“อย่าริรักในวัยเรียน” เป็นคำที่คนโบราณพร่ำสอนลูกหลานที่อยู่ในวัยเรียน ให้ตั้งใจเรียนหนังสือให้จบเสียก่อนจึงมีเหย้ามีเรือน แต่เดี๋ยวนี้มี “หลักสูตรพิเศษ” ที่เหล่าผู้ใหญ่ที่เรียนจบทำงานกันแล้ว กลับมาเข้าห้องเรียนอีกครั้ง คำสอนโบราณก็ใช้ไม่ได้เสียแล้ว เพราะความรักมักไม่ค่อยเลือกเวลาและสถานที่ จึงมีผู้ใหญ่หลายคู่ที่ปิ๊งกันในห้องเรียน แล้วก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง
ขอย้อนตำนานรักในห้องเรียนของคู่ที่สร้างความฮือฮาในวงการเซเลบ
** คู่เปิดตำนานรักในห้องเรียน
เมื่อเอ่ยถึงตำนานรักในห้องเรียน ต้องยกให้กับคู่รักอมตะ ดร.สุขุม นวพันธ์ อภิมหาเศรษฐีเจ้าของหมู่บ้านนวธานี ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรรยุคแรกของเหล่าเศรษฐีกับ เมธ์วดี กาญจนจารี ทายาทบริษัท ซิว เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของเมืองไทย
ย้อนไปเมื่อประมาณปี 2532 กระทรวงกลาโหมได้เปิดหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน หรือ ปรอ.รุ่นที่ 1 เพื่อให้นักธุรกิจระดับเจ้าของกิจการหรือผู้บริหาร ได้เข้ารับการศึกษาร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของภาครัฐ หลักสูตรนี้สร้างความฮือฮามากในยุคนั้น เพราะทั้งทหารและข้าราชการที่ได้เข้าร่วมอบรม ล้วนเป็นระดับนายพลและอธิบดี ส่วนนักธุรกิจมีทั้งผู้บริหารระดับสูงของแบงก์และเจ้าของธุรกิจใหญ่
การได้ย้อนกลับมาเข้าห้องเรียนอีกครั้ง ทำให้บรรยากาศการเรียนในห้องสนุกสนาน และใกล้ชิดสนิทสนมกันรวดเร็ว โดยเฉพาะ คู่ของ ดร.สุขุม นวพันธ์ หนุ่มใหญ่ที่เฝ้าเอาใจใส่และคอยช่วยเหลือดูแลรุ่นน้องอย่าง เมธ์วดี กาญจนจารี อย่างใกล้ชิด
ทั้งคู่คบหาดูใจเงียบๆ แบบผู้ใหญ่ จากความเอื้ออาทรค่อยๆ ต่อยอดออกไปเป็นความรักเมื่อใดไม่มีใครรู้ จนเมื่อเรียนจบหลักสูตรความรักของทั้งคู่ก็สุกงอมพอดิบพอดี
ในที่สุด ระฆังวิวาห์หวานก็ลั่นสะท้านไปทั่ววงสังคมไฮโซ ซึ่งสร้างแต่รอยยิ้มของเพื่อนฝูงที่มาแสดงความยินดีกับ ดร. สุขุม นวพันธ์ หนุ่มวัย 64 ที่สามารถชนะใจเมธ์วดี สาวที่มุ่งมั่นทำแต่งานจนครองความโสดมาจนถึงวัย 46
กว่า 20 ปีที่ทั้งครองรักกันมาจนถึงวันนี้ ที่ทั้งคู่วางมือจากธุรกิจ พร้อมจูงมือกันเดินทางไปทำบุญกันอย่างมีความสุขในบั้นปลายของชีวิต ปล่อยให้หนุ่มสาวรุ่นหลังสานตำนานรักในห้องเรียนกันต่อ
**แม่เสือโต้ง รักนี้ต้องในเครื่องแบบ!
เป็นที่รู้กันว่าหลังจากที่ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร ผู้เป็นสามีล่วงลับไปแล้ว โต้ง-จรรยา สว่างจิตร ก็ครองตนเป็นม่ายมาหลายสิบปี เลี้ยงดูลูกๆ จนเติบใหญ่ ตั้งหน้าตั้งตาบริหารกิจการค้าเหล็กจนร่ำรวยเป็นเศรษฐินีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย แต่แล้ววันหนึ่งกามเทพก็แผลงศรรักปักเข้ากลางใจ เมื่อ มาดามโต้ง ได้สมัครเข้าเรียน วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ. รุ่นที่ 51) และด้วยความสวยและความรวยระยิบของม่ายทรงเครื่อง จึงทำให้ได้รั้งตำแหน่งเป็นหัวหน้ากลุ่มเสือของ วปอ.รุ่น 51ไปครองแบบไร้คู่แข่ง
ระหว่างที่เรียนหลักสูตรพิเศษนี้เอง แม่เสือพราวเสน่ห์ ได้บังเกิดความรักในเครื่องแบบขึ้นมาในหัวใจอีกครั้ง เมื่อได้กับพบนายทหารหนุ่มใหญ่มาดสุขุม ดร.โจ-พลโท.ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ เพื่อนร่วมชั้นเรียน วปอ.51 โดยทั้งคู่ใช้เวลาสนิทชิดเชื้อดูใจกันเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ดร.โจ ก็กลายมาเป็นกำลังใจสำคัญและเป็นที่ปรึกษาให้กับเธอในทุกๆ เรื่อง จากเพื่อนสนิท วันเวลาผ่านไปดอกรักที่ทั้งคู่ร่วมกันปลูกก็ผลิบานขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ดร.โจ ก็กลายมาเป็นผู้กุมหัวใจเจ้าแม่ค้าเหล็กของเมืองไทย และใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาจนถึงทุกวันนี้
ความรักของทั้งคู่ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่องานฉลองเบิร์ธเดย์ปาร์ตี้ ครบ 55 กะรัต ของเจ้าแม่ค้าเหล็ก ซึ่งงานนี้แม่เสือโต้งคว้าไมค์มอบเพลงหวานๆ อย่าง "ขอเป็นคนหนึ่ง" ที่เคยร้องให้แก่สามีสุดที่เลิฟเมื่อ 10 ปีก่อน แต่วันนี้เธอตั้งใจมอบให้คนพิเศษอย่าง ดร.โจ น้ำเสียงหวานๆ ครวญเพลง หนุ่มโจจึงถือดอกกุหลาบสีชมพูมอบให้พร้อมหอมแก้มให้รางวัลฟอด เรียกเสียงกรี๊ดจากเพื่อนร่วมรุ่นสนั่นลั่นเวที
เรียบร้อยโรงเรียน วปอ.ไปอีก 1 คู่
** มาดามแป้ง-ดร.เอ 2 ม่ายใจปิ๊งรักในห้องเรียน
ทำเอาเพื่อนฝูงเดอะแก๊งและเหล่ากองเชียร์ ต้องตกอยู่ในอาการตะลึงตึงตึงกันเลยทีเดียว เมื่อม่ายสาวไฮโซทรงเครื่อง นางฟ้าแห่งวงการฟุตบอลเมืองไทย แป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ครองตนเป็นม่ายเนื้อหอมมานานหลายปี จนสุดท้ายต้องพ่ายรักให้แก่พ่อม่ายหนุ่มใหญ่ ดร.เอ-พ.ต.อ.ดร. ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม
ต้องบอกว่าความรักของ 2 ม่ายหัวใจตรงกันนี้ เริ่มบ่มเพาะกันตั้งแต่อยู่ในชั้นเรียนเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมเรียนหลักสูตร วิทยาลัยการตลาดทุน หรือ วตท.รุ่น8 ด้วยความสวยและมีเสน่ห์ของมาดามแป้ง จึงทำให้ ดร.เอ ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ในระหว่างที่มีโอกาสได้พบกันในห้องเรียน ดร.หนุ่มใหญ่ จึงใช้เวลาพิสูจน์ความรักจริงให้ม่ายเนื้อหอมเห็นอยู่ถึง 2 ปีเต็ม
ในที่สุดความจริงใจและความรักอันท่วมท้นของ ดร.เอ ก็สามารถเอาชนะหัวใจม่ายสาวคนนี้ไปครองอย่างไร้คู่แข่ง ทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในเมืองไทยอกหักไปตามๆ กัน
มาดามแป้ง ให้เหตุผลที่เลือกผู้ชายคนนี้มาดูแลครึ่งชีวิตที่เหลือว่า ดร.เอ มีความเป็นผู้ใหญ่ สุขุมใจเย็น เป็นคนสม่ำเสมอ และใส่ใจดูแลเธออย่างจริงใจ ที่สำคัญยังรักและดูแลทุกคนในครอบครัวของเธอเป็นอย่างดีด้วย
เรียกว่าเก่งมาจากไหน มาดามแป้ง ก็ต้องแพ้ใจ ดร.เอ อยู่ดี
** รักหวานๆ “ภคปภา-ไพบูลย์”
คนเราเมื่อรักกันอายุหาใช่เป็นอุปสรรค ขอเพียงมีหัวใจตรงกันก็เพียงพอที่จะหลอมรวมสองกายใจให้เป็นหนึ่งเหมือนดังคู่ นักธุรกิจสาวหมื่นล้านทายาท อาร์ เอ ซี ออยล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูง “เรซออยล์” ออย-ภคปภา โฆษานันตชัย ในวัย 37 ปี บุตรสาวของ นุชนาถ โฆษานันตชัย วสุรัตน์ เจ้าแม่ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นรายใหญ่ที่สุด ที่ได้จูงมือแฟนนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ โจ-ไพบูลย์ ศิริภาณุเสถียร วัย 52 ปี เข้าสู่ประตูวิวาห์ไปอย่างชื่นมื่น เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
รักต่างวัยหัวใจตรงกันของทั้งคู่นั้น ได้ถูกบ่มเพาะขึ้นและกลายเป็นรักแท้อันเป็นนิรันดร์ เมื่อ สาวออย ได้สมัครเข้าเรียนหลักสูตร นักบริหารระดับสูง "ธรรมศาสตร์เพื่อสังคม นมธ.รุ่นที่ 2 และในระหว่างเรียน กามเทพก็ชักพาให้ออยได้พบกับนักธุรกิจหนุ่มใหญ่อายุคราวพ่อ อย่าง หนุ่มโจ ครั้งแรกที่สบตา สาวออยอาจยังไม่ค่อยสนใจหนุ่มโจ ที่เข้ามาส่งขนมจีบให้สักเท่าไหร่ กระทั่งหนุ่มโจเดินเข้าไปขอแลกไลน์กับสาวออย และหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ค่อยๆ ช่วยกันปลูกรักขึ้นมาในหัวใจ น้ำหยดใส่หินทุกวันหินยังกร่อน นับประสาอะไรกับใจบางๆ ของสาวออย เมื่อเจอลูกตื๊อหนักเข้าทุกวัน ความจริงใจ การเอาใจใส่อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ล้วนเป็นคะแนนที่ให้หนุ่มใหญ่ครองหัวใจสาวสวยทายาทนักธุรกิจพันล้านไปครองได้อย่างสำเร็จ
ฝ่ายชายที่ใช้ชีวิตเป็นหนุ่มโสดมาค่อนชีวิต เปิดใจว่า “คนที่ใช่ เพียงแค่กระพริบตาลืมตามาก็เจอแล้ว สำหรับผมการทำงานหนักผลลัพธ์ที่ได้คือ ความสำเร็จ แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราทุ่มเทกับความรักและได้รับความรักคืนกลับมา และน้องออยก็คือความรักที่ผมรอคอยมาตลอดชีวิต”
เป็นรักในวัยเรียนที่มีแต่สุขกับสมหวังจริงๆ เลยคร่า ปรบมือสิคะรออะไร