By Lady Manager
หลังจากที่ข่าวว่อนสะพัดในโลกโซเชียลว่า มีนวัตกรรมฉีดเกล็ดเลือดเพิ่มขนาดหน้าอก หรือที่เรียกกันคุ้นหูอย่างเขย่าขวัญว่า “แวมไพร์” อย่างที่เคยเห็นสาวคิม คาร์ดาเชียน และบรรดาเซเลบดาราคนดังฝั่งฮอลลีวูดฮิตกันอยู่พักหนึ่ง ดูดเลือดเพื่อหวังฟื้นฟูเซลล์ให้หนังหน้าให้กระชับเต่งตึง
ทว่าผู้หญิงเราก็ไม่ได้อยากกระชับแต่หน้าใช่ไหมคะ มองลงมายังเต้านมก็อยากจะให้ตึงเด้งดึ๋งด้วยกระชากวัยด้วย จึงมีนวัตกรรม Vampire Breast Lift เกิด ขึ้นเพื่อตอบสนองสาวหน้าอกไม้กระดาน หรือห้อยคล้อย แต่กลัวเจ็บยังไม่อยากผ่าตัดยัดซิลิโคน แถมยังเคลมอีกว่า ช่วยเพิ่มความรู้สึกให้กับหัวนมของคุณได้อีกแน่ะ
จากข่าวที่เรียบเรียงและเผยแพร่ออกมาว่า ผู้บุกเบิกการรักษานี้คือ ด็อกเตอร์ชาร์ลส์ รูเนลส์ (Charles Runels) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหน้าอกที่ศึกษาวิธีการใช้เลือดจากร่างกายมาแยกเกล็ดเลือดที่อุดมไปด้วยพลาสม่า(PRP)
คุณหมอท่านนี้ยังบอกต่อด้วยว่า เมื่อจำแยกและนำสิ่งเหล่านี้ฉีดเข้าไปยังหน้าอกแล้ว มันจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนหลอดเลือดใหม่รวมถึงเนื้อเยื่อบริเวณหน้าอกทั้งหมด มันจะซ่อมแซมผิวหน้าอกจากด้านใน และนั่นทำให้หน้าอกมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ไม่หย่อนคล้อย และมีทำให้สุขภาพหัวนมของคุณดีขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่านี่จะทำให้หน้าอกของคุณอ่อนวัยลงมากเลยทีเดียว
ไม่ต้องไปผ่าตัดให้เจ็บตัว เจียดเวลาพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น ผลก็จะแสดงออกให้คุณเห็นทันตา ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,800 เหรียญ หรือประมาณ 63,000 บาทต่อครั้ง แต่ข้อเสียคือ ไม่ถาวร ต้องมาทำกระบวนการนี้ใหม่อีกครั้ง แต่สำหรับความปลอดภัยและความเจ็บปวดนั้นเรียกได้ว่าดีกว่าการศัลยกรรมเสริมซิลิโคนแบบเป็นเท่าตัว
โอ้โห นวัตกรรมแวมไพร์ตัวนี้มันจะดีเลิศขนาดนั้นเลยเหรอคะ เลดี้แมเนเจอร์จึงไปสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ทั้งทางด้านผิวหนังและศัลยกรรม ซึ่งทั้งสองท่านล้วนมีความคิดเห็นและข้อแนะนำเหมือนกันเลย
“ส่วนตัวรู้สึกว่า เขาพยายามจะหารายได้จากเครื่องมือปั่นเลือดที่นำเข้ามา แล้วเขาก็จะพยายามหาวัตถุประสงค์ใหม่ๆ เพื่อจะมาเพิ่มรายได้จากเครื่องนี้ให้มากขึ้น” น.พ.รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ผู้ก่อตั้ง Rassapoom skin clinic กล่าวถึงทรีตเมนต์ดูดเลือดให้อกดูม
“นวัตกรรมแวมไพร์นี้ยังไม่ผ่านการรับรองของ FDA (Food and Drug Administration) ทั้ง อย.ของอเมริกา และ อย.ไทย เลยนะ แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการทำทรีตเมนต์ตัวนี้กันอยู่
แวมไพร์ทรีตเมนต์หน้าอกจะเป็นหลักการเดียวกันที่มาใช้กับหน้า คือ นำเลือดเราไปปั่นออกมา แยกเอาส่วนซีรั่มของเกล็ดเลือดที่เข้มข้น ที่ชื่อว่า PRP พลาสม่าที่ร่ำรวยไปด้วยเกล็ดเลือด จะดูดเอาแต่ชั้นที่เป็นเกล็ดเลือด ซึ่งเขาเชื่อว่า เกล็ดเลือดนี้มีโกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) ที่ไปกระตุ้นการสร้างของคอลลาเจน เช่น มาฉีดที่หน้า เพื่อหวังว่าผิวหน้าจะดีขึ้น ริ้วรอยจาง รูขุมขนดีขึ้น
เเต่เมื่อเขาได้นำมาใช้กับหน้าแล้วเขาคงพยายามจะหาวัตถุประสงค์ใหม่ๆ นำมาใช้ให้เยอะขึ้น เช่น ฉีดคอ หรือเต้านม โดยมีความเชื่อว่าจะไปกระตุ้นให้เกิดคอลลาเจน ผิวตรงบริเวณเต้านมจะได้ดูเต่งตึง ดูยกกระชับขึ้น และอาจจะเพิ่มวอลลุ่มของหน้าอก นี่คือสิ่งที่เขาคาดหวัง
แต่ในความเป็นจริง มันก็ไม่ได้ทำให้หน้าอกโตขึ้นมาได้หรอก ทั้งนี้ไม่ว่าจะนวัตกรรมอะไรก็ต้องมีผลงานวิจัยรับรองสนับสนุนว่าฉีดแล้วได้ประโยชน์จริง แต่ยังไม่มีผลงานวิจัยไหนออกมาเลยว่าฉีดแล้วมันดีจริง อาจจะเป็นแค่ “เหมือนจะดีขึ้น” แต่ความรู้สึกที่ว่าเหมือนจะดีขึ้นนี้มันก็แค่ความรู้สึก บางคนอาจจะรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้ว่าดีขึ้นจริงหรือเปล่า แต่ก็มีความรู้สึกว่าอย่างน้อยก็ได้ทำ
ฉีดไปมีผลเสียอะไรไหม จริงๆ ก็ไม่มีหรอก เนื่องจากเป็นเลือดของเราเองก็ไม่มีผลเสียอะไรยกเว้น ไม่สะอาด อาจจะเกิดการติดเชื้อจากเข็มที่จิ้มเข้าไปหากฆ่าเชื้อไม่ดี
แต่ประเด็นที่บอกว่าฉีดเลือดตัวเองแล้วทำให้หน้าอกเต่งตึงก็อาจจะเต่งตึงได้ชั่วคราวในระยะเวลา 1 อาทิตย์เท่านั้น เพราะเพิ่งฉีดเลือดเข้าไปไง อาจจะใหญ่ขึ้นจริงหน้าอกฟูเพราะเลือดที่ฉีดไปยังบวมค้างอยู่ข้างใน แต่หลังจาก 1 อาทิตย์ผ่านไปหน้าอกก็กลับสู่สภาพเดิม ดีไม่ดีอาจจะเป็นรอยเข็ม รอยช้ำอยู่หลายวัน เปลืองเงิน และต้องฉีดบ่อยด้วย
ส่วนผลที่ว่าจะไปสร้างให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่นั้นก็ยังไม่มีผลการวิจัยรับรอง แต่จะให้ขนาดเพิ่มหน้าอกจากเล็กกลายเป็นใหญ่ได้คงจะเป็นไปไม่ได้จริง ถ้าให้แนะนำ ฉีดไขมันตัวเองดีกว่า หรือผ่าตัดเสริมเต้านมไปเลย เป็นสิ่งที่ได้ผลจริงๆ จ่ายหนักทีเดียวแต่อยู่ได้นาน”
นอกจากนี้ น.พ.รัสมิ์ภูมิ ยังเตือนด้วยว่า วิจารณญาณในการตัดสินใจเพื่อทำสวยสำคัญมาก
“เดี๋ยวนี้หลายคลินิคความงามโหมโฆษณาเยอะว่ามีนวัตกรรมใหม่ขึ้นมา อยากจะฝากให้ใช้วิจารณญาณให้มาก ค้นหาข้อมูลว่าเป็นไปได้จริงหรือ ผ่านการรับรองหรือยัง เช่น โปรโมทการร้อยไหมหน้าอยู่ได้ 8 ปี ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว จริงๆ แล้วไม่ถึง 1 ปีหรอก เตือนคลินิคความงามทั้งหลายว่าอย่าหลอกคนไข้ อย่าให้คนไข้คาดหวังสูง”
ทว่านอกจากความคิดเห็นของคุณหมอด้านผิวหนังกูรูด้านการฉีดเสริมความงามแล้ว เลดี้ฯ ยังตามไปสอบถามศัลยแพทย์ด้วยค่ะ
“การฉีดน้ำเลือดที่มีลักษณะใสๆ เข้าไป ไม่น่ามีอะไรพิสูจน์ได้ว่ามันจะใหญ่ขึ้นนอกจากบวมในช่วงแรก และหลังจากนั้นก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ อาจจะมีปัญหาเลือดคั่ง หรือพังพืดเกิดขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้นก่อนจะทำอะไรลักษณะนี้ ควรจะต้องศึกษาให้ดีก่อนว่า มันถูกต้อง ผ่านหลักการวิธีที่เป็นมาตรฐานหรือไม่” นพ.นพรัตน์ รัตนวราห แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ประจำโรงพยาบาลสมิติเวช
“เกล็ดเลือดเราก็ไม่ได้มีอะไร อาจจะมีพลาสม่าบ้าง บางคนก็เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเสต็มเซลล์ หรือโกรทแฟคเตอร์ต่างๆ แต่หลักฐานทางการแพทย์ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่ยืนยันและคงจะไม่ใช่วิธีที่มาตรฐานแน่นอน และมีความเสี่ยงพอสมควรในอันตรายต่างๆ
อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งใหม่เป็นนวัตกรรมที่เพิ่งคิดค้น อย่าเพิ่งเชื่อหรือรีบทำ ควรศึกษาให้ดีก่อนว่ามีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันหรือไม่ ต้องพิสูจน์ได้จริงในวิธีการรักษา และถ้าไม่ได้ผลจริง ในสักระยะหนึ่งมันก็จะหายไป หรือหากเกิดปัญหาแล้วเราจะได้ไม่เป็นคนที่รับปัญหานั้นแทน
ส่วนการเสริมหน้าอกอย่างเป็นมาตรฐานในปัจจุบันนี้ คือ การเสริมด้วยซิลิโคน ที่สำคัญต้องเป็นซิลิโคนที่ได้มาตรฐาน ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์ ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง สถานที่เชื่อถือได้ วัสดุที่มีมาตรฐาน
นอกจากนี้ในบางบริเวณของเต้านมที่อาจจะมีรอยบุ๋ม หรือต้องการเติมเต็มเล็กน้อย ก็สามารถดูดไขมันตัวเองออกมาแล้วฉีดไขมันของตัวเองเพิ่มเติมเข้าไปได้เช่นกัน” นพ.นพรัตน์ กล่าวปิดท้าย
ดังนั้นการการเสพสื่อผ่านโลกโซเชียลนั้นต้องระวังค่ะ ต้องใช้วิจารณญาณอย่างมาก อย่าเพิ่งตื่นเต้นอินเชื่อในทันที ต้องศึกษาหาข้อมูลให้รอบด้านก่อน เพราะหากเกิดผลร้ายผลเสียแล้ว ไม่มีองค์กรไหนช่วยเรียกร้องความรับผิดชอบนะคะ
อ่ะนะ นอกจากจะดูดเลือดตัวเราเองแล้วยังดูดตังค์ออกไปอีกเนาะ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
หลังจากที่ข่าวว่อนสะพัดในโลกโซเชียลว่า มีนวัตกรรมฉีดเกล็ดเลือดเพิ่มขนาดหน้าอก หรือที่เรียกกันคุ้นหูอย่างเขย่าขวัญว่า “แวมไพร์” อย่างที่เคยเห็นสาวคิม คาร์ดาเชียน และบรรดาเซเลบดาราคนดังฝั่งฮอลลีวูดฮิตกันอยู่พักหนึ่ง ดูดเลือดเพื่อหวังฟื้นฟูเซลล์ให้หนังหน้าให้กระชับเต่งตึง
ทว่าผู้หญิงเราก็ไม่ได้อยากกระชับแต่หน้าใช่ไหมคะ มองลงมายังเต้านมก็อยากจะให้ตึงเด้งดึ๋งด้วยกระชากวัยด้วย จึงมีนวัตกรรม Vampire Breast Lift เกิด ขึ้นเพื่อตอบสนองสาวหน้าอกไม้กระดาน หรือห้อยคล้อย แต่กลัวเจ็บยังไม่อยากผ่าตัดยัดซิลิโคน แถมยังเคลมอีกว่า ช่วยเพิ่มความรู้สึกให้กับหัวนมของคุณได้อีกแน่ะ
จากข่าวที่เรียบเรียงและเผยแพร่ออกมาว่า ผู้บุกเบิกการรักษานี้คือ ด็อกเตอร์ชาร์ลส์ รูเนลส์ (Charles Runels) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหน้าอกที่ศึกษาวิธีการใช้เลือดจากร่างกายมาแยกเกล็ดเลือดที่อุดมไปด้วยพลาสม่า(PRP)
คุณหมอท่านนี้ยังบอกต่อด้วยว่า เมื่อจำแยกและนำสิ่งเหล่านี้ฉีดเข้าไปยังหน้าอกแล้ว มันจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนหลอดเลือดใหม่รวมถึงเนื้อเยื่อบริเวณหน้าอกทั้งหมด มันจะซ่อมแซมผิวหน้าอกจากด้านใน และนั่นทำให้หน้าอกมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ไม่หย่อนคล้อย และมีทำให้สุขภาพหัวนมของคุณดีขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่านี่จะทำให้หน้าอกของคุณอ่อนวัยลงมากเลยทีเดียว
ไม่ต้องไปผ่าตัดให้เจ็บตัว เจียดเวลาพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น ผลก็จะแสดงออกให้คุณเห็นทันตา ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,800 เหรียญ หรือประมาณ 63,000 บาทต่อครั้ง แต่ข้อเสียคือ ไม่ถาวร ต้องมาทำกระบวนการนี้ใหม่อีกครั้ง แต่สำหรับความปลอดภัยและความเจ็บปวดนั้นเรียกได้ว่าดีกว่าการศัลยกรรมเสริมซิลิโคนแบบเป็นเท่าตัว
โอ้โห นวัตกรรมแวมไพร์ตัวนี้มันจะดีเลิศขนาดนั้นเลยเหรอคะ เลดี้แมเนเจอร์จึงไปสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ทั้งทางด้านผิวหนังและศัลยกรรม ซึ่งทั้งสองท่านล้วนมีความคิดเห็นและข้อแนะนำเหมือนกันเลย
“ส่วนตัวรู้สึกว่า เขาพยายามจะหารายได้จากเครื่องมือปั่นเลือดที่นำเข้ามา แล้วเขาก็จะพยายามหาวัตถุประสงค์ใหม่ๆ เพื่อจะมาเพิ่มรายได้จากเครื่องนี้ให้มากขึ้น” น.พ.รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ผู้ก่อตั้ง Rassapoom skin clinic กล่าวถึงทรีตเมนต์ดูดเลือดให้อกดูม
“นวัตกรรมแวมไพร์นี้ยังไม่ผ่านการรับรองของ FDA (Food and Drug Administration) ทั้ง อย.ของอเมริกา และ อย.ไทย เลยนะ แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการทำทรีตเมนต์ตัวนี้กันอยู่
แวมไพร์ทรีตเมนต์หน้าอกจะเป็นหลักการเดียวกันที่มาใช้กับหน้า คือ นำเลือดเราไปปั่นออกมา แยกเอาส่วนซีรั่มของเกล็ดเลือดที่เข้มข้น ที่ชื่อว่า PRP พลาสม่าที่ร่ำรวยไปด้วยเกล็ดเลือด จะดูดเอาแต่ชั้นที่เป็นเกล็ดเลือด ซึ่งเขาเชื่อว่า เกล็ดเลือดนี้มีโกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) ที่ไปกระตุ้นการสร้างของคอลลาเจน เช่น มาฉีดที่หน้า เพื่อหวังว่าผิวหน้าจะดีขึ้น ริ้วรอยจาง รูขุมขนดีขึ้น
เเต่เมื่อเขาได้นำมาใช้กับหน้าแล้วเขาคงพยายามจะหาวัตถุประสงค์ใหม่ๆ นำมาใช้ให้เยอะขึ้น เช่น ฉีดคอ หรือเต้านม โดยมีความเชื่อว่าจะไปกระตุ้นให้เกิดคอลลาเจน ผิวตรงบริเวณเต้านมจะได้ดูเต่งตึง ดูยกกระชับขึ้น และอาจจะเพิ่มวอลลุ่มของหน้าอก นี่คือสิ่งที่เขาคาดหวัง
แต่ในความเป็นจริง มันก็ไม่ได้ทำให้หน้าอกโตขึ้นมาได้หรอก ทั้งนี้ไม่ว่าจะนวัตกรรมอะไรก็ต้องมีผลงานวิจัยรับรองสนับสนุนว่าฉีดแล้วได้ประโยชน์จริง แต่ยังไม่มีผลงานวิจัยไหนออกมาเลยว่าฉีดแล้วมันดีจริง อาจจะเป็นแค่ “เหมือนจะดีขึ้น” แต่ความรู้สึกที่ว่าเหมือนจะดีขึ้นนี้มันก็แค่ความรู้สึก บางคนอาจจะรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้ว่าดีขึ้นจริงหรือเปล่า แต่ก็มีความรู้สึกว่าอย่างน้อยก็ได้ทำ
ฉีดไปมีผลเสียอะไรไหม จริงๆ ก็ไม่มีหรอก เนื่องจากเป็นเลือดของเราเองก็ไม่มีผลเสียอะไรยกเว้น ไม่สะอาด อาจจะเกิดการติดเชื้อจากเข็มที่จิ้มเข้าไปหากฆ่าเชื้อไม่ดี
แต่ประเด็นที่บอกว่าฉีดเลือดตัวเองแล้วทำให้หน้าอกเต่งตึงก็อาจจะเต่งตึงได้ชั่วคราวในระยะเวลา 1 อาทิตย์เท่านั้น เพราะเพิ่งฉีดเลือดเข้าไปไง อาจจะใหญ่ขึ้นจริงหน้าอกฟูเพราะเลือดที่ฉีดไปยังบวมค้างอยู่ข้างใน แต่หลังจาก 1 อาทิตย์ผ่านไปหน้าอกก็กลับสู่สภาพเดิม ดีไม่ดีอาจจะเป็นรอยเข็ม รอยช้ำอยู่หลายวัน เปลืองเงิน และต้องฉีดบ่อยด้วย
ส่วนผลที่ว่าจะไปสร้างให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่นั้นก็ยังไม่มีผลการวิจัยรับรอง แต่จะให้ขนาดเพิ่มหน้าอกจากเล็กกลายเป็นใหญ่ได้คงจะเป็นไปไม่ได้จริง ถ้าให้แนะนำ ฉีดไขมันตัวเองดีกว่า หรือผ่าตัดเสริมเต้านมไปเลย เป็นสิ่งที่ได้ผลจริงๆ จ่ายหนักทีเดียวแต่อยู่ได้นาน”
นอกจากนี้ น.พ.รัสมิ์ภูมิ ยังเตือนด้วยว่า วิจารณญาณในการตัดสินใจเพื่อทำสวยสำคัญมาก
“เดี๋ยวนี้หลายคลินิคความงามโหมโฆษณาเยอะว่ามีนวัตกรรมใหม่ขึ้นมา อยากจะฝากให้ใช้วิจารณญาณให้มาก ค้นหาข้อมูลว่าเป็นไปได้จริงหรือ ผ่านการรับรองหรือยัง เช่น โปรโมทการร้อยไหมหน้าอยู่ได้ 8 ปี ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว จริงๆ แล้วไม่ถึง 1 ปีหรอก เตือนคลินิคความงามทั้งหลายว่าอย่าหลอกคนไข้ อย่าให้คนไข้คาดหวังสูง”
ทว่านอกจากความคิดเห็นของคุณหมอด้านผิวหนังกูรูด้านการฉีดเสริมความงามแล้ว เลดี้ฯ ยังตามไปสอบถามศัลยแพทย์ด้วยค่ะ
“การฉีดน้ำเลือดที่มีลักษณะใสๆ เข้าไป ไม่น่ามีอะไรพิสูจน์ได้ว่ามันจะใหญ่ขึ้นนอกจากบวมในช่วงแรก และหลังจากนั้นก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ อาจจะมีปัญหาเลือดคั่ง หรือพังพืดเกิดขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้นก่อนจะทำอะไรลักษณะนี้ ควรจะต้องศึกษาให้ดีก่อนว่า มันถูกต้อง ผ่านหลักการวิธีที่เป็นมาตรฐานหรือไม่” นพ.นพรัตน์ รัตนวราห แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ประจำโรงพยาบาลสมิติเวช
“เกล็ดเลือดเราก็ไม่ได้มีอะไร อาจจะมีพลาสม่าบ้าง บางคนก็เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเสต็มเซลล์ หรือโกรทแฟคเตอร์ต่างๆ แต่หลักฐานทางการแพทย์ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่ยืนยันและคงจะไม่ใช่วิธีที่มาตรฐานแน่นอน และมีความเสี่ยงพอสมควรในอันตรายต่างๆ
อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งใหม่เป็นนวัตกรรมที่เพิ่งคิดค้น อย่าเพิ่งเชื่อหรือรีบทำ ควรศึกษาให้ดีก่อนว่ามีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันหรือไม่ ต้องพิสูจน์ได้จริงในวิธีการรักษา และถ้าไม่ได้ผลจริง ในสักระยะหนึ่งมันก็จะหายไป หรือหากเกิดปัญหาแล้วเราจะได้ไม่เป็นคนที่รับปัญหานั้นแทน
ส่วนการเสริมหน้าอกอย่างเป็นมาตรฐานในปัจจุบันนี้ คือ การเสริมด้วยซิลิโคน ที่สำคัญต้องเป็นซิลิโคนที่ได้มาตรฐาน ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์ ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง สถานที่เชื่อถือได้ วัสดุที่มีมาตรฐาน
นอกจากนี้ในบางบริเวณของเต้านมที่อาจจะมีรอยบุ๋ม หรือต้องการเติมเต็มเล็กน้อย ก็สามารถดูดไขมันตัวเองออกมาแล้วฉีดไขมันของตัวเองเพิ่มเติมเข้าไปได้เช่นกัน” นพ.นพรัตน์ กล่าวปิดท้าย
ดังนั้นการการเสพสื่อผ่านโลกโซเชียลนั้นต้องระวังค่ะ ต้องใช้วิจารณญาณอย่างมาก อย่าเพิ่งตื่นเต้นอินเชื่อในทันที ต้องศึกษาหาข้อมูลให้รอบด้านก่อน เพราะหากเกิดผลร้ายผลเสียแล้ว ไม่มีองค์กรไหนช่วยเรียกร้องความรับผิดชอบนะคะ
อ่ะนะ นอกจากจะดูดเลือดตัวเราเองแล้วยังดูดตังค์ออกไปอีกเนาะ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net