PneuLIFT - No Needle Filler Lift
>>สำหรับสาวๆ คนไหนที่ต้องการจะยกกระชับผิวแต่ยังไม่มั่นใจ วันนี้ Celeb Online มีวิธียกกระชับปรับผิวใหม่แบบไร้เข็ม นวัตกรรมใหม่จาก อิสราเอล มาฝากกัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลสมิติเวช
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า ผิวหนังของคนเราประกอบด้วยชั้นสำคัญ 3 ชั้นด้วยกัน คือผิวชั้นนอก (Epidermis) หรืออาจเรียกว่าชั้น หนังกำพร้า สองคือผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) และสามคือ ชั้นไขมัน (Subcutaneous fat) การที่ผิวจะสวยใสแลดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้ต้องอาศัยความแข็งแรงสมบูรณ์ของทั้งสามชั้น โดยชั้นโครงสร้างซึ่งเป็นชั้นล่างสุดนั้น มีส่วนสำคัญมากต่อความตึงกระชับของผิว หากชั้นโครงสร้างไม่แข็งแรงผิวก็จะหย่อนคล้อย โดยเฉพาะตามแนวแก้ม ร่องข้างจมูกขากรรไกร และใต้ตา
ที่ผ่านมามีการรักษาหลายวิธีทางด้านศัลยกรรมพลาสติกจะอาศัยการผ่าตัดเปิดชั้นผิวหนังเพื่อดึงและเย็บเนื้อเยื่อผังผืดบริเวณใต้ชั้นไขมันของผิวหนัง (SMAS) ซึ่งมีความเหนียวและหนา ให้ตึงขึ้น ใบหน้าก็จะแลดูกระชับขึ้น ต่อมาได้มีเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวโดยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง ที่ส่งผ่านความร้อนได้ลึกถึงชั้น SMASอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่แพร่หลายกันก็คือ การฉีดสารฟิลเลอร์ลงไปใต้ผิว สารฟิลเลอร์ที่นิยมใช้กัน คือ กรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำให้ผิวและเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในผิวหนัง แต่ลดลงตามอายุ การฉีดฟิลเลอร์เติมกลับเข้าไป จึงช่วยยกกระชับโครงสร้างผิว และในขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้ผิวแลดูชุ่มชื้น สุขภาพดีขึ้นได้
ด้วยนวัตกรรมยกกระชับโดยไม่ใช้เข็มจาก อิสราเอล No-needle facelift นวัตกรรมใหม่จาก ประเทศอิสราเอลในการยกกระชับหน้าด้วยการใช้พลังงานลม นำพาโมเลกุลฟิลเลอร์เข้าไปลึกถึงชั้นโครงสร้างผิว โดยโมเลกุลฟิลเลอร์ขนาดเล็ก (ราว 200 ไมครอน หรือเส้นผม 2 เส้น) จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ชั้นโครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น และยังดูดจับโมเลกุลน้ำ สร้างความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน ผิวจึงดูกระชับ หนาอวบอิ่ม แลดูสุขภาพผิวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากความร้อน และไม่กระตุ้นการเกิดฝ้า
อนุภาคของตัวยาจะกระจายตัวออก ช่วยยืดเส้นใย ไฟโบรบลาสต์ และกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน ในระยะยาว Micro Trauma ที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นกลไกการรักษาตนเองตามธรรมชาติของร่างกายทำให้มีการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง
ตัวยาจะทำหน้าที่เสมือน “กระสุนระดับนาโน” นับพันลูกกระจายตัวออก ด้านข้างทำให้เกิด Trauma ขนาดเล็กในระดับไมครอน
Fibroblasts Produce Collagen in Response to Mechanical Stimulation
การเกิด Micro Trauma ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นใย Fibroblast โครงสร้างผิวจึงถูกปรับสภาพให้มีความแข็งแรงขึ้น
ประโยชน์ในการรักษาปัญหาผิวอื่นๆ นอกจากจะช่วยยกกระชับหน้า ปรับรูปหน้าให้เป็น V-Shape ยกคิ้ว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวแล้ว การฉีดฟิลเลอร์โดยไม่ใช้เข็มนี้ยังสามารถรักษารอยแผลเป็นหลุมสิว รอยแตกลายตามตัว หรือแผลเป็นนูนได้อีกด้วย
หลังการรักษา การยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรมใหม่นี้ ใช้เวลาในการรักษาเพียง 30-45 นาทีหลังการรักษาอาจมีตุ่มนูนเล็กๆ คล้ายยุงกัดตามบริเวณไรผมหรือใบหน้า โดยส่วนใหญ่ตุ่มเหล่านี้จะหายไปในเวลา 1-2 วัน ผลการรักษาจะค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้เวลา 2-3 เดือนจะเห็นผลสูงสุด ผลการรักษาจะคงอยู่ 6-12 เดือน นานมากน้อย ขึ้นกับแต่ละบุคคล
นอกจากการยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรมใหม่แล้ว การดูแลรักษาจากภายในก็เป็นสิ่งสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานที่จะช่วยให้ผิวสวยและการสร้างของคอลลาเจนเป็นไปด้วยดี คือการที่มีสุขภาพดีจากภายใน รับประทานอาหารที่มีสารต้าน อนุมูลอิสระสูง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ฝึกสมาธิ และหมั่นคิดดีทำดีเพื่อให้จิตใจผ่องใส เพียงเท่านี้ คุณก็จะสวยสมบูรณ์แบบได้ทั้งจากภายในและภายนอก
หากต้องการปรึกษาแบบเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้โทรศัพท์ไปที่ คลินิกผิวหนัง โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
สุขุมวิท วิง (อาคาร 2) ชั้น 5 ทุกวัน โทร 0-2711-8513 หรือ 2711-8534
>>สำหรับสาวๆ คนไหนที่ต้องการจะยกกระชับผิวแต่ยังไม่มั่นใจ วันนี้ Celeb Online มีวิธียกกระชับปรับผิวใหม่แบบไร้เข็ม นวัตกรรมใหม่จาก อิสราเอล มาฝากกัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลสมิติเวช
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า ผิวหนังของคนเราประกอบด้วยชั้นสำคัญ 3 ชั้นด้วยกัน คือผิวชั้นนอก (Epidermis) หรืออาจเรียกว่าชั้น หนังกำพร้า สองคือผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) และสามคือ ชั้นไขมัน (Subcutaneous fat) การที่ผิวจะสวยใสแลดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้ต้องอาศัยความแข็งแรงสมบูรณ์ของทั้งสามชั้น โดยชั้นโครงสร้างซึ่งเป็นชั้นล่างสุดนั้น มีส่วนสำคัญมากต่อความตึงกระชับของผิว หากชั้นโครงสร้างไม่แข็งแรงผิวก็จะหย่อนคล้อย โดยเฉพาะตามแนวแก้ม ร่องข้างจมูกขากรรไกร และใต้ตา
ที่ผ่านมามีการรักษาหลายวิธีทางด้านศัลยกรรมพลาสติกจะอาศัยการผ่าตัดเปิดชั้นผิวหนังเพื่อดึงและเย็บเนื้อเยื่อผังผืดบริเวณใต้ชั้นไขมันของผิวหนัง (SMAS) ซึ่งมีความเหนียวและหนา ให้ตึงขึ้น ใบหน้าก็จะแลดูกระชับขึ้น ต่อมาได้มีเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวโดยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง ที่ส่งผ่านความร้อนได้ลึกถึงชั้น SMASอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่แพร่หลายกันก็คือ การฉีดสารฟิลเลอร์ลงไปใต้ผิว สารฟิลเลอร์ที่นิยมใช้กัน คือ กรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำให้ผิวและเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในผิวหนัง แต่ลดลงตามอายุ การฉีดฟิลเลอร์เติมกลับเข้าไป จึงช่วยยกกระชับโครงสร้างผิว และในขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้ผิวแลดูชุ่มชื้น สุขภาพดีขึ้นได้
ด้วยนวัตกรรมยกกระชับโดยไม่ใช้เข็มจาก อิสราเอล No-needle facelift นวัตกรรมใหม่จาก ประเทศอิสราเอลในการยกกระชับหน้าด้วยการใช้พลังงานลม นำพาโมเลกุลฟิลเลอร์เข้าไปลึกถึงชั้นโครงสร้างผิว โดยโมเลกุลฟิลเลอร์ขนาดเล็ก (ราว 200 ไมครอน หรือเส้นผม 2 เส้น) จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ชั้นโครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น และยังดูดจับโมเลกุลน้ำ สร้างความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน ผิวจึงดูกระชับ หนาอวบอิ่ม แลดูสุขภาพผิวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากความร้อน และไม่กระตุ้นการเกิดฝ้า
อนุภาคของตัวยาจะกระจายตัวออก ช่วยยืดเส้นใย ไฟโบรบลาสต์ และกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน ในระยะยาว Micro Trauma ที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นกลไกการรักษาตนเองตามธรรมชาติของร่างกายทำให้มีการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง
ตัวยาจะทำหน้าที่เสมือน “กระสุนระดับนาโน” นับพันลูกกระจายตัวออก ด้านข้างทำให้เกิด Trauma ขนาดเล็กในระดับไมครอน
Fibroblasts Produce Collagen in Response to Mechanical Stimulation
การเกิด Micro Trauma ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นใย Fibroblast โครงสร้างผิวจึงถูกปรับสภาพให้มีความแข็งแรงขึ้น
ประโยชน์ในการรักษาปัญหาผิวอื่นๆ นอกจากจะช่วยยกกระชับหน้า ปรับรูปหน้าให้เป็น V-Shape ยกคิ้ว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวแล้ว การฉีดฟิลเลอร์โดยไม่ใช้เข็มนี้ยังสามารถรักษารอยแผลเป็นหลุมสิว รอยแตกลายตามตัว หรือแผลเป็นนูนได้อีกด้วย
หลังการรักษา การยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรมใหม่นี้ ใช้เวลาในการรักษาเพียง 30-45 นาทีหลังการรักษาอาจมีตุ่มนูนเล็กๆ คล้ายยุงกัดตามบริเวณไรผมหรือใบหน้า โดยส่วนใหญ่ตุ่มเหล่านี้จะหายไปในเวลา 1-2 วัน ผลการรักษาจะค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้เวลา 2-3 เดือนจะเห็นผลสูงสุด ผลการรักษาจะคงอยู่ 6-12 เดือน นานมากน้อย ขึ้นกับแต่ละบุคคล
นอกจากการยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรมใหม่แล้ว การดูแลรักษาจากภายในก็เป็นสิ่งสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานที่จะช่วยให้ผิวสวยและการสร้างของคอลลาเจนเป็นไปด้วยดี คือการที่มีสุขภาพดีจากภายใน รับประทานอาหารที่มีสารต้าน อนุมูลอิสระสูง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ฝึกสมาธิ และหมั่นคิดดีทำดีเพื่อให้จิตใจผ่องใส เพียงเท่านี้ คุณก็จะสวยสมบูรณ์แบบได้ทั้งจากภายในและภายนอก
หากต้องการปรึกษาแบบเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้โทรศัพท์ไปที่ คลินิกผิวหนัง โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
สุขุมวิท วิง (อาคาร 2) ชั้น 5 ทุกวัน โทร 0-2711-8513 หรือ 2711-8534
