>>เป็นที่จับตามองกันมาสักระยะว่าตระกูลใหญ่ผู้มีอิทธิพลในวงการธุรกิจค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย อย่างเดอะมอลล์ กรุ๊ป ใครจะเป็นผู้สานต่อธุรกิจหมื่นล้าน? และวันนี้ได้เวลาเปิดตัวรุ่นใหม่สาวน้อยวัย 23 ที่ถูกวางตัวให้สานต่อธุรกิจของครอบครัวเจเนอเรชันที่ 3 แห่งตระกูลอัมพุช “ชมพู-พลอยชมพู อัมพุช” ลูกสาวคนเล็กของ “สุรัตน์ อัมพุช” กับ “นันท์นภัส หวันปาเต๊ะ” และเธอยังเป็นหลานสุดเลิฟของเจ้าแม่เดอะมอลล์อย่าง “คุณแอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช” อีกด้วย
สาวน้อยรุ่นใหม่ “น้องชมพู” หรือ “พลอยชมพู อัมพุช” ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการแผนกพัฒนาธุรกิจ ที่ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ ลูกสาวคนเล็กของบ้านที่ได้รับการเทรนอย่างดีทั้งจากคุณพ่อและ “อาแอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช” หลังจากที่เรียนจบไฮสคูลที่แฮร์โรว์ อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล และกำลังตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศหรือเรียนในเมืองไทยดีนั้น เธอก็ได้รับคำแนะนำที่ดีจากคุณพ่อ จนเธอเลือกที่จะออกไปเรียนรู้โลกกว้างที่เต็มไปด้วยบททดสอบ
“ตอนแรกอยากเรียนที่เมืองไทยเพราะเรายังอยากมีคอนเนกชันกับเพื่อนๆ อยู่ แต่คุณพ่อแนะนำว่าอยากให้ไปเรียนต่างประเทศ เพราะนอกจากเรื่องของวิชาการแล้ว ยังจะฝึกเราในเรื่องของการใช้ชีวิต การดูแลตัวเองด้วย ซึ่งการไปเรียนต่อปริญญาตรีครั้งนั้นเป็นการไปเรียนต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก ก่อนไปคุณพ่อมาส่งแล้วก็บอกว่า “พ่อไม่ได้มาส่งแค่ให้ไปเรียนรู้ในห้องเรียนนะ แต่ให้ไปเรียนรู้ชีวิต” จำได้เลยว่าวันนั้นร้องไห้แล้วกอดคุณพ่อเลย
พอไปเรียนก็รู้สึกได้เลยว่า การไปเรียนต่างประเทศนั้นความรู้ที่ได้ไม่ได้มีแค่ในห้องเรียนจริงๆ เราได้ไปเรียนรู้วัฒนธรรม ไปเห็นความเจริญการพัฒนาของต่างประเทศ และการที่เราอยู่กับตัวเองทำให้เรามีความรับผิดชอบ รู้จักเอาตัวรอด อยู่เมืองไทยเราอาจจะเป็นคุณหนูมีคนคอยดูแล แต่อยู่ต่างประเทศเราต้องดูแลตัวเอง ไปไหนก็ต้องขึ้นรถเมล์ ทำกับข้าว ซักผ้าเอง”
โดยสาขาที่เธอเลือกไปเรียนต่อนั้นเป็นสาขา Business Management with Marketing ที่ University of Brighton ประเทศอังกฤษ ซึ่งเธอเลือกจากความชอบและความสนใจด้านการตลาดเป็นทุนเดิม ประกอบกับความอยากเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว ซึ่งที่นั่นให้เธอทั้งความรู้ทางวิชาการและความรู้ในเรื่องของการใช้ชีวิต
“ที่เลือกไปเรียนที่เมือง Brighton เพราะคุณครูแนะนำว่าเป็นเมืองน่ารัก ซึ่งก็น่ารักจริงๆ ผู้คนน่ารักใจดี รวมถึงเพื่อนๆ ต่างชาติที่เรียนด้วยกันด้วย เวลาทำงานกลุ่ม เราก็ได้เรียนรู้การทำงาน วัฒนธรรมและนิสัยของแต่ละชาติไปด้วย ต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองคนเดียวก็ไม่เหงานะ เพราะสุดสัปดาห์ก็นั่งรถไฟไปหาเพื่อนที่ลอนดอนใช้เวลาประมาณ 50 นาที การไปเรียนต่างประเทศทำให้เราได้ทั้งเพื่อนต่างชาติและเพื่อนใหม่ที่เป็นคนไทยด้วย รู้สึกมีคอนเนกชันเพิ่มขึ้น”
และทันทีที่เรียนจบกลับมา โอกาสที่ดีก็วิ่งเข้ามาหา เมื่อคุณอา (ศุภลักษณ์ อัมพุช) เห็นแววความขยันของหลานสาว จึงเปิดโอกาสให้เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมทำงานให้กับศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ ทำให้เธอได้ลองเรียนรู้การทำงานกับมืออาชีพ ระดับผู้บริหารธุรกิจหมื่นล้าน ฉะนั้น เมื่อโอกาสดีๆ มาถึงพลอยชมพูจึงขอสู้และเก็บเกี่ยวความรู้ให้ได้มากที่สุด!
“พอเรียนจบกลับมาถามคุณพ่อว่าทำงานอะไรดี? คุณพ่อเห็นว่าเราจบด้านการตลาด จึงลองให้สมัครทำงานกับอาแอ๊ว ซึ่งก็ตรงกับที่เราชอบ อาแอ๊วเรียกมาสัมภาษณ์ แล้วก็ลองให้ไปทำด้านการตลาด & อีเวนต์ เรียนรู้งานอยู่ 2 เดือน อาแอ๊วก็โทรศัพท์ตามให้มาทำหน้าที่เสมือนเลขาฯ เรียนรู้งานจากอาแอ๊ว ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมาก จึงเข้ามาติดตามอาแอ๊ว
...การมาทำงานกับอาแอ๊วทำให้เห็นว่าท่านทำงานหนักมาก ท่านเป็นคนที่แน่วแน่ เข้มงวดและจริงจังเรื่องงานมาก ทุกอย่างต้องเป๊ะ และลงมาดูงานเองหมดเลย เห็นกระบวนการการทำงานของท่านทำให้เรารู้ว่านี่คือการทำงานแบบคนที่รักงานและมีความเป็นมืออาชีพจริงๆ ทำให้รู้สึกอยากเป็นแบบท่านบ้าง
ท่านสอนเราหลายๆ อย่าง เช่น เวลาตรวจงานอย่าไปดูแต่ส่วนดี ต้องดูว่ามีสิ่งบกพร่องตรงไหนบ้าง เพื่อนำไปสู่การพัฒนา อาจจะไม่เหมือนกับในห้องเรียนที่มีทฤษฎีให้เราอ่านและจำไปสอบ แต่การทำงานคือการเรียนรู้จากความผิดพลาด ปรับปรุงเพื่อที่จะไม่กลับไปทำซ้ำอีก การทำงานฝึกให้เราต้องแอกทีฟ มีความรอบคอบ ไหวพริบ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้เราพัฒนาตัวเอง”
โดยความรู้ที่ได้จากการทำงานร่วมกับมืออาชีพในระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมานั้น เธอได้ตกผลึก และนำมาเป็นแนวทางในการทำงานและดำเนินชีวิตของเธอด้วย โดยเธอเล่าให้เราฟังอย่างภูมิใจว่า
“เกือบ 1 ปีที่ทำงาน เป็นช่วงที่ได้ความรู้จากคุณพ่อและอาแอ๊วเยอะมาก รู้สึกดีที่ได้เข้ามาอยู่ในแวดวงของคนที่ทำงานเป็นมืออาชีพ เหมือนเราได้ขึ้นลิฟต์ ได้ดูว่าระดับผู้บริหารระดับสูงเขาทำงานกันอย่างไร อาแอ๊วจะสอนเสมอว่าการทำงานกับทุกคนหลักสำคัญๆ คือ ‘To love’ การรักองค์กร รักเพื่อนร่วมงาน ‘To Give’ การให้ เราต้องให้เขาก่อน เขาถึงจะให้เรากลับมา ‘To Share’ คือการแบ่งปัน และมีความสามัคคี ปรองดอง ‘To Forgive to Forget’ คือ การที่ให้อภัยกัน ทั้งหมดนี้เป็นแนวคิดในการใช้ชีวิตและการทำงานที่ตัวเองก็ยึดเป็นแบบอย่าง
ส่วนคุณพ่อจะบอกให้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะถ้าเราชอบเราจะได้ทำได้ดีที่สุด การที่เราทำงานกับคนอื่นเราต้องให้เกียรติคนอื่น ไม่ว่าจะคนในระดับไหน เพราะการที่เป็นห้างที่ยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากคนคนเดียว พนักงานทุกคนร่วมใจกันให้เกิดขึ้นได้ ฉะนั้นเราต้องให้เกียรติพนักงานทุกคน”
ทั้งเคยผ่านงานด้านการตลาดและอีเวนต์ ทั้งผ่านการฝึกงานอย่างใกล้ชิดกับระดับผู้บริหาร ปัจจุบันนี้เธอดำรงตำแหน่งผู้จัดการแผนกพัฒนาธุรกิจ ที่ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ อีกหนึ่งความท้าทายที่ทำให้เธอต้องตั้งใจพัฒนาตัวเองไปด้วย
“ปัจจุบันอยู่ฝ่าย Business Development ของ M District คอยดูแลผู้เช่าพื้นที่ที่เป็นแบรนด์ไฮเอนด์ และลักชูรีแบรนด์ ช่วยดูแล อำนวยความสะดวก ซึ่งทีมเราจะมีการพรีเซนต์เยอะมาก เพราะเราต้องคอยพรีเซนต์เกี่ยวกับ M District ซึ่งต้องพยายามพูดให้คล่อง ให้มีความเป็นมืออาชีพ ก่อนหน้านี้เราก็แอบซึมซับจากอาแอ๊วมาบ้าง (ยิ้ม)
นอกจากนั้นยังทำ Business Development หรือแผนการพัฒนาธุรกิจ ที่แผนกของเรายังต้องเน้นเรื่องการวิจัยและพัฒนา พลอยชมพูมีหน้าที่หาข้อมูลว่าเทรนด์ตอนนี้เป็นอย่างไร อะไรกำลังมาแรง แล้วก็ทำรีพอร์ตส่งทุกคนในบริษัท รวมไปถึงการดูคู่แข่งด้วยว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง เพราะการที่เราจะมาเป็นผู้นำในธุรกิจรีเทลนี้ต้องจับจุดเด่นจุดด้อยของคู่แข่งให้ได้ แล้วนำมาปรับใช้กับองค์กรของเรา”
ถึงจะเป็นเฟิสต์จ๊อบเปอร์ที่มุ่งมั่นในเรื่องของการทำงานมาก แต่สาวน้อยชมพูก็มีการเบรกตัวเองบ้าง โดยตอนนี้เธอเริ่มสนใจเรื่องการดูแลตัวเอง และแง้มแผนเปิดธุรกิจร้านไอศกรีมให้เราฟังนิดๆ อีกด้วย
“เห็นเพื่อนๆ ดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายกัน ช่วงนี้พอจัดสรรเวลาได้ก็จะไปเข้าฟิตเนสบ้าง จนตอนนี้การไปออกกำลังกายกลายเป็นฮอบบี้ของเราไปแล้ว และกิจกรรมโปรดอีกอย่างคือการทำขนมและทำไอศกรีม เนื่องจากเคยฝึกทำไอศกรีมมาจากเพื่อนชาวอิตาเลียนสมัยที่ไปเรียนต่างประเทศ พอกลับมาเมืองไทยก็ไปเรียนเพิ่ม และกำลังจะเปิดร้านไอศกรีมด้วยค่ะ เป็นไอศกรีมเจลลาโต้ ไอศกรีมโฮมเมดสไตล์อิตาลี
เป็นคนชอบทำขนม ทั้งเค้ก ทั้งไอศกรีม มาจากความชอบส่วนตัวจริงๆ คุณพ่อก็จะปล่อยให้ทำสิ่งที่ชอบเพราะท่านเข้าใจว่าทุกคนมีความชอบแตกต่างกัน ท่านก็จะรู้แนวถนัดของลูกๆ แล้วก็คอยสนับสนุนไป ตอนนี้ซื้อเครื่องและเช่าพื้นที่ เตรียมเปิดร้านไอศกรีมแล้วค่ะ”
ส่วนแผนชีวิตที่จะพัฒนาตัวเองไปอีกขึ้นนั้นเธอมองว่าอีกสัก 1-2 ปี อาจจะไปเรียนต่อในระดับปริญญาโท แต่ก็ยังไม่แน่เพราะช่วงนี้เธอกำลังติดใจกับการเข้ามาเรียนรู้ และลงมือทำในธุรกิจรีเทลที่ยังมีสิ่งใหม่ๆ รอให้เธอเรียนรู้อีกมากมาย :: Text by FLASH
Profile
ชื่อ : พลอยชมพู อัมพุช
ชื่อเล่น : ชมพู
การศึกษา : มัธยมศึกษา > แฮร์โรว์ อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล
> ปริญญาตรี สาขา Business Management with Marketing ที่ University of Brighton ประเทศอังกฤษ
งานอดิเรก : ออกกำลังกาย, ทำขนม และไอศกรีม
Special Thanks : ศูนย์การค้า The Emquartier โซน QUARTIER WATER GARDEN ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายภาพ
