>>ในวันที่คนให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารพอๆ กับเรื่องของรสชาติและบรรยากาศ ทำให้เราต้องค้นหาร้านอาหารที่มีครบทั้งคุณสมบัติ 3 อย่างคือ วัตถุดิบที่ดี อาหารรสชาติอร่อย และบรรยากาศแสนสบาย ซึ่งทั้งหมดที่ว่านี้เราพบได้ที่ “ฮิยากุ เรสเทอรองต์” (HIYAKU Restaurant) ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ ทั้งลิ้มรสอาหารชั้นดีควบคู่ไปกับการดื่มเครื่องดื่มเลิศรส
อธิบายกันหน่อยถึงความหมายของคำว่า “อิซากายะ” (Izakaya) คำนี้เป็นคำจำกัดความร้านอาหารอย่างหนึ่งของชาวญี่ปุ่น หมายถึง ร้านอาหารที่ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์พร้อมทั้งอาหารอย่างง่ายที่เน้นการมานั่งจิบ นั่งดื่ม ทานกับแกล้มเบาๆ หรือจะเป็นจานหนักก็ได้ไม่ว่ากัน
ซึ่งสไตล์อิซากายะนี้เป็นเทรนด์อาหารญี่ปุ่นที่มาแรงสุดในเมืองไทย เข้ากับคอนเซ็ปต์และความต้องการของเจ้าของร้านอย่าง “คุณโชคชัย เลวิจันทร์” เจ้าของธุรกิจนำเข้าแบรนด์เนมชื่อดังแห่งบริษัท แปซิฟิกา เอเลเมนต์ ที่ต้องการให้ฮิยากุเป็นร้านอาหารที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่สามารถมานั่งทานอาหาร พร้อมสังสรรค์ดื่มด่ำบรรยากาศกับเพื่อนฝูงต่อในที่เดียวแบบไม่ต้องย้ายไปไหน เพราะในทุกค่ำคืนวันพฤหัส-ศุกร์-เสาร์ จะมีดีเจมาเปิดเพลงสร้างบรรยากาศความคึกคักให้กับลูกค้าของร้านฮิยากุ
ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านเป็นสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัย ทำให้บรรยากาศไม่เหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป เพราะเจ้าของต้องการเน้นบรรยากาศที่เป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากกว่า หากแต่เรื่องของรสชาติอาหารและวัตถุดิบนั้นต้องบอกว่าเป็น “The Best” เลยก็ว่าได้ เพราะวัตถุดิบต่างๆ ถูกคัดเลือกมาจากแหล่งต้นตำรับที่ดีที่สุด ประกอบกับที่ฮิยากุได้ 2 เชฟผู้มีความชำนาญในด้านอาหารญี่ปุ่น
ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่มีชั่วโมงบินสูงจนมั่นใจว่าแต่ละจานนั้นอร่อยฟินแน่นอน ทั้ง “เชฟอาชา การยศ” กับประสบการณ์ 17 ปีในร้านอาหารญี่ปุ่นจากโรงแรมชื่อดัง, “เชฟวี-ทวีศักดิ์ พรมผา” เชฟอิมพอร์ตจากประเทศออสเตรเลียผู้มีประสบการณ์การทำงานร้านอาหารญี่ปุ่นในกาสิโนที่เมืองเมลเบิร์น
ส่วนใหญ่แล้วสไตล์อาหารของฮิยากุ จะเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และอาหารสไตล์ฟิวชันที่บรรจงสร้างมาแล้วว่าถูกปากคนไทย โดยในส่วนที่ย้ำหนักย้ำหนา ก็คือคุณภาพของวัตถุดิบ โดยจานแรกเชฟวีก็จัดหนักเสิร์ฟเราด้วย Grill Sirloin Steak Australia สเต๊กเนื้อสันนอกจากออสเตรเลีย ที่นำมาย่างพร้อมราดไพนัตซอส ซอสที่ทำจากเม็ดสนแล้วนำมาปั่น เข้ากันได้ดีกับเนื้อนุ่มละมุนลิ้น และตามมาด้วย “สลัดปูนิ่ม” เสิร์ฟพร้อมกับซอสมัสตาร์ดเดรสซิ่ง ที่ทำจากซีอิ๊วผสมกับมัสตาร์ด สูตรเฉพาะที่เชฟคิดค้นขึ้นเอง
ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่พลาดไม่ได้กับซูชิและซาชิมิที่เชฟอาชา ได้ครีเอตขึ้นมาอย่างเรื่องราวสนุกๆ ซ่อนอยู่ในอาหารทุกจาน ไม่ว่าจะเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่มาแล้วต้องลองสั่งมาชิมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอย่างแซลมอนไซบีเรีย ที่จัดเสิร์ฟแซลมอนมาบนจานไม้คล้ายรางรถไฟ ราดด้วยซอสวาซาบิ เปรียบเหมือนทางรถไฟสายไซบีเรีย ทันทีที่คีบใส่ปากความเย็นของสาหร่ายที่อยู่ด้านบน มาเจอกับความมันของปลาแซลมอนและความเผ็ดเล็กๆ ของวาซาบิให้ความรู้สึกฟินเต็มคำจนต้องหลับตาพริ้ม หรืออีกจานอย่าง “อาคามิ” ส่วนหลังของปลาทูน่าก็นุ่มละมุนแทบจะละลายในปาก
ต่อด้วยอีกหนึ่งจานสนุก Soft Shell Crab Maki ข้าวห่อสาหร่ายไส้ปูนิ่ม ราดด้วยซอสมิโซะ รสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ เป็นคำอร่อยที่ทั้งกรอบและนุ่มไปพร้อมๆ กัน โดยไฮไลต์อย่างหนึ่งของฮิยากุ ก็คือข้าวญี่ปุ่นที่เชฟบอกว่าข้าวของซูชิของที่นี่จะไม่เหมือนที่อื่น โดยจะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
นอกจากนี้ยังมี Yaki Tori & Appetizer ให้เลือกหลายแบบ ทั้งลิ้นวัวย่าง เนื้อสันนอก ไก่ย่าง เบคอนพันเห็ดเข็มทอง กริลล์ซูชิ เสียบไม้ย่างเป็นเมนูทานเล่นกับสาเกหรือเบียร์ รวมความหลากหลายเกือบ 200 รายการในเมนู และยังสามารถเลือกแมตช์อาหารได้กับเครื่องดื่มที่มีไว้บริการไม่ว่าจะเป็นสาเก เบียร์ ไวน์ ค็อกเทล ดื่มสบายได้ตั้งแต่หัวค่ำ จะอร่อย ชิล ฟินครบสูตรแค่ไหนคงต้องมาลองด้วยตัวเอง :: Text by FLASH
Fact File
ชื่อร้าน :: “ฮิยากุ เรสเทอรองต์” (HIYAKU Restaurant)
ที่ตั้ง :: ชั้น 2 โซน GROOVE ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ความจุ :: 100 ที่นั่ง
เวลาเปิดให้บริการ :: ตั้งแต่เวลา 11.00-01.00 น.
ติดต่อ :: โทรศัพท์ 0-2646-1484
facebook :: www.facebook.com/Hiyakurestaurant
Instagram :: @hiyaku_restaurant