>>นิยามคำว่า Classy & Comfortable นับเป็นสองคำที่สะท้อนถึงการแต่งกายและคาแรกเตอร์ตัวตนของ “ณา-อุษณา (มหากิจศิริ) ทัพพะรังสี” ได้อย่างลงตัวที่สุด ด้วยความเป็นคนกระฉับกระเฉงไม่เคยอยู่นิ่ง เธอจึงชอบแต่งกายในสไตล์สบายๆ ด้วยชุดเดรสลำลอง รองเท้าส้นเตี้ย กับกระเป๋าคู่ใจ ก็พร้อมจะลุยงานหนักทั้งในและนอกบ้าน ในฐานะคุณแม่ลูกอ่อนและผู้บริหารสาวผู้ดูแลบริษัทอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจนำเข้าขนมแบรนด์ดังจากฝรั่งเศส “ปิแอร์ แอร์เม่” (Pierre Hermé)
“ณา อุษณา” จะมาพูดคุยถึงสไตล์การแต่งตัวและเทคนิคการเก็บของที่จะช่วยให้คุณชอปได้อย่างมีสติและไม่พบกับปัญหาการซื้อของซ้ำเหมือนอย่างที่สาวนักชอปส่วนใหญ่มักประสบ
โดยวันที่เรานัดหมายกัน เธอเพิ่งจะคลอดบุตรชาย (เรย์ อนาวิน) มาได้เพียง 3 เดือน แต่คุณแม่คนใหม่คนนี้กลับรักษาหุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม “ตอนนี้หุ่นกลับมาเกือบเท่าปกติแล้ว อาจเป็นเพราะตอนท้องน้ำหนักณาขึ้นไม่เยอะ แค่ประมาณ 12 กิโลกรัม ตัวน้องเองก็ออกมา 3.3 กิโลกรัมแล้วค่ะ”
แม้จะผ่านพ้นช่วงคลอดมาเพียงไม่นาน แต่เวิร์กกิ้งมัมคนนี้ก็พร้อมจะลุยงานหนักอย่างไม่ขาดตอน โดยเธอเล่าให้ฟังว่า โชคดีที่ลูกคนนี้น่ารักมาก ไม่เคยทำให้แพ้ท้องเลย เธอจึงทำงานได้ตามปกติ ถึงขนาดที่วันนัดผ่าคลอด ตอนเช้ายังเข้าออฟฟิศ และพอตกบ่ายก็ยังแวะไปสระผม เตรียมตัวไปโรงพยาบาลแบบชิลๆ
“ณาเป็นคนอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องมีอะไรให้ทำตลอด โดยปัจจุบันนี้ณาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัวในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ คือสนามกอล์ฟและโรงแรมเมาน์เท่นครีก และคอนโด The Nest ซึ่งตั้งอยู่แถวย่านเพลินจิต และกำลังเปิดโครงการใหม่ในซอยสุขุมวิท 22 พร้อมกับดูแลธุรกิจอาหารน้องใหม่ที่นำเข้ามาอย่างแบรนด์ “ปิแอร์ แอร์เม่” (Pierre Hermé) มาการองแบรนด์ดังจากฝรั่งเศส
“เริ่มต้นมาจากคุณแม่ที่ชอบรับประทานมาการองของร้านนี้มาก ก็เลยแนะนำให้ทั้งครอบครัวรู้จัก จึงเกิดเป็นไอเดียในการนำเข้ามาจัดจำหน่ายในเมืองไทย ซึ่งพอเราได้พบกับทีมงานของร้านที่ฝรั่งเศส ก็คุยกันถูกคอ ทีมเขาน่ารักมาก เป็นความผูกพันในครอบครัวคือแนว Family Business ที่ทำทุกอย่างด้วยใจ อย่างคุณปิแอร์นี่คิดสูตรเองหมดทุกชิ้นและวัตถุดิบทุกอย่างจะคัดสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุดมาจากทุกมุมโลก
จุดเด่นของเขาคือความหลากหลาย ในหนึ่งชิ้น มีส่วนผสมอย่างน้อย 2-3 อย่างเข้าด้วยกัน บางอย่างก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้ อย่างของหวานกับของคาว ตับห่านกับช็อกโกแลต ก็กลับมาผสมกันได้อย่างลงตัว โดยเขาได้รับฉายาว่าเป็น Picasso of pastry จากนิตยสารโว้ก อเมริกา ให้เป็นศิลปินเอกผู้สร้างสรรค์ขนมอบระดับมาสเตอร์พีซ”
เรียกได้ว่าเดินตามรอยเท้าบิดา (ประยุทธ์ มหากิจศิริ) เจ้าพ่อเนสกาแฟมาแบบลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น “ที่บ้านไม่เคยบังคับนะคะว่าต้องทำงานอะไร หรือต้องกลับมาช่วยธุรกิจของครอบครัวนะ ท่านตามใจให้เราทำในสิ่งที่อยากทำ ตัวณาเองนอกจากปิแอร์ แอร์เม่ แล้วก็มีร้านกาแฟ Coffee Gallery ที่เปิดมากว่า 5 ปีแล้ว โดยมี 3 สาขา คือที่ CDC ดิจิตอล เกตเวย์ เอกมัย และสยามเซ็นเตอร์
โดยคุณพ่อสอนหลักไว้ว่า “ธุรกิจอาหารจะประสบความสำเร็จได้ต่อเมื่อคนรับประทานแล้วต้องอยากรับประทานอีก ลูกค้ากลับมาแล้วกลับมาอีก ถ้าอะไรที่เป็นแบบนั้นถึงมีอนาคตให้ตัดสินใจลงทุน ต้องเป็นของที่รับประทานได้ง่าย รับประทานได้เรื่อยๆ”
จากการเป็นผู้บริหารสาวคนเก่งที่ทุ่มเทให้กับงานแบบเต็มร้อย ทุกวันนี้เธอมีอีกหน้าที่สำคัญให้ต้องรับผิดชอบคือบทบาทแห่งความเป็นแม่ ทำให้เธอได้เรียนวิถีทางใหม่แห่งการทำงานแบบใหม่
“แต่ก่อนการทำงานของณาคือ จะอยู่ติดออฟฟิศตลอด ไม่ไปไหนเลย พร้อมสแตนด์บายให้ทีมเรียกหาปรึกษางานได้ตลอดเวลา พอตอนท้องนี้นับเป็นการเปิดโลกใบใหม่ให้เราเลย คือวันไหนที่อ่อนเพลียหน่อยก็พักผ่อนอยู่บ้าน หรือกลับเร็วบ้าง แล้วก็ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย คุยปรึกษากันทางโทรศัพท์มือถือ หรือส่งรูปต่างๆ ให้พิจารณาผ่านทางไลน์ ก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม ทำให้เรารู้ว่าไม่ต้องอยู่ออฟฟิศเราก็สามารถทำงานได้
เหมือนเป็นการค่อยๆ ปรับตัว เพราะทุกวันนี้พอมีน้อง เราก็ต้องยิ่งมีเวลาให้กับเขา ต้องแบ่งเวลามาให้เขาเยอะ ให้นม ช่วยเลี้ยง ทำให้เราไม่ได้อยู่ออฟฟิศเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังสามารถดำเนินงานได้ ช่วยให้เรารับภาระทั้ง 2 หน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง”
แถมนอกจากเรื่องงานแล้ว ช่วงท้องยังช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิ้งให้เธอด้วยการชอปออนไลน์ “ณาเป็นคนชอบชอปปิ้งมาก ปกติคือ ต้องเดินห้างทุกสัปดาห์ คือบางทีไม่ได้ซื้ออะไรนะ เดินดูของนั่นนี่ก็มีความสุขแล้ว ตอนท้องเดินห้างน้อยลง แต่กลายเป็นไปชอปทางออนไลน์มากขึ้นแทน แถมในเว็บนี่มีแบบให้เลือกเยอะกว่า ซื้อง่ายกว่าไปดูที่ชอปอีก เปิดดูรูปคอลเลกชันใหม่ๆ กดสั่งกันเพลินเลยค่ะ จะมีกล่องส่งมาที่บ้านตลอด ทำเอาเคยโดนคิดภาษีแพงกว่าราคาของที่สั่งอีกค่ะ(ค่ะ) ก็ต้องเรียนรู้กันไป”
ที่สำคัญตอนนี้แม้จะคลอดแล้วคุณแม่ก็ยังคงชอปออนไลน์อย่างสนุกสนานเหมือนเดิม เพราะมีของลูกๆ ให้ชอปด้วย
“ตามเว็บไซต์มีพวกผลิตภัณฑ์ของเด็ก มีให้เลือกน่ารักๆ เยอะมาก ชอปเพลินไปเลย คือทุกวันนี้ชอปล่วงหน้าให้ลูกเยอะมาก ที่สำคัญคือลูกโตเร็ว เสื้อผ้าแป๊บๆ เปลี่ยนไซส์แล้ว ตอนนี้เขาอายุแค่ 3 เดือน แต่ตัวโตขนาดใส่ของเด็กวัย 6 เดือนถึง 1 ขวบแล้วนะ ที่สำคัญทั้งณากับพี่ก้อง (กมลสุทธิ์ ทัพพะรังสี - สามี) ชอบชอปปิ้งกันทั้งคู่ เห็นอะไรก็อยากซื้อให้ลูกไปหมด ไม่มีห้ามกันเลย แถมยุส่งด้วย บอกว่าถ้าไม่ซื้อไว้ ก็ไม่รู้จะเจอที่ถูกใจแบบนี้อีกไหม เป็นกองเชียร์ชั้นดีมากเลยค่ะ ที่ขำคือ ตอนนี้น้องยังไม่ทันนั่งแข็งเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเดิน แต่เราเตรียมซื้อรองเท้าให้แล้วนะ ไม่รู้ซื้อมาทำไมล่วงหน้าขนาดนั้น(หัวเราะ)”
แต่เห็นชอบชอปปิ้งเดินห้างขนาดนี้ แต่สาวณาบอกว่าเธอไม่เคยมีปัญหาของซ้ำนะ เพราะเธอมีเทคนิคในการจัดเก็บของ “เราต้องซื้อแบบมีสติ คือ ซื้อแล้วก็คิดนะไว้ใส่กับอะไรได้ ใช้ทำอะไรได้ และที่สำคัญของทุกชิ้นรักษาดี เก็บใส่กล่องวางโชว์ไว้หมด ทำให้จำได้ว่า มีอะไรบ้าง จะได้ไม่มีแบบซื้อแล้วลืม หรือซื้อซ้ำ โดยวิธีนี้ต้องอาศัยการจัดวางใส่ชั้นอย่างเป็นระเบียบ คือ ก่อนหน้านี้เราเก็บแบบไม่เรียบร้อย วางรวมๆ กัน แล้วพอวันหนึ่งณามารื้อของจะไปขายหาเงินบริจาคการกุศล ทำให้เปิดตู้มาเจอนั่นนี่ แล้วแปลกใจว่าเรามีชิ้นนี้ด้วยเหรอ แล้วก็มีแบบเดิมๆ ซื้อเยอะมาก
ทุกวันนี้นอกจากเรียงให้เห็นแล้ว ยังเก็บเป็นหมวดหมู่ เราจะได้เห็นว่า มีแบบไหน สไตล์ไหนบ้างแล้ว ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้ออีก แต่ก่อนนะบางชิ้นซื้อมาแล้วจำไม่ได้ ไม่เคยใช้เลยก็มี อย่างบางชิ้นได้มาใหม่พอซักเอาเข้าตู้ปุ๊บกลืนไปกับของเก่าเลย ทำให้ลืมหยิบมาใส่ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ของใหม่เราจะแยกไว้ต่างหากเลย ถึงไม่ได้หยิบมาใช้ทันทีแต่ก็ยังเห็นว่ามีอยู่ตรงนี้นะ ยังไม่ได้ใช้ รอคิวใช้อยู่ ไม่ใช่ลืมไปเลย”
ข้าวของมากมายในตู้เสื้อผ้าของเธอ มีตั้งแต่ Chanel ไปจนถึง H&M และ Zara เพราะสไตล์แฟชั่นสำหรับณาไม่ใช่แบรนด์เนม แต่เป็นของที่ถูกรสนิยมมากกว่า
“ไม่มีแบรนด์ประจำตัว ซื้อเมื่อเห็นแล้วชอบ ดูว่าอะไรเหมาะกับสไตล์เรามากกว่า เป็นคนแต่งตัวง่ายๆ เดรสตัวเดียว กับเครื่องประดับเล็กน้อย ก็จบแล้ว เป็นคนไม่มิกซ์แอนด์แมตช์นะ ใช้เวลาแต่งตัวน้อยมากไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ เป็นคนไม่ตามกระแสแฟชั่น อย่างบางทีเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าที่ซื้อมาใหม่ ณาเก็บไว้ไม่ได้ใช้ พอถึงคิวเอาออกมาใช้กลายเป็นตกซีซันไปแล้วก็มี คือเป็นคนชอบใช้อะไรซ้ำ
อย่างกระเป๋าบางใบถือเป็นเดือนเลย ขี้เกียจเปลี่ยน แต่ด้วยความชอบชอปปิ้งไง พอเห็นอะไรก็ซื้อไว้ก่อน ไม่ได้มีวาระว่าซื้อเพราะจะหยิบไปใส่งานนั่นนี่ ทำให้บางใบซื้อมาไม่ถึงคิวใช้สักที วางอยู่ในตู้ค้างปีอยู่บ่อยๆ ดังนั้น ของที่ณาซื้อจะเน้นสไตล์คลาสสิก ใส่ได้นาน ไม่ตามกระแส เน้นโทนสีเรียบๆ อย่าง ขาว ดำ เทา หรือไม่ก็แบบพาสเทล ไม่ค่อยมีพวกสีฉูดฉาด หรือลายเยอะๆ เท่าไร”
การที่รู้ความต้องการของตัวเองอย่างเด่นชัดแบบนี้ ทำให้สาวณารู้จักเลือกสินค้าที่เข้ากับบุคลิกและสไตล์ของตัวเองได้อย่างลงตัว โดยไม่ต้องวิ่งตามกระแสแฟชั่นให้สิ้นเปลืองเงินทองผลัดเปลี่ยนทุกซีซันแต่อย่างใด
5 แหล่งชอปปิ้งสุดโปรด
1.สยามพารากอน
ที่นี่ณาเดินเหมือนเป็นบ้านเลย เพราะออฟฟิศอยู่ใกล้ๆ แล้วก็มีครบทุกอย่าง ชอปปิ้ง ทำเล็บ ทำผม แวะไปที่เดียวทำได้หมด ก็เลยเป็นที่ที่ต้องแวะไปทุกสัปดาห์
2.เซ็นทรัล ชิดลม
อันนี้เดินมาตั้งแต่เด็ก สมัยเรียนอยู่มาแตร์ฯ ฝั่งตรงข้ามกันเลย สำหรับที่นี่ไม่ใช่อารมณ์เดินชอป แต่จะมีจุดประสงค์ว่าจะแวะร้านไหนซื้ออะไร ก็มุ่งตรงไปเลย
3.ดิ เอ็มควอเทียร์
อันนี้กำลังมาแรงที่ปัจจุบันนี้เดินบ่อยสุด เพราะมีครบทุกอย่าง และร้านใหม่ๆ น่าสนใจ แถมยังได้แวะเข้ามาดูร้านปิแอร์ แอร์เม่ ที่เปิดที่นี่ แล้วแถมโปรเจกต์คอนโดใหม่ก็อยู่ตรงซอย 22 นี่เอง
4.ตลาดนัดจตุจักร
อันนี้ออกแนวลุยๆ ช่วงวันหยุด ไปเดินดูของแต่งบ้าน จานชาม เครื่องใช้ ดีไซน์สวยๆ มีให้เลือกเต็มไปหมด
5.งานแฟร์ต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นงานสถาปนิก งานพวกสินค้าส่งออก หรือถ้าเป็นปัจจุบันนี้ก็งานสำหรับผลิตภัณฑ์เด็กๆ อย่าง Baby Best Buy เป็นงานที่ณาพลาดไม่ได้เลย เพราะงานแฟร์พวกนี้ จะมีร้านที่เราไม่ค่อยได้เจอ บางร้านส่งออกอย่างเดียว ของคุณภาพเยี่ยม ดีไซน์สวยๆ เยอะมาก แถมยังเป็นการเดินสำรวจเทรนด์ตลาดไปด้วยในตัว
“ชาแนลเป็นแบรนด์กระเป๋าที่ชอบที่สุด เพราะถูกใจไซส์และดีไซน์ ณาหิ้วกระเป๋าใหญ่ๆ ไม่ได้ มันหนักและปวดไหล่ ชาแนลนี่แหละตอบโจทย์สุด ที่สำคัญด้วยดีไซน์ที่คลาสสิก อีกทั้งคุณภาพก็ดี ทนทาน ทำให้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็หยิบมาใช้ได้เรื่อยๆ”
“การซื้อสินค้าแบรนด์เนมหลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นการฟุ่มเฟือย แต่สำหรับณาแล้วมองว่ามันเป็นความคุ้มค่านะ เพราะราคาจ่ายไป มันได้คุณภาพกลับมา อย่างเสื้อผ้าบางตัวนี่ณาใส่ได้นานหลายปีเลยนะ เขาใช้วัสดุดี คัตติ้งดี ดีไซน์ก็คลาสสิก ทำให้ใช้ได้นาน ไม่ได้เป็นแฟชั่นตามกระแส ที่สำคัญใส่แล้วช่วยเสริมบุคลิกภาพเราได้ด้วย แถมราคาไม่ตก อย่างกระเป๋าบางใบ เวลายิ่งผ่านไปราคากลับสูงขึ้นอีกนะ หยิบมาใช้ได้ตลอดด้วย ต่างกับของไม่มีแบรนด์หรือสินค้าตามกระแส ที่นอกจากไม่ทนใช้ได้ไม่กี่ปีก็พังแล้วยังเสื่อมค่าลงทุกวันอีกด้วย”
“ชอบรองเท้าส้นเตี้ย ที่ใช้บ่อยๆ จะเป็นของชาแนลที่ทั้งสวยและนิ่มใส่สบาย แถมเข้ากับเสื้อผ้าได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีรองเท้าผ้าใบสีขาวของ คริสเตียน ดิออร์ เป็นคู่เก่งที่ก่อนหน้านี้ใส่ติดเท้าตลอดเลย เพราะรับน้ำหนักเท้าได้ดี ใส่สบาย แถมช่วยระมัดระวังเวลาเดิน ไม่เท้าพลิก หรือลื่น เหมาะกับยามตั้งครรภ์แบบสุดๆ“ :: Text by FLASH
Credit
นางแบบ : อุษณา (มหากิจศิริ) ทัพพะรังสี
แต่งหน้า : อาฐิตา รอดอาตม์ โทรศัพท์ 09-5949-2639 จากสถาบัน International Makeup Fashion Academy (IMFA)
สถานที่ : ร้าน Pierre Hermé ชั้น G และร้าน Mugendai ชั้น 9 ศูนย์การค้า EmQuartier
ช่างภาพ : กมลภัทร พงศ์สุวรรณ