xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง น้ำส้มสายชู ช่วยคุมกำเนิด?!/Dr.DEN Sexociety

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN

เมื่อเรานึกถึงยุคโบราณ เราก็มักเห็นภาพของมนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่ใช้ชีวิตอย่างอันตราย โดยไม่คำนึงถึงหรือควบคุมร่างกายและสถานการณ์ส่วนบุคคลของพวกเขา เรื่องนี้คงไม่ไกลจากความเป็นจริง บรรพบุรุษของเรา ควบคุมชีวิต ของพวกเขาโดยใช้เครื่องมือที่พอหาได้ใกล้ตัวในเวลานั้น ซึ่งก็รวมถึงการใช้เวทมนต์ สัญลักษณ์ สมุนไพรและอวัยวะสัตว์

เมื่อมาถึงเรื่องการคุมกำเนิด บรรพบุรุษของเราก็มีความสร้างสรรค์อยู่เหมือนกัน จากปลอกอวัยวะเพศจนถึงยาเม็ดคุมกำเนิด บรรพบุรุษของเราลองผิดลองถูกอยู่ในความมืดมนกันมาแล้วทั้งนั้น

1. น้ำลายวิเศษกับแสงจันทร์

ในกรีนแลนด์ ครั้งหนึ่งชาวพื้นเมืองเคยเชื่อว่าดวงจันทร์ทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการตั้งท้องโดยดวงจันทร์ พวกผู้หญิงของกรีนแลนด์ก็จะหลีกเลี่ยงการมองพระจันทร์เต็มดวง

และก่อนเข้านอนตอนกลางคืน พวกเขาจะถุยน้ำลายใส่ฝ่ามือแล้วนำไปลูบที่ท้อง เพื่อที่ดวงจันทร์จะไม่ทำให้พวกเธอตั้งท้องอย่างลับๆ ขณะพวกเธอหลับ

นอกจากนี้ยังเป็นประเพณีสำหรับผู้หญิงที่จะต้องนอนคว่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งท้องโดยดวงจันทร์

ถ้าเผอิญว่าผู้หญิงคนหนึ่งตัดสินใจว่าเธอพร้อมที่จะมีบุตร เธอก็จะนอนเปลือยกายอยู่ใต้แสงจันทร์วันเพ็ญเพื่อให้ท้องของเธอเติบโตขึ้นด้วยแสงจันทร์ โดยเชื่อว่าแสงจันทร์จะทำให้เธอตั้งครรภ์

2. วางยาพิษด้วยปรอท

ประชาชนที่มีอารยธรรมสูงของจีนโบราณมีวิธีคุมกำเนิดของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร หนึ่งในวิธีที่น่ากลัวที่สุดสำหรับการป้องกันการตั้งครรภ์นั้นเกี่ยวข้องกับส่วนผสมของน้ำมันและปรอท ผู้หญิงจะต้องดื่มส่วนผสมนี้ขณะท้องว่างเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์อันไม่พึงปรารถนา

ปรอทมีพิษต่อร่างกาย เมื่อกินเข้าไปบ่อยๆ ปรอทก็สามารถเป็นสาเหตุในการเปลี่ยนแปลงไขกระดูกและสามารถนำไปสู่การเป็นหมันได้ในที่สุด และนั่นอาจเป็นเหตุที่ว่าทำไมคนจีนโบราณจึงพิจารณาว่ามันเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ

3. หล่อลื่นด้วยน้ำมันมะกอก

ในประเทศกรีซยุคโบราณ น้ำมันมะกอกผสมกับน้ำมันสนซีดาร์ถูกใช้เป็นยากำจัดอสุจิ อริสโตเติลเขียนอธิบายเกี่ยวกับวิธีนี้ แต่เขาเพิ่ม“ครีมตะกั่ว”ลงไปในส่วนผสมดังกล่าวด้วย

พวกผู้หญิงในยุคนั้นค้นพบว่าน้ำมันมะกอกสามารถลดความคล่องแคล่วของตัวอสุจิ ทำให้ผู้หญิงมีเวลาชะล้างน้ำอสุจิของสามีหลังมีเซ็กซ์

ในขณะที่คนเรายังใช้แค่น้ำมันมะกอกอย่างเดียวต่อไปในระหว่างการมีเซ็กซ์ เพื่อเป็นสารหล่อลื่นนั้น แต่ด้วยเหตุที่เห็นได้ชัดว่าน้ำมันมะกอกไม่สามารถใช้ร่วมกับถุงยางอนามัยได้ เพราะมันเป็นน้ำมันอย่างหนึ่ง และน้ำมันจะทำให้ถุงยางฉีกขาด อย่างที่เรียกว่าปลอกแตกนั่นแหละ

ดังนั้นน้ำมันมะกอกจึงไม่ใช่เครื่องมือคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพอีกต่อไป

4. ปากมดลูกเคลือบน้ำผึ้ง

ลองจินตนาการว่าคุณเคลือบปากมดลูกของคุณด้วยน้ำผึ้งก่อนการมีเซ็กซ์ดูก็แล้วกัน ในอียิปต์โบราณ ปากมดลูกเคลือบน้ำผึ้งเป็นการคุมกำเนิดที่สมบูรณ์แบบ ในขณะที่น้ำผึ้งไม่ได้ฆ่าตัวอสุจิ แต่มันจะเป็นสิ่งกีดขวางปากมดลูกเพื่อป้องกันมิให้ตัวอสุจิเข้าไป ผู้หญิงอียิปต์โบราณจะเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เข้าไปกับน้ำผึ้งเพื่อป้องกันมิให้พวกเธอตั้งครรภ์ เช่น น้ำผึ้งผสมกับเกลือและอึจระเข้

การใช้น้ำผึ้งคุมกำเนิดในสมัยใหม่เรียกว่าหมวกน้ำผึ้ง (HONEY CAP) มันเป็นแผ่นไดอะแฟรมที่เคลือบและเก็บในน้ำผึ้ง สำหรับคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงฮอร์โมนประดิษฐ์และสารเคมี

วิธีนี้จะช่วยให้ผู้หญิงสอดไดอะแฟรมดังกล่าวเข้าไปปิดปากมดลูกก่อนการมีเซ็กซ์ และมันสามารถอยู่ในร่างกายได้ถึง 48 ชั่วโมง การคุมกำเนิดวิธีนี้มีประสิทธิภาพไม่ถึง 100% แต่มันสามารถมิให้ตัวอสุจิเข้าไปในปากมดลูกได้ จึงเป็นการลดโอกาสในการตั้งครรภ์

5. น้ำส้มสายชู

ในคัมภีร์ทัลมุดของฮิบรูอธิบายวิธีจุ่มฟองน้ำธรรมชาติลงในน้ำส้มสายชู และสอดมันเข้าไปในช่องคลอดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์

การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์สามประการเท่านั้น คือ เพื่อป้องกันมิให้หญิงสาวที่ยังมีอายุน้อยเกินไปต้องตั้งท้อง ประการที่สองก็คือ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ซ้อนในระหว่างการตั้งท้อง และประการที่สาม เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ขณะผู้เป็นแม่กำลังอยู่ในระยะให้นมบุตร

ยังคงมีความเชื่อหลายอย่างเกี่ยวกับน้ำส้มสายชูกับการคุมกำเนิดในปัจจุบัน แนวความคิดยอดนิยมอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าผู้หญิงชะล้างช่องคลอดด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำหลังมีเซ็กซ์ น้ำส้มสายชูจะฆ่าตัวอสุจิและป้องกันการตั้งครรภ์ได้

ข้อเท็จจริงก็คือ ผู้หญิงจะต้องชะล้างภายในไม่กี่วินาทีหลังมีเซ็กซ์ และกรรมวิธีการชะล้างอาจช่วยให้ตัวอสุจิเข้าสู่ปากมดลูดได้เร็วขึ้นด้วยซ้ำ

* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
 
กำลังโหลดความคิดเห็น