ถ้าคุณมีเงิน150,000 บาท จะทำอะไรดี... สำหรับมนุษย์เงินเดือนคงต้องใช้เวลาคิดนานอยู่พอสมควร แต่ถ้าเป็นเศรษฐีมีเงินถุงเงินถัง เงินแค่นี้ไปนอนห้อง Imperial Suite ของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ แค่คืนเดียวก็ชิลล์แล้ว
พื้นที่ 168 ตารางเมตร บนชั้น 27 ของโรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท ถูกจัดให้เป็นห้อง Imperial Suite ที่สนนราคา 153,010 บาท/คืน ซึ่งถือว่าเป็นห้องสวีตที่แพงในอันดับต้นของกรุงเทพฯ ก็ว่าได้ ห้องนี้ประกอบด้วย 1 ห้องนอนใหญ่, 2 ห้องน้ำ, ลีฟวิง รูม, ห้องอาหาร, แพนทรีสำหรับเครื่องดื่มชา กาแฟ และระเบียง
สไตล์การตกแต่งเป็นแนวFrench Elegant โก้หรูตามแบบฉบับโซฟิเทลจากฝรั่งเศส ภายในห้องใช้โทนสีคลาสสิกเทา ขาว ดำ ตัดกับพื้นห้องที่เป็นไม้ปาร์เก้ ฟังก์ชันการจัดวางของแต่ละห้อง ถูกเชื่อมด้วยโถงทางเดินตั้งแต่หน้าประตู มองเข้าไปจะเห็นห้องลีฟวิงรูม ที่ต่อเนื่องไปถึงอาหาร และห้องนอน โดยทุกห้องจะถูกแบ่งสัดส่วนการใช้งานแยกออกจากกัน ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ในบ้านมากกว่าอยู่ในโรงแรม
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมีทั้งนำเข้าจากต่างประเทศ และสั่งทำพิเศษขึ้นมาเพื่อใช้ตกแต่งภายในห้องนี้โดยเฉพาะ จึงกลายเป็นความโก้เรียบเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนที่อื่นๆ
ส่วนห้องนอนขนาดใหญ่ ก็โก้หรูสมราคา เพราะเครื่องใช้ทุกอย่างอยู่ระดับเดียวกับFirst Class ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ไม่ว่าเตียงขนาด 6 ฟุต ที่ปูด้วยผ้าคลุมถึง 3 ชั้น ให้ความนุ่มสบายเหมือนนอนอยู่บนปุยเมฆ ส่วนผ้าคลุมเตียงสีทอง-เทานั้น ทำจากผ้าไหมที่สั่งทอขนาดพิเศษ ห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนทำจากหินอ่อนทั้งหมด โดยเครื่องใช้ในห้องน้ำทุกอย่างเลือกใช้แอร์เมสกลิ่นหอมพิเศษ
สิ่งที่ลูกค้าชอบห้องสวีตแห่งนี้เป็นพิเศษคือ ระเบียงด้านนอกกว้างขวางที่มีจากุชชีน้ำอุ่นให้เจ้าของห้องนอนแช่เพื่อพักผ่อนในบรรยากาศวิวเมือง แต่ส่วนมากแขกที่มาพักมักจะชอบจัด Sunset Dinner กับเหล่าเพื่อนๆ มากกว่า
ความพิเศษเหนือระดับยังมีอีกไม่ว่าจะเป็น อาหารเช้า, Afternoon Tea, Evening Cocktail และบัตเลอร์ส่วนตัวที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ราคาห้องแพงขนาดนี้อย่าคิดว่าจะไม่มีแขกมาพักนะคะ เพราะความจริงแล้วห้องนี้แทบจะไม่เคยว่างเลยตั้งแต่เปิดให้บริการมา เพราะมีแขกตั้งแต่ระดับราชวงศ์ตะวันออกกลาง ซึ่งมาพักทุกครั้งจะเหมาทั้งชั้น 27 ที่มีห้องพักอีก 10 ห้อง เพื่อความเป็นส่วนตัว หรือลูกค้าประจำเป็นนักธุรกิจชาวเยอรมันที่จะมาพักครั้งละ 7 วันทุกเดือน นอกจากนี้ ห้องสวีตแสนแพงนี้ยังมีเหล่ากองถ่ายละครหลายๆ ช่องมาเช่าเพื่อเป็นฉากถ่ายละครหลายเรื่องเช่นกัน
ที่พิเศษมากกว่าความหรูหราของห้องสวีตแสนแพงนี้ อยู่ที่คอนเซ็ปต์ของโรงแรมที่ต้องทำให้ลูกค้าทุกคนที่มาพักเซอร์ไพรส์ หรือได้สิ่งที่ดีและประทับใจกลับไปด้วย ซึ่ง วรพจน์ พฤกษ์วิบูลย์ ผู้จัดการฝ่ายต้อนรับส่วนหน้า เล่าถึงเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับลูกค้าว่า
“มีครั้งหนึ่งลูกค้าที่มาพักห้องนี้เกิดป่วยเป็นโรคหัวใจ เราก็พาไปโรงพยาบาล จากนั้นเมื่อแขกจะบินกลับไปแฟรงก์เฟิร์ต พวกเราก็เป็นห่วง ผมเคยทำงานอยู่ที่กาต้าร์แอร์ ก็เลยใช้คอนเนคชันส่วนตัวไปขอความช่วยเหลือ ซึ่งทางนั้นก็ช่วยเราอย่างดี วันลูกค้ากลับเราส่งลูกค้าถึงสนามบิน ทางกาต้าร์แอร์ก็เอาวิลแชร์มารับ ผ่านฟาสต์แทรคเข้าไป ขึ้นเครื่องไปที่โดฮาเพื่อเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งก็มีวิลแชร์มารับเช่นกัน จากนั้นจึงต่อเครื่องบินไปแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งตลอดเวลาเดินทางทางโรงแรมจะโทรเช็คถึงความปลอดภัยของลูกค้าตลอด จนลูกค้าถึงบ้านโดยปลอดภัย”
และนี่คงเป็นหนึ่งตัวอย่างของบริการสุดยอด ที่สามารถพิสูจน์ว่าราคาแสนกว่าบาทต่อคืนนั้นไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับการใส่ใจในบริการแบบอบอุ่นประทับใจเช่นนี้
เรื่องโดย : ปาณี ชีวาภาคย์
ภาพโดย : พลภัทร วรรณดี
