xs
xsm
sm
md
lg

เปิดกล่องความสุข ธีระชาติ มโนธรรมรักษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธีระชาติ มโนธรรมรักษา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
 
แม้จะอยู่ในฐานะที่มีโอกาสใช้เงินเพี่อไลฟ์สไตล์อันหรูหราตามเทรนด์ของสังคมได้ แต่กับ ธีระชาติ มโนธรรมรักษา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ของทุกชิ้นที่ใช้ต้องเป็นสิ่งที่ชื่นชอบ และที่สำคัญต้องผ่านระบวนการคัดสรรกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์คาร์คันโปรด หรือนาฬิกาเรือนหรูคู่ข้อมือ

ชื่อของ อรรถ-ธีระชาติ อาจไม่โด่งดังในแวดวงเซเลบริตีมากนัก หากในแวดวงอสังหาริมทรัพย์นั้น จะรู้จักเขาดีว่า นี่คือคลื่นลูกใหม่ในฐานะทายาทรุ่น 2 ของ “มโนธรรมรักษา” ครอบครัวที่บุกเบิกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ย่านฝั่งธนบุรี ที่ผ่านการฝึกฝนให้รู้งานรอบด้านของ เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ อย่างเคี่ยวกรำจาก ทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ผู้พ่อ ก่อนจะให้มาช่วยบริหารงานบริษัทในเครือ

“ก่อนหน้านี้ผมสนใจเรื่องไอที แต่พอได้มาทำงานกับครอบครัวก็ชอบนะ มีอะไรให้ทำให้คิดมากมาย ตอนนี้กำลังเริ่มโครงการใหม่คือ ตลาดน้ำสำเพ็ง 2 ตั้งใจให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ย่านกัลปพฤกษ์ ปัญหาอุปสรรคจากงานก็มีบ้าง พยายามทำความเข้าใจแล้วค่อยๆ แก้ไขไป แต่ถ้ายังเครียดผมชอบที่จะขับรถออกไปไกลๆ ผมชอบอยู่กับรถยนต์ ชอบขับเพราะเวลาอยู่เงียบๆ ได้เหยียบคันเร่ง ตามองทางข้างหน้า มันจะมีช่วงเวลาให้เราได้คิดอะไรต่อมิอะไร มันเป็นการผ่อนคลายที่ดีที่สุดของผม" อรรถบอกถึงชีวิตการทำงานให้ฟังพร้อมรอยยิ้มสดใส

 
อรรถยังเล่าถึงความชอบในเครื่องยนต์ชิ้นโตนี้ ด้วยแววตาที่มีความสุขว่า ชอบรถมาตั้งแต่จำความได้ โดยรถที่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นรถใช้งานทั่วไป เมื่อได้เห็นปอร์เช่ซูเปอร์คาร์ในภาพยนตร์ ก็ประทับใจด้วยรูปทรงการดีไซน์ที่สวยงามคลาสิก ความแรง ความเร็ว ก็ฝันอยากได้มาก จนเมื่อเรียนจบมีงานมีเงิน ก็เริ่มเดินตามฝันซื้อ Porsche cayman s ให้เป็นของขวัญตัวเอง

“คุณพ่อยึดหลักอยากได้อะไรต้องเก็บเงินซื้อเอง โดยเฉพาะ รถยนต์ จะไม่ซื้อจนกว่าผมจะมีรายได้พอที่จะบำรุงรักษารถเอง ช่วงแรกผมก็จะยืมรถของที่บ้านจนเข้ามหาวิทยาลัย คันแรกเป็นรถญี่ปุ่นธรรมดา จากนั้นก็ค่อยเก็บเงินซื้อพอร์ช ชอบเพราะว่ามันดูแล้วไม่น่าเบื่อ คือมันเป็นเหมือนเราชอบผู้หญิง จะชอบที่น่ารัก ไม่ได้ชอบแบบที่สวยที่สุดครับ”

 
ความคลั่งไคล้ยนตรกรรมสปอร์ตสุดหรูของ “อรรถ” พิสูจน์ได้จากการตั้งชื่อลูกชายคนโตของตัวเองว่า น้องพอร์ช ตามชื่อแบรนด์รถยนต์สุดโปรดของเขา โดยรถหลายรุ่นที่อรรถได้ขี่นั้น อรรถบอกว่าประทับใจในทุกคัน แต่ที่ชอบมากที่สุด ต้องยกให้กับเจ้ากบสลาตัน 911 “911 Turbo จะเป็นรถในฝันของคนรักปอร์เช่ และต้องได้สัมผัสครับ ตัวนี้ความเร็วสูงตัวนี้ เวลานั่งอยู่หลังพวงมาลัยเรารู้สึกเหมือนขับรถแข่ง คือคันนี้จะแรงมาก ถ้าเอาไปเทียบกับรถสปอร์ตคนอื่นๆ แรงม้าอาจไม่สูงนัก แต่ถ้าเอามาเปรียบเทียบกันในสนามแข่งเดียวกัน ผมเชื่อว่าปอร์เช่ทำเวลาได้ดีที่สุด”

นานกว่า 15 ปีที่อรรถได้คลุกคลีกับรถยนต์ยี่ห้อโปรด เขาผ่านการใช้รถสปอร์ตมาแล้วหลากหลายรุ่น ไม่เว้นแม้แต่ Porsche boxster spyder แบบเปิดประทุน จนเมื่อปีที่ผ่านมา อรรถเริ่มคิดว่าตัวเองน่าจะพ้นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับรถสปอร์ตแล้ว เพราะความรับผิดชอบที่มากขึ้นพร้อมกับช่วงวัย ทำให้รถคันต่อๆ มากลายเป็นรถแนวนั่งสบาย และเน้นความปลอดภัยในแบบของ “ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส” “คงถึงวัยด้วยน่ะครับ มีครอบครัว มีลูกเล็กๆ ก็เลยเปลี่ยนมาใช้ใหญ่หน่อยนั่งสบาย รูปร่างค่อนข้างบึกบึน แต่ความแรงไม่เป็นสองรองใครนะครับ”

 
ทุกวันนี้แม้จะไม่ได้ออกไปซิ่งเหมือนสมัยวัยรุ่น แต่อรรถก็ยังชอบที่จะขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อนสมาชิก ปอร์เช่คลับ ไทยแลนด์ ขับเจ้ากบคู่ใจท่องเที่ยวไปในเส้นทางต่างๆ “เวลาขับรถมองออกไปตรงหน้า เราได้เห็นสองข้างทางมันรู้สึกอิสระ สวยงาม ต่อให้ทางเปลี่ยว ผมก็ไม่รู้สึกอ้างว้างเลยนะครับ รู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากกว่า”

นอกเหนือจากรถยนต์แล้ว “นาฬิกา” ก็เป็นอีกหนึ่งของรักที่ “อรรถ” บอกว่าต้องมีติดข้อมือ นาฬิกาของเขาอาจไม่แพงมากมาย แต่ราคาก็ 6-7 หลักขึ้น ทุกเรือนที่ได้มาหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้กล่าวติดตลกว่า ต้องทำใจอยู่นานกว่าจะตัดใจซื้อได้ ความชื่นชอบนาฬิกาของอรรถเป็นที่รู้กันดีในครอบครัว ดังนั้น หลังการทำงานอย่างหนัก “Rolex datejust ” เรือนหรู จึงกลายเป็นของขวัญที่ “ทนงศักดิ์” มอบให้ลูกชายเป็นของขวัญจากการทำงาน

 
“ผมไม่ใช่นักสะสมนาฬิกาตัวยงหรอก มีเก็บไว้แค่นิดหน่อย นาฬิกาเป็นความชื่นชอบส่วนตัวที่มีไว้เพื่อผ่อนคลายจริงๆ ไม่คิดสะสมเพื่อการลงทุนเหมือนหลายๆ คน นาฬิกาผมส่วนใหญ่จะเป็น โรเล็กซ์ กับ ปาเต็ก ฟิลิปป์ ใส่สลับสับเปลี่ยนกันไป แต่เรือนที่ใส่ประจำเป็น ROLEX Daytona เป็นแบบสปอร์ตหน้าปัดสีดำ และ Patek philippe 5712 wg” อรรถพูดพลางพลิกข้อมือดูนาฬืกาเรือนหรูพร้อมรอยยิ้ม

ความเป็นกันเองและความสมถะในการบอกเล่าเรื่องการใช้เงิน ทำให้เรารู้สึกสนุก และชื่นชมในความสุภาพถ่อมตนของเขายิ่งนัก และเมื่อมองเห็นตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกา ก็ทำให้เรารู้สึกตัวว่ารบกวนเวลานักธุรกิจหนุ่มคนนี้พอสมควร ซึ่งก่อนจากเราอดถามไม่ได้ว่า นอกเหนือจากรถยนต์และนาฬิกาแล้ว ยังมีสิ่งใดที่อยากได้อีกหรือไม่ ซึ่ง อรรถ-ธีระชาติ ยอมรับว่า ความสุขจากครอบครัวและสิ่งของที่มีอยู่เพียงเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว

เรื่อง เดียว
ภาพ โต๊ด
กำลังโหลดความคิดเห็น