เนียนหนักมาก! เปิดกรุรีวิวรองพื้นหน้าเนียนใสไม่พึ่งแอป

*หมายเหตุ* " คนรีวิวมีผิวหน้าแห้ง - ผิวผสมช่วง T-Zone และเป็นคนเหงื่อออกเยอะมาก "

Clinique

เอาล่ะ เรามาเริ่มกันที่แบรนด์ในดวงใจสาวๆ อย่าง Clinique ในรุ่น Beyond Perfecting Foundation + Concealer SPF 19/PA++ ราคา 1,400 บาท โดยเป็นผลิตภัณฑ์สูตรลิควิดที่มาแบบ 2-อิน-1 คือเป็นทั้งรองพื้นและคอนซีลเลอร์จะใช้ทาทั่วใบหน้าเป็นรองพื้นก็ได้ หรือจะใช้แต้มเฉพาะที่เป็นคอลซีลเลอร์สามารถปกปิดจุดต่างๆ ได้ตามต้องการ พร้อมเผยผิวเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ

สีที่รีวิวคือสี Cream Beige โดยเลือกใช้เป็นรองพื้นทาทั่วทั้งใบหน้า เนื้อผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่าย ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ให้การปกปิดปานกลาง และหลังจากทดลองออกไปเผชิญแดดแล้วพบว่ามีการเกิดคราบเพียงเล็กน้อยบริเวณที่เหงื่อออกมาก นอกเหนือจากนั้นหน้ายังคงสวยเป๊ะอยู่ตลอด ถือว่าเป็นรองพื้นอีกตัวที่เริ่ดเลยทีเดียว...

Laura Mercier

ถัดมาที่ชิ้นที่สองเป็นรองพื้นจาก Laura Mercier กับรองพื้นรุ่นใหม่อย่าง Silk Creme Moisturizing Photo Edition Foundation ราคา 1,950 บาท โดยเป็นสูตรที่เหมาะกับสาวๆ ผิวธรรมดา - ผิวแห้ง โดดเด่นด้วยเม็ดสีที่เข้มข้น สามารถให้การปกปิดแบบ Full Coverage อย่างเต็มประสิทธิภาพเรียบเนียนอย่างไร้ที่ติ มาพร้อมเทคโนโลยี Photo Ready Finish ให้สาวๆ เซลฟี่หรือพร้อมสู้แฟลชได้อย่างเต็มที่ทุกองศาหน้าเป๊ะ แบบไม่ต้องพึ่งแอปเลยทีเดียว

โดยสีที่เลือกมารีวิวคือสี Beige Ivory โดยหลังจากที่ทำการรองพื้นด้วยลอร่าท่ามกลางแสงแดดจ้าแล้วนั้น ผลลัพธ์ที่ได้ต้องบอกว่าน่าพึงพอใจมากๆ เลยทีเดียวค่ะ! เพราะเนื้อผลิตภัณฑ์ของเค้าเกลี่ยง่ายมากและหลังจากที่ทำการเกลี่ยให้เนียนเรียบทั้งใบหน้าแล้วนั้น เนื้อผลิตภัณฑ์ยังสามารถยึดเกาะตัวกันได้ดี ไม่แตก ไม่แห้ง และที่น่าปลื้มยิ่งกว่าคือไม่เป็นคราบเหงื่อเลยสักนิด! ต้องบอกเลยว่านี่แหละ รองพื้นในดวงใจของสาวไทย!

Lancôme

ต่อด้วยแบรนด์ที่สามเป็นรองพื้นจาก Lancôme ในรุ่น Teint Miracle Base Skin Foundation Natural Light Creator SPF 15 ราคา 1,700 บาท ตัวช่วยในการเพิ่มมิติและออร่าให้กับผิวด้วยเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Universal Light สูตรฟลูอิดที่พัฒนาขึ้นเพื่อสาวเอเชียโดยเฉพาะ มาพร้อม Aura-Inside เพื่อเพิ่มความกระจ่างใสไว้ในหนึ่งเดียว

สีที่รีวิวคือสี BO-2 วอร์มเนื้อผลิตภัณฑ์แล้วใช้นิ้วเกลี่ยจะให้ความรู้สึกว่าเนียนกว่าเพราะซึมซาบเร็ว ควรทาแล้วเกลี่ยทันทีในแต่ละจุด แต่สิ่งที่กรี๊ดมากคือเมื่อทาเสร็จแล้วทิ้งไว้สักระยะหลังจากลงแป้งแล้ว ใบหน้าดูกระจ่างใสขึ้นจริง เหมือนเพิ่มออร่าให้ผิวหน้าดูเปล่งประกายตามคำบอกจากแบรนด์ อาจจะต้องมีซับหน้าบ้างเพราะเหงื่อออกแล้วทำให้เกิดคราบเล็กน้อยบริเวณจมูก แต่โดยรวมแล้วให้ผลลัพธ์เรื่องความกระจ่างใสได้ตามที่คาดหวังไว้เลย!

Illamasqua

ถัดมาที่แบรนด์ที่ 4 กับ Illamasqua ในรุ่น Skin Base Foundation Fond de Teint ราคา 1,600 บาท รองพื้นเนื้อบางเบาที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ให้การปกปิดแบบ Medium-Full Coverage สามารถใช้เพียงเล็กน้อยเป็น Tinted Moisturizer หรือใช้เป็นคอนซีลเลอร์ปกปิดในบริเวณที่เราต้องการได้ด้วยค่ะ

สีที่รีวิวคือ Shade 6.5 จะพอดีกับสาวผิวขาวเหลือง โดยเนื้อผลิตภัณฑ์นั้นค่อนข้างหนืดสามารถใช้กับฟองน้ำได้ จะให้ผลลัพธ์ที่ดูนวลเนียนมากกว่าใช้นิ้วมือ ให้การปกปิดได้ดีในระดับสูงตามที่แบรนด์ระบุไว้เลยค่ะ ไม่เป็นคราบ ไม่มัน ทดลองออกแดดแล้วหน้ายังคง อยู่ทน อยู่นาน ไม่เยิ้ม ไม่ไหล หน้าแน่นมาก! ถือว่าเป็นรองพื้นที่สาวไทยน่าจะชื่นชอบอีกชิ้นเลยค่ะ

Shu Uemura

แบรนด์ที่ 5 จากญี่ปุ่นกับ Shu Uemura ในรุ่น skin:FIT Cosmetic Water Foundation SPF30/PA+++ ราคา 1,900 บาท รองพื้นสูตรควบคุมความมันที่ปราศจากน้ำมัน อีกทั้งยังให้การติดทนนานถึง 12 ชั่วโมง! เนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างเหลว ให้ลุคกึ่งแมตต์ เอาใจสาวหน้ามันโดยเฉพาะเลยทีเดียว

สำหรับสีที่รีวิวคือสี 754 Medium Beige ใช้ควบคู่กับฟองน้ำที่มาในแพกเกจ รู้สึกได้ถึงความบางเบาไม่หนักหน้าเหมือนเป็น Second Skin ให้การปกปิดน้อยถึงปานกลาง แต่หากสาวๆ คนไหนที่ชอบงานเผยผิวล่ะก็ รองพื้นตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ ทดลองใช้เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงแดดและอากาศร้อน โอ้ คุณพระ! ไม่เกิดคราบเลยแม้แต่น้อย! ดังนั้นสาวๆ หน้ามันแถมเหงื่อออกมาก น่าจะตกหลุมรักรองพื้นตัวนี้กันอย่างแน่นอน

Urban Decay

มาถึงรองพื้นชิ้นสุดท้ายจากแบรนด์ Urban Decay กับรุ่น Naked Skin Weightless Ultra Definition Liquid Makeup ราคา 1,600 บาท ครีมรองพื้นเนื้อกึ่งแมตต์ปราศจากน้ำมัน ที่ให้การปกปิดได้ดีเยี่ยม ไม่หมองคล้ำระหว่างวัน สามารถทาทับได้หลายชั้นตามความต้องการของสาวๆ หรือสามารถเลือกใช้เป็นคอนซีลเลอร์เฉพาะที่ได้ด้วยค่ะ

สีที่รีวิวคือสี 4.0 เมื่อทาในครั้งแรกสามารถรู้สึกถึงการปกปิดได้อย่างดี เนื้อผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่ายไม่เป็นก้อน เรียบเนียนกลืนไปกับผิวจริงๆ ให้ลุคกึ่งแมตต์ที่ยังคงดูโกลว์เล็กน้อย โดยใช้กับฟองน้ำเนื้อแน่นจะให้ผลลัพธ์ความเรียบเนียนตามที่หวัง ถ้าใช้ครั้งเดียวจะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่หากทาซ้ำจะได้ลุคที่ดูเนียนแน่นมากกว่า เหมาะสำหรับออกงานกลางคืน รวมถึงยังไม่เกิดคราบเมื่อมีเหงื่อออกอีกด้วยค่ะ

และต่อไปนี้คือรูปเปรียบเทียบให้ดูกับทั้ง 6 แบรนด์ โดยลงรองพื้นทับอายไลเนอร์สีดำเพื่อจะได้เห็นอย่างชัดเจนนะคะ




เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาวๆ สำหรับการรีวิวผลิตภัณฑ์รองพื้นทั้ง 6 แบรนด์ แต่ละแบรนด์ที่ยกมารีวิวนั้นเริ่ดๆ ทั้งนั้น แถมยังสามารถมอบผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจได้ดีทุกแบรนด์เลยค่ะ แต่ขอกระซิบนิดนึงว่า สาวๆ ควรอ่านประกอบเป็นความรู้ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าจะให้ดีจดลิสต์ที่น่าสนใจแล้วไปทดลองเล่นที่เคาน์เตอร์แบรนด์นั้นๆ เลยกันดีกว่านะจ๊ะ โดยสาวๆ สามารถหาแบรนด์ต่างๆ เหล่านี้ได้ที่ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปค่า :: Text by FLASH