>>ช่วงนี้หลายคนคงแปลกใจเมื่อในหน้าฟีดเฟสบุ๊กมีแต่คนแชร์ตัวอย่างภาพยนตร์ The Danish Girl จนกลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย ถึงเรื่องเนื้อหาความดราม่าที่น่าติดตาม ซึ่งนั่นเราคงไม่มานั่งถกกันให้มากความ หากแต่สิ่งที่สะดุดตาและน่าจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าแฟชั่นเนเบิลทั้งหลายต้องไม่พลาด นั่นคือคอสตูมเสื้อผ้าที่ใช้ประกอบในเรื่อง มันช่างสวยสง่าเลอค่่าในแบบฉบับยุคแห่งความอู้ฟู่ซะเหลือเกิน
ต้องเท้าความกันไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งนำเค้าโครงเรื่องจริงมาจาก ไอนาร์ เวเกเนอร์ ชายหนุ่มผู้ซึ่งต้องลุกขึ้นมาแต่งหญิงเพื่อให้ภรรยาศิลปินของเขาวาดรูปเนื่องจากนางแบบได้ผิดนัดเขา หากแต่เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้นเมื่อไอนาร์มีความรู้สึกรักในการแต่งหญิง และจากนั้นเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปจนเรียกได้ว่าเป็นสตรีข้ามเพศของโลก ซึ่งผู้กำกับชื่อดัง ทอม ฮูเปอร์ ได้หยิบเรื่องราวความรักอันสับสนนี้มาทำเป็นภาพยนตร์ที่ซึ่งทุกคนกำลังจับตา
อย่างที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นว่าเรื่องราวความรัก ความสับสนนั้นขอให้ไปติดตามกันในภาพยนตร์ หากแต่สิ่งที่เราแทบคลาดสายตาไปไม่ได้นั่นคือเสื้อผ้าต่างๆ ที่แค่เห็นในตัวอย่างบวกกับภาพที่ปล่อยออกมาแค่นั้นก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ต้องไม่แพ้ The Great Gastby แน่ๆ แต่ถ้าจะสู้ในเรื่องความหรูหราแบบฟุ่มเฟือยคงไปไม่ถึง หากแต่จะสู้ด้วยความเสมือนจริงไม่ว่าจะเป็นชุดในชีวิตประจำวันของสตรียุคนั้น หรือเป็นชุดแบบงานสังคม อันนี้มีสิทธิ์ที่จะต่อกร และที่สำคัญชุดที่นางเอก เอ๊ะหรือจะพระเอก ซึ่งรับบทโดยนักแสดงมากฝีมืออย่าง เอ็ดดี้ เรดเมย์ ใส่ตอนเป็นผู้หญิงนั้น ก็ทำให้เราได้เห็นแล้วว่าขนาดผู้ชายใส่ยังสวยขนาดนั้น โดยเสื้อผ้าที่เราจะได้เห็นในภาพยนตร์นั้นเป็นช่วงของยุค 20’s หรือ Art Deco ซึ่งจุดเด่นของยุคนี้จะเป็นชุดเดรสต่อสะโพก ซึ่งมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน และเนื่องจากเป็นยุคบุกเบิกอุตสาหกรรม ความหรูหราจึงมีให้เห็นจนเกลื่อนตา จึงไม่แปลกถ้าจะเห็นเสื้อผ้าระยิบเครื่องประดับระยับ เมื่อดูจากกระแสที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโซเชียลมีเดียทั้งไทยและต่างประเทศในตอนนี้ เชื่อได้ว่ารางวัลออสการ์ปีหน้า คงต้องตกอยู่ในมือหนุ่ม เอดดี้ เรดเมย์ อีกครั้งเป็นแน่ :: Text by FLASH
