xs
xsm
sm
md
lg

ถึงยุคผลัดใบ “พีอาร์สร้างแบรนด์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ป๊อบ
ทำเอาวงการไฮโซและวงการแฟชั่นเป็นงุนงงกันเป็นแถว เมื่อเหล่าไฮโซที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับตำแหน่งให้เป็น “แบรนด์แอมบาสเดอร์” ให้กับสินค้าระดับซูเปอร์แบรนด์ของโลกมานานปี จนกลายเป็นโลโก้ที่มีชื่อแบรนด์พ่วงท้ายเรียกกันติดปาก ต่างพากัน “ลาออก” จากวงการพร้อมๆ กัน เหมือนนัดไว้ วันนี้จึงชวนไปเปิดใจ 3 แบรนด์แอมบาสเดอร์ชื่อดัง ที่เปิดหมวกอำลาวงการไปอย่างน่าเสียดาย

**ป๊อบ ดิออร์ แบรนด์สร้างชื่อ**
ถ้าเอ่ยชื่อ คุณหนูป๊อบ-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ หรือชื่อที่คนในแวดวงแฟชั่นไฮโซเรียกขานจนชินปากว่า “ป๊อบ ดิออร์” นั้น คงไม่มีใครไม่รู้จักเป็นแน่แท้ เพราะตลอด 1 ทศววรรษ ที่หนุ่มอารมณ์ดี บุคลิกคล่องแคล่วคนนี้ รับหน้าที่เป็นลูกจ้างให้แบรนด์เนมหรูจากฝรั่งเศส ในฐานะพีอาร์มาร์เกตติงของ Dior หน้าที่หลักของลูกจ้างคุณหนูไฮโซคือ การทำให้สาวกดิออร์ไทยรู้จักและแนบชิดแบรนด์นี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหนุ่มป๊อบก็ทำหน้าที่พีอาร์แบรนด์ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งเรื่องการตลาดและการพีอาร์แบรนด์ จนใครต่อใครต่างเรียกขานหนุ่มคนนี้ว่า ป๊อบ ดิออร์ อย่างเต็มปาก และเจ้าตัวเองก็แอ่นอกรับนามสกุลแบรนด์หรูนี้อย่างภาคภูมิใจ
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อเดินทางสร้างแบรนด์มาถึงจุดอิ่มตัว การเป็น ป๊อบ ดิออร์ เริ่มไม่มีอะไรท้าทายแล้ว หนุ่มป๊อบยอมรับว่าตัวเองเป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆ ของแบรนด์ดิออร์ เพราะแม้ไม่มีเขาแบรนด์ระดับโลกนี้ก็ยังครองใจลูกค้าอยู่ตลอดกาล
“รู้สึกใจหายเหมือนกันที่ต้องลาจากดิออร์ แต่เราอยู่ตรงนี้มา 10 ปี ทำงานทุกวัน เลยเริ่มอยากหันมาทำอย่างอื่นที่เราสนใจบ้าง จำได้ว่าเมื่อสิบปีที่แล้ว จัดงานเปิดร้านดิออร์ที่พารากอนเป็นครั้งแรกของการทำงานพีอาร์รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ล่าสุดจัดงานเปิดตัว ดิออร์ ออม ที่เอ็มควอเทียร์ เรากลับรู้สึกเฉยๆ ทั้งๆ ที่งานก็ใหญ่เท่ากัน อาจเป็นเพราะเราชินกับการทำงานแบบนี้ไปเสียแล้ว แต่ที่เรามีวันนี้ได้ก็เพราะดิออร์อีกเช่นกัน”

ระยะหลังเขาเริ่มมีงานพิธีกรรายการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นอีกบทบาทหนึ่งแห่งความท้าทายที่แทรกเข้ามา ประกอบกับวัยที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้หนุ่มป๊อบ ตัดสินใจโบกมือบ๊ายบายแบรนด์หรู ดิออร์ ในสิ้นปีที่ผ่านมา และหันกลับมาใช้ชื่อเดิมที่บุพการีตั้งให้อย่างภาคภูมิใจคือ “ป๊อบ-วราวุธ” นั้นเอง
พาย
**พาย กุชชี่ นิยามสร้างตัวตน ภัทรียา ณ นคร**
ถัดมาที่แม่มดสาวพราวเสน่ห์ พาย-ภัทรียา ณ นคร ที่ครั้งหนึ่งแฟชั่นนิสต้าชาวไทยหลายคนรู้จักแม่มดสาวคนนี้ ในฐานะโลโก้เคลื่อนที่ของแบรนด์ดังระดับโลก อย่าง กุชชี (Gucci) เพราะกว่า 30 ปีที่ครอบครัวของเธอถือกรรมสิทธ์ในการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแบรนด์หรูนี้ในประเทศไทย และเธอเองก็เติบโตขึ้นมาพร้อมๆ กับแบรนด์นี้ เสมือนหนึ่งมีโลโก้ตัว G ประทับอยู่ที่หน้าผาก จนกลายเป็นความคุ้นชิน และใครต่อใครพากันเรียกติดปากว่า “พาย กุชชี่” แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ถอดนามสกุล “กุชชี่” ออกเพื่อเดินตามหาความฝันของตัวเอง และสร้างความสุขให้คนไทยในวิถีทางอื่น ที่แม่มดสาวคนนี้ถนัดต่อไป ด้วยเหตุผลที่ว่า “ทุกอย่างย่อมมีความอิ่มตัว”
“ทุกวันนี้ก็ยังรักกุชชี่อยู่นะ แค่เปลี่ยนสถานะจากคนขายมาเป็นคนซื้อ และตอนนี้ที่สนุกมากขึ้นก็คือ เราใช้ยี่ห้ออื่นได้ด้วย คงไม่ทำแบรนด์อื่นแล้ว พอแล้วหล่ะค่ะ เราอยู่ในวงการแฟชั่นมาตั้งแต่เด็ก แล้วเราก็อยู่ในแบรนด์แฟชั่นที่ดีที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก ฉะนั้น เราก็น่าจะลองทำอย่างอื่นบ้าง” แม่มดสาวเผยความในใจ

แจน
**“แจน ชาแนล” ชื่อนี้กำลังจะเป็นตำนาน**
อดีตนางแบบระดับท็อปของเมืองไทย และเกิดมาในครอบครัว “วรรธนะสิน” ตระกูลที่เก่าแก่คนทั่วทุกวงการรู้จักกันเป็นอย่างดี บวกกับประสบการณ์ด้านการประชาสัมพันธ์ จึงทำให้สาวใหญ่ แจน-จิตติมา วรรธนะสิน ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์เครื่องหนังชั้นนำของโลก อย่าง ชาแนล ประเทศไทย ให้ดำรงตำแหน่งเป็น Communication Manager ทำหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ให้ชาแนล เข้าไปอยู่ในใจของสังคมไฮเอนด์ จนทุกวันนี้เธอก็กลายมาเป็นอีกสาวที่มีนามสกุลพ่วงท้ายอย่างสวยงามคือ แจน ชาแนล
ถึงแม้วันนี้สาวแจนจะสร้างปรากฏการณ์ช็อกให้แก่วงการพีอาร์เมืองไทย ด้วยการประกาศอำลาวงการเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และยอมทิ้งเงินเดือนหลายแสน กับตำแหน่งจีเอ็มด้านคอมมิวนิเคชั่นของ ชาแนล ประเทศไทย ซึ่งใครๆ ก็ตะเกียกตะกายอยากได้ เพื่อออกมาทำหน้าที่ศรีภรรยาดูแลสามี
“ภายนอกอาจดูสวยหรูได้แต่งตัวเลิศๆ แต่จริงๆ งานหนักมาก ต้องละเอียดอ่อนและพิถีพิถันสุดๆ ต้องอาศัยทักษะพิเศษหลายอย่าง นอกจากต้องเข้าใจเนื้องาน สื่อสารออกมาได้อย่างถูกต้องตรงตามทิศทางของบริษัท ยังต้องมีทักษะเรื่องการสื่อสารกับผู้คนอย่างสูง และมีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ กับผู้คน ทั้งลูกค้า สื่อมวลชน และทีมงานชาแนลทั้งโลก จากนี้ต่อไปคงต้องให้เวลากับตัวเอง และดูแลสามีให้มากขึ้น” สาวแจนยืนยัน
ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา คงต้องยกมือให้บรรดาเซเลบริตีเหล่านี้ และอีกหลายคน ที่ขันอาสาเข้ามาทำให้แบรนด์หรูระดับซูเปอร์แบรนด์ระดับโลก เข้ามาอยู่ในใจของคนทุกกลุ่ม แม้วันนี้หลายคนกำลังจะโบกมือลาโลโก้แบรนด์ ที่ตัวเองเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์จำเป็น มาถึงสิบกว่าปีก็ตาม ด้วยเหตุผลที่ว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

กำลังโหลดความคิดเห็น