เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบไม่น่าเชื่อว่า ราชาเพลงป็อบ "ไมเคิล แจ็คสัน" ได้จากเราไป 7 ปีแล้ว แม้เสียงเพลงของ ไมเคิล จะยังคงถูกเปิดตามสถานีวิทยุอย่างต่อเนื่อง ให้เราได้ระลึกถึงอัจฉริยะด้านดนตรีของเขา
และสิ่งหนึ่งที่เปรียบเสมือนของต่างหน้า ราชาเพลงป็อบผู้ล่วงลับ นั่นก็คือ "เนเวอร์แลนด์" คฤหาสน์กึ่งสวนสนุกบนพื้นที่กว่า 2,700 เอเคอร์ ที่ ไมเคิล แจ็คสัน ปลุกปั้นมันขึ้นมาเพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปในวัยเด็กที่ไม่เคยได้สนุกสนาน เช่นเด็กทั่วๆไป เพราะต้องซ้อมดนตรีอย่างหนัก แถมทั้งครอบครัวยังมีฐานะลำบาก ด้วยความเป็นคนผิวสีในยุคนั้น
เนเวอร์แลนด์ ในยุคของ ไมเคิล แจ็คสัน จึงกลายเป็นอาณาจักรที่มีทั้ง รถไฟจำลอง, โรงภาพยนตร์ 50 ที่นั่ง, เครื่องเล่นเกม, สนามเทนนิส น้ำตก รวมถึงสวนสัตว์ ที่มีสัตว์ป่านานาชนิด แต่ทุกวันนี้ เนเวอร์แลนด์ กลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกลืม และรอวันขายทอดตลาด
ย้อนกลับไปวันแรกที่ ไมเคิล ลงทุน 19.5 ล้านดอลลาร์ ซื้อที่ดินผืนนี้มา เขาก็ได้ปรับเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเนเวอร์แลนด์ อาณาจักรแห่งความฝันที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนิทานเรื่อง ปีเตอร์ แพน แม้ว่าไมเคิล แจ็คสัน จะอยู่ที่อาณาจักรเนเวอร์แลนด์กว่า 15 ปี แต่เขาก็ได้สูญเสียคฤหาสน์แห่งนี้ไปแล้ว โดยเมื่อปี 2007 Colony Capital ได้เข้ามาเป็นผู้มีสิทธิ์ร่วมในการจัดการเนเวอร์แลนด์ และยึดเงินไมเคิล แจ็คสัน เป็นเงิน 23 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่ไมเคิล แจ็คสัน ผิดนัดชำระหนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเนเวอร์แลนด์ ยังถูกระบุว่าเป็นสถานที่ ที่ไมเคิล แจ็คสัน ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเยาวชนที่เขาพัวพันอีกด้วย
และหลังจาก ไมเคิล จากเราไปในปี 2009 มันก็ไม่ต่างจากการปิดตายประตู ดินแดนแห่งความฝันแห่งนี้ แม้สามปีหลังการจากไป ปารีส แจ็คสัน ลูกสาวคนโต จะประกาศว่าเธอมีความตั้งใจจะฟื้นฟู ปลุกให้ เนเวอร์แลนด์ แห่งนี้กลับมามีชีวิต และสร้างรอยยิ้มอีกครั้ง แต่มันก็ไม่เกิดขึ้นจริง หนำซ้ำ ดินแดนแห่งความฝันของราชาเพลงป็อบ ยังถูกทิ้งร้าง ท่ามกลางความแห้งแล้ง ไร้ชีวิตอย่างน่าสลดใจ โดยภาพล่าสุดที่ถูกเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็นมุมไหน ก็มีแต่ความเหือดแห้ง
อย่างเดียวที่ทำให้ เนเวอร์แลนด์ ยังถูกพูดถึง นั่นก็คือมูลค่าที่ปักราคาขายไว้สูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแน่นอนว่า ราคาสิ่งปลูกสร้างนั้นไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้มันราคายังสูงลิบมายาวนาน นั่นก็คือ มูลค่าชื่อเสียงของ ไมเคิล แจ็คสัน นั่นเอง