หากมองอย่างผิวเผินแล้ว ใครจะเชื่อว่ายาหม่อง น้ำมันหอมสมุนไพรขวดละ 70 บาท ที่ส่งไปเปิดตลาดจีน อาหรับ ยุโรป ได้เพียง 3 ปี จะได้ผลตอบรับเกินคาด มียอดขายกว่า 100 ล้านบาท เปลี่ยนฐานะเด็กสาวนักคิดที่คลั่งไคล้สมุนไพรไทยอย่าง จิ๊ฟ-ธิติมา มหาชัย กลายเป็นเศรษฐินีสาวน้อย 100 ล้าน ที่โด่งดังในต่างแดน ด้วยวัยเพียง 29 ปี
ภายในห้องรับแขกของบริษัท เดอลาเทกซ์ ย่านซอยอารีย์ ถนนพหลโยธิน จิ๊ฟ-ธิติมา มหาชัย เจ้าของผู้ผลิต-ส่งออกยาหม่อง 8 มงคล และเดอลาเทกซ์ เครื่องสำอางน้ำนมยางพารา ให้สัมภาษณ์เราด้วยบุคลิกที่ร่าเริงสดใส พูดจาฉะฉานถึงเส้นทางชีวิตที่คิดเป็นอย่างดี โดยย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน หลังจบปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ ก็มารู้ตัวว่าสนใจเรื่องงานวิจัยสมุนไพร ซึ่งระหว่างรองาน เธอได้รู้จัก รศ.ดร.พรรวิภา กฤษฎาพงษ์ ภาควิชาชีวเคมี ม.สงขลานครินทร์ ได้เห็นงานวิจัยเกี่ยวกับพืชไทยหลายๆ ชิ้น ก็สนใจไปลงอบรมเรื่องสมุนไพรอย่างจริงจัง
“จิ๊ฟไม่คิดว่าพืชไทยหลายชนิดที่คุ้นเคย จะมีประโยชน์มากมาย จนได้มาอบรมก็รู้สึกทึ่ง เพราะส่วนผสมในตัวเขามีอะไรมากมายให้ต้องสืบค้น ตรงนี้จิ๊ฟเริ่มสนุกกับมัน เพราะค้นมาได้ก็นำมาแตกยอดต่อว่าจะเอาประโยชน์ตรงนั้น ไปทำอะไรได้บ้าง อย่างจิ๊ฟสนใจไพลที่ใช้ทำยาหม่อง แต่เห็นคนทำเยอะแล้ว ก็มาคิดว่าทำอย่างไรให้แตกต่างจากท้องตลาด เลยต่อยอดเอาความเชื่อโบราณเอาธาตุของคนเกิดแต่ละวันมาเป็นส่วนผสม จนแน่ใจก็ผลิตขายค่ะ” สาวจิ๊ฟเล่าถึงปฐมเหตุเริ่มต้นการทำธุรกิจของเธอ
ธุรกิจยาหม่องเล็กๆ ที่เริ่มต้นแบบเด็กๆ ไม่ได้ทำการประชาสัมพันธ์แบรนด์และสินค้าอย่างจริงจัง แต่ด้วยคุณภาพและสรรพคุณเฉพาะตัว รวมถึงแพกเกจจิงผลิตภัณฑ์นั้น ดึงดูดลูกค้า ทำให้ขายดิบขายดี ถูกใจชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ ชาวจีน ถึงขนาดติดต่อนำเข้าไปขายที่จีน ดังนั้น ความรู้ที่ได้จากการร่ำเรียนนิเทศศาสตร์ภาคอินเตอร์ ด้านการบริหารจัดการสื่อ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท ด้านสื่อสารการตลาด จากประเทศอังกฤษ จึงถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการ “จากที่คิดเล็ก เลยต้องคิดใหญ่ ไปจีนได้แล้ว ก็ฝันต่อเลยค่ะ อยากขยายตลาดไปอาหรับ ยุโรป แรกๆ ก็บินไปเองไปขอวางขายที่ช็อปยา ตอนหลังก็ได้ไปวางในซูเปอร์มาร์เก็ต ยอดขายก็ไปได้เรื่อยๆ ตอนหลังปรับแพกเกจจิงให้เป็นสากล จากเดิมที่เป็นสินค้ายาพื้นบ้าน จนเดี๋ยวนี้กลายเป็นของฝาก (หัวเราะ) เอเย่นต์ยกให้เป็นทูตวัฒนธรรมไปแล้วค่ะ”
ธิติมาจัดเป็นหญิงสาวยุคใหม่ผู้ชาญฉลาด เปี่ยมด้วยไหวพริบ ยอดขายที่ทำกำไรทะลุหลัก 100 ล้านบาท หากเป็นคนทั่วไปก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้เธอไม่เคยหยุดนิ่ง ยังคงสนุกสนานกับงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา จนเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา เธอก็ได้พบ รศ.ดร.รพีพรรณ วิทิตสุวรรณกุล ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องยางพารา และได้รู้เรื่องความมหัศจรรย์น้ำนมยางพารา (Delatex Cream) ที่สามารถนำมาทำครีมหน้าเด้ง เธอจึงไม่รอช้าพาทีมนักวิจัยของบริษัทลงพื้นที่ศึกษา ก่อนจะขอซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตครีมบำรุงผิวทันที
สาวหน้าสวยนัยน์ตาซุกซนยังบอกอีกว่า ตอนแรกฟังรู้สึกน่ากลัว แต่พอไปอยู่กับต้นยางเห็นเขากรีดต้นยางซ้ำๆ กันทุกวัน แต่ยางก็ไม่ตายสามารถผลิตสารน้ำนมมาหล่อเลี้ยงตัวเองได้ตลอด ยิ่งมีการทดลองกับคนพบว่ามันช่วยฟื้นฟูผิวได้ก็เลยมั่นใจ นำมาพัฒนาทำครีมบำรุงผิว “จิ๊ฟเอาน้ำยางพารามาปั่น ทำให้เกิดน้ำนมยางพาราออกมา แล้วก็เอาน้ำนมยางพารามาสกัดอีกที โดยในน้ำนมยางพาราจะมีวิตามิน ซิงก์ แร่ธาตุ Super Antioxidant ที่อยู่ในน้ำนมยางพารา หรือที่เรียกว่าน้ำเซรัมค่ะ นำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักในครีม ตอนนี้ส่งออกก่อนเพราะว่าเราจะเปิดตลาดให้กับชาวต่างชาติก่อนแล้วค่อยขายในเมืองไทย”
กับบทบาทนักธุรกิจที่ขึ้นแท่นรอตำแหน่งเศรษฐีพันล้าน ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จิ๊ฟยอมรับว่า งานมากแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย แต่ด้วยความเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ทันทีที่ว่าง ก็มักพาตัวเองไปดูงานวิจัยนวัตกรรมใหม่ของอาจารย์ที่เธอรู้จัก เพื่อหางานใหม่ให้ตัวเองตลอด และก่อนจากกัน จิ๊ฟ-ธิติมา ยังแสดงความคิดเห็นเรื่องการใช้ชีวิตของเธอว่า ทุกคนมีโอกาสเกิดมาในโลกใบนี้ ก็ควรต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด แต่ละคนจึงควรจะพัฒนาตัวเองในทุกๆ วัน
“จิ๊ฟตั้งใจทำทุกวันให้ดีและมีคุณค่ามากที่สุด เรียนจบด้วยความตั้งใจ อยากรู้อะไรก็ศึกษาอย่างจริงจัง และเมื่อมาทำงานบริหาร ทำให้รู้ว่าชีวิตมันมีอะไรมากกว่าที่คิด เราต้องเอาตัวเองไปใส่ในใครหลายๆ คน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกน้องหรือลูกค้าให้ดีที่สุด” จิ๊ฟ-ธิติมา มหาชัย กล่าว
เรื่อง เดียว
ภาพ แป๋ง