกเลี่ยงชา กาแฟ รวมทั้งพยายามหากิจกรรมก่อนนอนที่ช่วยผ่อนคลาย อย่างการอ่านหนังสือ พยายามตัดเรื่องงาน เรื่องไม่สบายใจออกให้หมด” :: Text by FLASH