By Lady Manager
ถ้าเป็นเรื่องเครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ แล้วสาวไทยมักจะทุ่มไม่อั้นจัดเต็มให้กับความงามของตัวเอง และมักที่จะชอบใช้ของนอกจากต่างประเทศกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอเมริกา ยุโรป หรือญี่ปุ่น เกาหลี เพราะมั่นใจของนอกมากกว่าของไทย
แต่รู้ไหมคะว่า ผลิตภัณฑ์ความงามของคนไทยแท้ๆ นั้น คุณภาพ วัตถุดิบ ก็สู้ของนอกเทียบเคาน์เตอร์แบรนด์ได้เลยทีเดียว แถมยังปรับสูตรรู้ลึกรู้จริงเรื่องผิวของคนไทยมากกว่าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศอีกด้วย
เลดี้แมเนเจอร์คัด 3 ผลิตภัณฑ์ไทยแท้มารีวิวให้ดูกันค่ะ ว่าของไทยดีงามเทียบเคาน์เตอร์แบรนด์ ไม่แพ้ต่างชาติแม้แต่นิดเดียว
--> ลามอนสกินแคร์ (La Monde Skincare)
เคลมไว้ว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สาววัย 30+ เน้นการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย ผลักดันผลลัพธ์ของสกินแคร์ถึงขีดสุดด้วยการไม่ต้องใช้กรรมวิธี หรือเครื่องมืออย่างอื่นมาช่วย
ลามอนสกินแคร์เป็นแบรนด์ที่มีเจ้าของเป็นคนไทยค่ะ แต่นำเข้าสูตรและวัตถุดิบในการผลิตจากต่างประเทศที่ถูกต้องตามหลักการและมาตรฐานของ อย.และมาตรฐานสากล นอกจากนี้ยังมีทีมวิจัยและพัฒนาเพื่อคิดค้นสูตรของผลิตภัณฑ์ยกกระชับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และเป็นสูตรของ La Monde Skincare เพื่อต่อสู้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง และเพื่อสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
เลดี้ฯ มีผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ 3 ตัวด้วยกันค่ะ คือ Perfect Eye Serum ซึ่งเป็นตัวบำรุงผิวรอบดวงตา สามารถซึบซาบลึกล้ำสู่ผิว ให้ผิวบริเวณรอบดวงตายกกระชับ ร่องริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด และตัวบำรุงผิวหน้า Perfect Facial Serum สามารถซึมลงสู่ผิวอย่างเต็มที่ ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า ริ้วรอยต่างๆ ให้กลับมามีสุขภาพดี อ่อนเยาว์ กระชับ กระจ่างใส เรียบเนียน เด้งจนสัมผัสได้ทันทีหลังใช้ สามารถใช้ก่อน และหลังแต่งหน้าได้ และตัวสุดท้าย Perfect Facial Emulsion เป็นครีมบำรุงช่วยในเรื่องความกระจ่างใสด้วยสาร Hyaluronic acid เสริมการซ่อมแซมผิว ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรง ดูดซึมกักเก็บความชุ่มชื้นบนใบหน้าให้ตึงกระชับ กระจ่างใส
เอาล่ะค่ะ เราลองมาทดลองผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัวกันดีกว่า ว่าจะเด็ดจริงอย่างที่เคลมไว้หรือไม่
ลองใช้ ตัวแรกเลยที่จะลองใช้นะคะ คือ Perfect Eye Serum ตัวเนื้อครีมเป็นเนื้อเจลค่ะ ทาง่าย ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว หลังใช้มา 3 สัปดาห์ ผิวรอบดวงตาดูดีขึ้น กระชับขึ้นเล็กน้อย เจ้าตีนการ่องลึกยังอยู่ แต่ไม่เกิดรอยใหม่ ส่วนเรื่องรอยคล้ำรอบดวงตา เนื่องจากเป็นคนนอนดึกมากค่ะ จึงไม่ค่อยเห็นผลในเรื่องความกระจ่างใสของรอบดวงตา แต่เรื่องความกระชับจัดว่าดีค่ะ เพราะสำหรับผู้หญิงวัย 30 ขึ้นไปมักจะต้องกลุ้มใจกับตีนกาที่เริ่มโผล่มาทีละเส้นสองเส้นกันแล้วนะคะ ดังนั้นผิวรอบดวงตาจะละเลยไม่ได้เด็ดขาด (ราคา 2,900 บาท ขนาด 15 ml)
Perfect Facial Serum เนื้อเซรั่มมีลักษณะเป็นเนื้อเจลค่ะ จึงทำให้ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เหมาะมากสำหรับคนไทยซึ่งเป็นคนผิวมัน และเหมาะกับทุกสภาพผิว ซึมไวเว่อร์ คือ กดออกมานิดเดียวก็สามารถทาได้ทั่วหน้าแล้ว เพราะไม่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก เและมีการเติม Active Ingredients ที่เข้มข้นกว่าครีม ดังนั้นเซรั่มบำรุงผิวหน้าจึงมีราคาที่แพงกว่าครีม
ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับได้ในเวลาเร่งรีบเลยค่ะ เพราะทาปุ้บหน้าตึงปั้บ ยิ่งหากใช้ก่อนแต่งหน้าจะทำให้เมกอัพติดทนนานมากขึ้น เหมือนเป็นไพรม์เมอร์ไปในตัวได้ หรือหลังแต่งหน้าอยากจะใช้ก็ไม่ทำให้เครื่องสำอางหลุด หรือเป็นคราบ
หลังจากใช้มาประมาณ 3 สัปดาห์ รู้สึกว่าหน้ายกกระชับขึ้น แต่ไม่ได้เห็นผลชัดเจนราวฉีดโบท็อกซ์หรอกนะคะ แต่รู้สึกได้เอง ส่วนริ้วรอยร่องลึกไม่ได้จางลง แต่ริ้วรอยร่องเล็กค่อยๆ ดีขึ้น สำหรับคนหน้าแห้งต้องใช้ควบคู่กับมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพราะซึมเร็วมาก และอาจทำให้หน้าตึงได้ แต่สำหรับคนหน้ามันตอบโจทย์ได้ดีงามมากค่ะ (ราคา 3,450 บาท ขนาด 30 ml)
Perfect Facial Emulsion เป็นเนื้ออิมัลชั่นค่ะ ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าเป็นสีชมพูจางๆ เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย และยังคงความชุ่มชื้นอยู่บนผิวแต่ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ ตอบโจทย์ได้ทุกสภาพผิว ดังนั้นควรใช้ควบคู่กับตัวเซรั่มหลังจากสร้างความยกกระชับตึงแล้ว การใช้ตัวอิมัลชั่นจะทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นอีกเยอะ (ราคา 2,900 บาท ขนาด 30 ml)
ในส่วนของตัวบรรจุภัณฑ์คือ ดีงามค่ะ หัวปั้มกดง่าย และภายนอกดูแข็งแรง ดีไซน์เรียบคลาสสิค
--> เรมี่ แมท ลิป คัลเลอร์ (Reme Matte Lip Color)
ได้ยินชื่อเสียงลิปสติกชื่อเก๋แต่เชื้อชาติไทยสัญชาติไทยล้วนๆ ยี่ห้อนี้ทางโซเชียลมีเดีย ผ่านบิวตี้บลอกเกอร์ที่พากันรีวิวชื่นชม เลดี้ฯ จึงสนใจมาก เพราะประเด็นสำคัญคือ คุณหมอเป็นคนทำ
ชื่อ พญ.ปิยวดี จิตะสมบัติ หรือ คุณหมอแจง หมอผิวหนังที่อยู่ในวงการความงามมากว่า 10 ปี เจ้าของ Sincere Beauty Clinic
ข่าวว่าคุณหมอแจงออกไอเดียทำทุกอย่าง ตั้งแต่คิดสูตร เนื้อผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์สีสัน กระทั่งออกแบบแพกเกจจิ้ง
เสียอย่างเดียว ไม่ได้วางขายทั่วไป ถ้าไม่สั่งซื้อทางออนไลน์ ก็ต้องไปที่ shop ในซอยสุขุมวิท 53 เอง
เลดี้ฯ พุ่งไปเลยค่ะ
ที่แท้ shop ก็คือ ส่วนที่ต่อเติมจาก Sincere Beauty Clinic นั่นเอง เป็น shop เล็กๆ ทว่าดูดีสไตล์ผู้ดีเก่าที่มีความทันสมัย ด้วยกลิ่นอายบ้านคลินิก Sincere ที่อยู่ติดกันแนวเรโทรอารมณ์วินเทจหน่อยๆ แต่เล่นสีเทา ขาว ดำ ให้ความซึ่งรู้สึกโมเดิร์น มีความเป็นแฟชั่น
ธีมนี้ส่งมาถึงแพ็กเกจจิ้ง คุณหมอแกคุมโทนทั้งรูปแบบหีบห่อรูปทรงปลอกลิปสติก ให้ออกมาเรียบง่ายร่วมสมัย บรรจุภัณฑ์ดูดีระดับเคาน์เตอร์แบรนด์
ไม่หลุยส์ขึ้นโมดัดลายให้เชยไปตามกาลเวลา หากเป็นแท่งกลมๆ เรียบๆ เล่นสีเทา ขาว ดำ เท่านั้น สไตล์เก๋ไก๋ร่วมสมัย เรียกว่าควักลิปสติกออกมาเมื่อใด ไม่ป้าแน่นอน แถมคุณภาพปลอกก็ผ่าน หมุนไม่ติด แท่งลิปก็ไม่หลุดเคลื่อน คงสภาพทุกสภาวะ (เลดี้ฯ เคยใช้ของไทยบางยี่ห้อรวมทั้งแบรนด์นอกด้วย หมุนไม่กี่ครั้ง วางหกคะเมนตีลังกาหน่อย แท่งลิปล้มเอียงเหลวซะงั้น)
กลับไปที่ shop ต่อ หลังจากเลดี้ฯ ละลานตากับตัวอย่างลิปสติก หลากเนื้อ หลากรุ่น หลากสี เรมี่เค้ามีให้เลือกกว่า 80 สีแน่ะค่ะ ไม่ธรรมดาเลยนะเนี้ยลิปสติกแบรนด์ไทยยี่ห้อนี้
สีฮิตอย่างแดง ส้ม น้ำตาลก็มีหลายเฉดให้เลือก หรือจะล้ำแฟชั่นจ๋า สีม่วงสีฟ้าก็มี
แต่เราเลือกเนื้อแมทสีเนื้อ เรมี่ แมท ลิป คัลเลอร์ (Reme Matte Lip Color) เบอร์18 Kahlua เพราะโกดังลิปที่บ้านหมดพอดี สีนี้เป็นสีจำเป็นที่ผู้หญิงทุกคนควรมีติดกระเป๋าเครื่องสำอาง เทรนด์เนื้อแมทก็กำลังมา ไม่สอยแท่งนี้ได้ไง
และพอสอยแล้ว ก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ
เจ้าเรมี่ แมท เบอร์18 Kahlua สีน้ำตาลนู้ด ออกโทนสีชาใส่นม ละมุนทั้งสีและเนื้อลิป แม้เคลมว่าแมทซึ่งต้องด้านและแห้ง แต่พอทาแล้ว เลดี้ฯ ทาเลยนะคะ ไม่ได้ป้ายลิปบาล์มก่อน
แน่นอน ส่องกระจกปั๊บ เนื้อลิปแตกระแหงตามเส้นริมฝีปากที่แห้ง แต่ความรู้สึกจากริมฝีปากที่ส่งตรงถึงเส้นประสาทกลับไม่แห้งผากอ่ะค่ะ ตรงกันข้าม รู้สึกชุ่มชื่น สมกับที่เคลมส่วนประกอบว่า มีน้ำมันผลอาร์แกน, วิตามินอี และสารสกัดจากกรดอะมิโน ที่ได้จากพืชธรรมชาติ ซึ่งโครงสร้างคล้าย Ceramide และ Cholesterol อันเป็นตัวป้องกันผิว
จริงๆ แล้วตอนซื้อ พนักงานขายก็แนะให้ทาลิปบาล์มบางๆ ก่อนถ้าเกรงริมฝีปากแห้ง แต่เลดี้ฯ เรารีวิวสายฮาร์ดคอร์อ่ะ! ทดลองแบบชีวิตจริง ป้ายๆ ปรื้ดๆ เสร็จพอ ในกระจกรถขณะรถติดบ้าง หลังกินข้าวบ้าง เพราะไม่มีเวลาประดิษฐ์ประดอย
ที่สำคัญ ทาเสร็จใช้ปากระห่ำมาก ทั้งกินทั้งกัด สารพัดอาหารแปดเปื้อนริมฝีปาก ปรากฏว่าเรมี่เนื้อแมทกลับอึด ทั้งที่ไม่ได้เคลมว่า long last
จะมาหลุด ก็ตอนจิบน้ำกับปากถ้วยนี่แหล่ะคร่า
สรุป ช่วงนี้เลดี้ฯ เห่อลิปสติกเรมี่เนื้อแมทสีนู้ดแท่งนี้หนักมาก แม้ราคา 490 บาทเทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่ก็คุ้มและถูกใจ ทาทุกวันไม่เบื่อเลย
--> แป้งฝุ่นศรีจันทร์ ทรานส์ลูเซนท์ พาวเดอร์ (Srichand Translucent Powder)
เคลมไว้ว่า แป้งฝุ่นเนื้อละเอียดและบางเบา ด้วยความโปร่งแสงของเนื้อแป้ง ทำให้ใช้ได้กับทุกโทนสีผิว ช่วยเซ็ทรองพื้นให้อยู่ตัว และไม่ทำให้สีรองพื้นเปลี่ยน พร้อมคุณสมบัติโดดเด่นในการควบคุมความมัน อันเป็นเอกลักษณ์ของ ศรีจันทร์ พร้อมพัฟเนื้อดี และฝาหมุนที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะ เหมาะแก่การพกพา
ขนาดบรรจุ 10 กรัม ราคา 280 บาท
ลองใช้ อยากจะบอกว่า แพ็กเกจวินเทจมากค่ะ เป็นผลิตภัณฑ์บิวตี้ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ฝาสีม่วงลายดอกไม้ ตัวกระปุกเป็นสีขาว เมื่อเราเปิดออกมา จะเห็นฝาเป็นเป็นพลาสติก ที่สามารถหมุนได้ สำหรับเปิดปิดป้องกันไม่ให้ตัวแป้งหกเลอะเทอะ มีพัฟสีม่วงแถมมาให้ด้วยค่ะ แต่พัฟมีขนาดเล็กจิ๋วไปหน่อยนะคะ
ส่วนเนื้อสัมผัสดีงามค่ะ เนื้อละเอียด สีค่อนข้างออกไปทางเหลือง แต่เมื่อทาลงบนผิวหน้าแล้วไม่ได้เหลืองอร่ามเป็นขมิ้นหรอกนะคะ คือ ด้วยความเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง Translucent ดังนั้นเวลาเราลงรองพื้น สีรองพื้นจะไม่เพี้ยนค่ะ
ลักษณะเนื้อแป้งออกไปทางผิวแมท ไม่ได้มันวาววิ้งวับ และสิ่งที่ดีงามของแป้งฝุ่นศรีจันทร์คือ คุมมันได้ดีมากค่ะ เหมาะกับสาวผิวผสม และผิวมัน ดีงามกับสาวไทย แต่สำหรับสาวผิวแห้ง อาจจะรู้สึกแห้งช่วงแก้มไปบ้างนะคะ
และหากวันไหน ไม่อยากเมกอัพจัดเต็มแป้งฝุ่นศรีจันทร์ นางก็เอาอยู่นะคะ แค่ทาครีมบำรุง ลงครีมกันแดด จากนั้นใช้แป้งศรีจันทร์ ผลคือ หน้าเนียนใสไม่โบ๊ะ ไม่วอก สามารถเผยหน้าสดออกจากบ้านได้อย่างมั่นใจ
คุณภาพเทียบเท่าพวกแป้งฝุ่นตามเคาน์เตอร์แบรนด์ราคาหลักพันได้เลยนะคะ สำหรับผิวบอบบางใช้แล้วก็ไม่มีอาการแพ้ ราคาถูกแค่ 280 บาท แต่คุณภาพหลักพันเลยล่ะ กระปุกเล็กพกพาง่ายสะดวก นี่ใช้มา 3 เดือนเลยนะคะยังไม่หมดกระปุกเลย และแน่นอนเตรียมเสียทรัพย์ซื้อกระปุกที่สองแน่นอน
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ถ้าเป็นเรื่องเครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ แล้วสาวไทยมักจะทุ่มไม่อั้นจัดเต็มให้กับความงามของตัวเอง และมักที่จะชอบใช้ของนอกจากต่างประเทศกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอเมริกา ยุโรป หรือญี่ปุ่น เกาหลี เพราะมั่นใจของนอกมากกว่าของไทย
แต่รู้ไหมคะว่า ผลิตภัณฑ์ความงามของคนไทยแท้ๆ นั้น คุณภาพ วัตถุดิบ ก็สู้ของนอกเทียบเคาน์เตอร์แบรนด์ได้เลยทีเดียว แถมยังปรับสูตรรู้ลึกรู้จริงเรื่องผิวของคนไทยมากกว่าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศอีกด้วย
เลดี้แมเนเจอร์คัด 3 ผลิตภัณฑ์ไทยแท้มารีวิวให้ดูกันค่ะ ว่าของไทยดีงามเทียบเคาน์เตอร์แบรนด์ ไม่แพ้ต่างชาติแม้แต่นิดเดียว
--> ลามอนสกินแคร์ (La Monde Skincare)
เคลมไว้ว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สาววัย 30+ เน้นการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย ผลักดันผลลัพธ์ของสกินแคร์ถึงขีดสุดด้วยการไม่ต้องใช้กรรมวิธี หรือเครื่องมืออย่างอื่นมาช่วย
ลามอนสกินแคร์เป็นแบรนด์ที่มีเจ้าของเป็นคนไทยค่ะ แต่นำเข้าสูตรและวัตถุดิบในการผลิตจากต่างประเทศที่ถูกต้องตามหลักการและมาตรฐานของ อย.และมาตรฐานสากล นอกจากนี้ยังมีทีมวิจัยและพัฒนาเพื่อคิดค้นสูตรของผลิตภัณฑ์ยกกระชับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และเป็นสูตรของ La Monde Skincare เพื่อต่อสู้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง และเพื่อสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
เลดี้ฯ มีผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ 3 ตัวด้วยกันค่ะ คือ Perfect Eye Serum ซึ่งเป็นตัวบำรุงผิวรอบดวงตา สามารถซึบซาบลึกล้ำสู่ผิว ให้ผิวบริเวณรอบดวงตายกกระชับ ร่องริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด และตัวบำรุงผิวหน้า Perfect Facial Serum สามารถซึมลงสู่ผิวอย่างเต็มที่ ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า ริ้วรอยต่างๆ ให้กลับมามีสุขภาพดี อ่อนเยาว์ กระชับ กระจ่างใส เรียบเนียน เด้งจนสัมผัสได้ทันทีหลังใช้ สามารถใช้ก่อน และหลังแต่งหน้าได้ และตัวสุดท้าย Perfect Facial Emulsion เป็นครีมบำรุงช่วยในเรื่องความกระจ่างใสด้วยสาร Hyaluronic acid เสริมการซ่อมแซมผิว ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรง ดูดซึมกักเก็บความชุ่มชื้นบนใบหน้าให้ตึงกระชับ กระจ่างใส
เอาล่ะค่ะ เราลองมาทดลองผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัวกันดีกว่า ว่าจะเด็ดจริงอย่างที่เคลมไว้หรือไม่
ลองใช้ ตัวแรกเลยที่จะลองใช้นะคะ คือ Perfect Eye Serum ตัวเนื้อครีมเป็นเนื้อเจลค่ะ ทาง่าย ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว หลังใช้มา 3 สัปดาห์ ผิวรอบดวงตาดูดีขึ้น กระชับขึ้นเล็กน้อย เจ้าตีนการ่องลึกยังอยู่ แต่ไม่เกิดรอยใหม่ ส่วนเรื่องรอยคล้ำรอบดวงตา เนื่องจากเป็นคนนอนดึกมากค่ะ จึงไม่ค่อยเห็นผลในเรื่องความกระจ่างใสของรอบดวงตา แต่เรื่องความกระชับจัดว่าดีค่ะ เพราะสำหรับผู้หญิงวัย 30 ขึ้นไปมักจะต้องกลุ้มใจกับตีนกาที่เริ่มโผล่มาทีละเส้นสองเส้นกันแล้วนะคะ ดังนั้นผิวรอบดวงตาจะละเลยไม่ได้เด็ดขาด (ราคา 2,900 บาท ขนาด 15 ml)
Perfect Facial Serum เนื้อเซรั่มมีลักษณะเป็นเนื้อเจลค่ะ จึงทำให้ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เหมาะมากสำหรับคนไทยซึ่งเป็นคนผิวมัน และเหมาะกับทุกสภาพผิว ซึมไวเว่อร์ คือ กดออกมานิดเดียวก็สามารถทาได้ทั่วหน้าแล้ว เพราะไม่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก เและมีการเติม Active Ingredients ที่เข้มข้นกว่าครีม ดังนั้นเซรั่มบำรุงผิวหน้าจึงมีราคาที่แพงกว่าครีม
ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับได้ในเวลาเร่งรีบเลยค่ะ เพราะทาปุ้บหน้าตึงปั้บ ยิ่งหากใช้ก่อนแต่งหน้าจะทำให้เมกอัพติดทนนานมากขึ้น เหมือนเป็นไพรม์เมอร์ไปในตัวได้ หรือหลังแต่งหน้าอยากจะใช้ก็ไม่ทำให้เครื่องสำอางหลุด หรือเป็นคราบ
หลังจากใช้มาประมาณ 3 สัปดาห์ รู้สึกว่าหน้ายกกระชับขึ้น แต่ไม่ได้เห็นผลชัดเจนราวฉีดโบท็อกซ์หรอกนะคะ แต่รู้สึกได้เอง ส่วนริ้วรอยร่องลึกไม่ได้จางลง แต่ริ้วรอยร่องเล็กค่อยๆ ดีขึ้น สำหรับคนหน้าแห้งต้องใช้ควบคู่กับมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพราะซึมเร็วมาก และอาจทำให้หน้าตึงได้ แต่สำหรับคนหน้ามันตอบโจทย์ได้ดีงามมากค่ะ (ราคา 3,450 บาท ขนาด 30 ml)
Perfect Facial Emulsion เป็นเนื้ออิมัลชั่นค่ะ ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าเป็นสีชมพูจางๆ เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย และยังคงความชุ่มชื้นอยู่บนผิวแต่ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ ตอบโจทย์ได้ทุกสภาพผิว ดังนั้นควรใช้ควบคู่กับตัวเซรั่มหลังจากสร้างความยกกระชับตึงแล้ว การใช้ตัวอิมัลชั่นจะทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นอีกเยอะ (ราคา 2,900 บาท ขนาด 30 ml)
ในส่วนของตัวบรรจุภัณฑ์คือ ดีงามค่ะ หัวปั้มกดง่าย และภายนอกดูแข็งแรง ดีไซน์เรียบคลาสสิค
--> เรมี่ แมท ลิป คัลเลอร์ (Reme Matte Lip Color)
ได้ยินชื่อเสียงลิปสติกชื่อเก๋แต่เชื้อชาติไทยสัญชาติไทยล้วนๆ ยี่ห้อนี้ทางโซเชียลมีเดีย ผ่านบิวตี้บลอกเกอร์ที่พากันรีวิวชื่นชม เลดี้ฯ จึงสนใจมาก เพราะประเด็นสำคัญคือ คุณหมอเป็นคนทำ
ชื่อ พญ.ปิยวดี จิตะสมบัติ หรือ คุณหมอแจง หมอผิวหนังที่อยู่ในวงการความงามมากว่า 10 ปี เจ้าของ Sincere Beauty Clinic
ข่าวว่าคุณหมอแจงออกไอเดียทำทุกอย่าง ตั้งแต่คิดสูตร เนื้อผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์สีสัน กระทั่งออกแบบแพกเกจจิ้ง
เสียอย่างเดียว ไม่ได้วางขายทั่วไป ถ้าไม่สั่งซื้อทางออนไลน์ ก็ต้องไปที่ shop ในซอยสุขุมวิท 53 เอง
เลดี้ฯ พุ่งไปเลยค่ะ
ที่แท้ shop ก็คือ ส่วนที่ต่อเติมจาก Sincere Beauty Clinic นั่นเอง เป็น shop เล็กๆ ทว่าดูดีสไตล์ผู้ดีเก่าที่มีความทันสมัย ด้วยกลิ่นอายบ้านคลินิก Sincere ที่อยู่ติดกันแนวเรโทรอารมณ์วินเทจหน่อยๆ แต่เล่นสีเทา ขาว ดำ ให้ความซึ่งรู้สึกโมเดิร์น มีความเป็นแฟชั่น
ธีมนี้ส่งมาถึงแพ็กเกจจิ้ง คุณหมอแกคุมโทนทั้งรูปแบบหีบห่อรูปทรงปลอกลิปสติก ให้ออกมาเรียบง่ายร่วมสมัย บรรจุภัณฑ์ดูดีระดับเคาน์เตอร์แบรนด์
ไม่หลุยส์ขึ้นโมดัดลายให้เชยไปตามกาลเวลา หากเป็นแท่งกลมๆ เรียบๆ เล่นสีเทา ขาว ดำ เท่านั้น สไตล์เก๋ไก๋ร่วมสมัย เรียกว่าควักลิปสติกออกมาเมื่อใด ไม่ป้าแน่นอน แถมคุณภาพปลอกก็ผ่าน หมุนไม่ติด แท่งลิปก็ไม่หลุดเคลื่อน คงสภาพทุกสภาวะ (เลดี้ฯ เคยใช้ของไทยบางยี่ห้อรวมทั้งแบรนด์นอกด้วย หมุนไม่กี่ครั้ง วางหกคะเมนตีลังกาหน่อย แท่งลิปล้มเอียงเหลวซะงั้น)
กลับไปที่ shop ต่อ หลังจากเลดี้ฯ ละลานตากับตัวอย่างลิปสติก หลากเนื้อ หลากรุ่น หลากสี เรมี่เค้ามีให้เลือกกว่า 80 สีแน่ะค่ะ ไม่ธรรมดาเลยนะเนี้ยลิปสติกแบรนด์ไทยยี่ห้อนี้
สีฮิตอย่างแดง ส้ม น้ำตาลก็มีหลายเฉดให้เลือก หรือจะล้ำแฟชั่นจ๋า สีม่วงสีฟ้าก็มี
แต่เราเลือกเนื้อแมทสีเนื้อ เรมี่ แมท ลิป คัลเลอร์ (Reme Matte Lip Color) เบอร์18 Kahlua เพราะโกดังลิปที่บ้านหมดพอดี สีนี้เป็นสีจำเป็นที่ผู้หญิงทุกคนควรมีติดกระเป๋าเครื่องสำอาง เทรนด์เนื้อแมทก็กำลังมา ไม่สอยแท่งนี้ได้ไง
และพอสอยแล้ว ก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ
เจ้าเรมี่ แมท เบอร์18 Kahlua สีน้ำตาลนู้ด ออกโทนสีชาใส่นม ละมุนทั้งสีและเนื้อลิป แม้เคลมว่าแมทซึ่งต้องด้านและแห้ง แต่พอทาแล้ว เลดี้ฯ ทาเลยนะคะ ไม่ได้ป้ายลิปบาล์มก่อน
แน่นอน ส่องกระจกปั๊บ เนื้อลิปแตกระแหงตามเส้นริมฝีปากที่แห้ง แต่ความรู้สึกจากริมฝีปากที่ส่งตรงถึงเส้นประสาทกลับไม่แห้งผากอ่ะค่ะ ตรงกันข้าม รู้สึกชุ่มชื่น สมกับที่เคลมส่วนประกอบว่า มีน้ำมันผลอาร์แกน, วิตามินอี และสารสกัดจากกรดอะมิโน ที่ได้จากพืชธรรมชาติ ซึ่งโครงสร้างคล้าย Ceramide และ Cholesterol อันเป็นตัวป้องกันผิว
จริงๆ แล้วตอนซื้อ พนักงานขายก็แนะให้ทาลิปบาล์มบางๆ ก่อนถ้าเกรงริมฝีปากแห้ง แต่เลดี้ฯ เรารีวิวสายฮาร์ดคอร์อ่ะ! ทดลองแบบชีวิตจริง ป้ายๆ ปรื้ดๆ เสร็จพอ ในกระจกรถขณะรถติดบ้าง หลังกินข้าวบ้าง เพราะไม่มีเวลาประดิษฐ์ประดอย
ที่สำคัญ ทาเสร็จใช้ปากระห่ำมาก ทั้งกินทั้งกัด สารพัดอาหารแปดเปื้อนริมฝีปาก ปรากฏว่าเรมี่เนื้อแมทกลับอึด ทั้งที่ไม่ได้เคลมว่า long last
จะมาหลุด ก็ตอนจิบน้ำกับปากถ้วยนี่แหล่ะคร่า
สรุป ช่วงนี้เลดี้ฯ เห่อลิปสติกเรมี่เนื้อแมทสีนู้ดแท่งนี้หนักมาก แม้ราคา 490 บาทเทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่ก็คุ้มและถูกใจ ทาทุกวันไม่เบื่อเลย
--> แป้งฝุ่นศรีจันทร์ ทรานส์ลูเซนท์ พาวเดอร์ (Srichand Translucent Powder)
เคลมไว้ว่า แป้งฝุ่นเนื้อละเอียดและบางเบา ด้วยความโปร่งแสงของเนื้อแป้ง ทำให้ใช้ได้กับทุกโทนสีผิว ช่วยเซ็ทรองพื้นให้อยู่ตัว และไม่ทำให้สีรองพื้นเปลี่ยน พร้อมคุณสมบัติโดดเด่นในการควบคุมความมัน อันเป็นเอกลักษณ์ของ ศรีจันทร์ พร้อมพัฟเนื้อดี และฝาหมุนที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะ เหมาะแก่การพกพา
ขนาดบรรจุ 10 กรัม ราคา 280 บาท
ลองใช้ อยากจะบอกว่า แพ็กเกจวินเทจมากค่ะ เป็นผลิตภัณฑ์บิวตี้ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ฝาสีม่วงลายดอกไม้ ตัวกระปุกเป็นสีขาว เมื่อเราเปิดออกมา จะเห็นฝาเป็นเป็นพลาสติก ที่สามารถหมุนได้ สำหรับเปิดปิดป้องกันไม่ให้ตัวแป้งหกเลอะเทอะ มีพัฟสีม่วงแถมมาให้ด้วยค่ะ แต่พัฟมีขนาดเล็กจิ๋วไปหน่อยนะคะ
ส่วนเนื้อสัมผัสดีงามค่ะ เนื้อละเอียด สีค่อนข้างออกไปทางเหลือง แต่เมื่อทาลงบนผิวหน้าแล้วไม่ได้เหลืองอร่ามเป็นขมิ้นหรอกนะคะ คือ ด้วยความเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง Translucent ดังนั้นเวลาเราลงรองพื้น สีรองพื้นจะไม่เพี้ยนค่ะ
ลักษณะเนื้อแป้งออกไปทางผิวแมท ไม่ได้มันวาววิ้งวับ และสิ่งที่ดีงามของแป้งฝุ่นศรีจันทร์คือ คุมมันได้ดีมากค่ะ เหมาะกับสาวผิวผสม และผิวมัน ดีงามกับสาวไทย แต่สำหรับสาวผิวแห้ง อาจจะรู้สึกแห้งช่วงแก้มไปบ้างนะคะ
และหากวันไหน ไม่อยากเมกอัพจัดเต็มแป้งฝุ่นศรีจันทร์ นางก็เอาอยู่นะคะ แค่ทาครีมบำรุง ลงครีมกันแดด จากนั้นใช้แป้งศรีจันทร์ ผลคือ หน้าเนียนใสไม่โบ๊ะ ไม่วอก สามารถเผยหน้าสดออกจากบ้านได้อย่างมั่นใจ
คุณภาพเทียบเท่าพวกแป้งฝุ่นตามเคาน์เตอร์แบรนด์ราคาหลักพันได้เลยนะคะ สำหรับผิวบอบบางใช้แล้วก็ไม่มีอาการแพ้ ราคาถูกแค่ 280 บาท แต่คุณภาพหลักพันเลยล่ะ กระปุกเล็กพกพาง่ายสะดวก นี่ใช้มา 3 เดือนเลยนะคะยังไม่หมดกระปุกเลย และแน่นอนเตรียมเสียทรัพย์ซื้อกระปุกที่สองแน่นอน
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net