>>เคยไหม?...เวลาขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าที่คนแน่นๆ แล้วยังจะต้องมาทนกลิ่นเต่าคนข้างๆ สุดแสนจะทรมานเลยใช่ไหมละ แล้วแนวโน้มของคนที่มีกลิ่นตัวแรงแบบนั้นส่วนใหญ่จะจบด้วยการอยู่ตัวคนเดียว ผู้คนเดินออกห่างเหมือนเป็นตัวประหลาด สังคมเกิดอาการรังเกียจพยายามหาทางหลีกเลี่ยง และสุดท้ายคนผู้นั้นก็จะอับอายและเสียความมั่นใจไปในที่สุด แล้วเคยคิดไหมว่า....ตัวเราเองก็อาจเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น! ที่มีกลิ่นตัวแรง!
วันนี้ Celeb Online มีวิธีการที่จะช่วยลดกลิ่นตัวง่ายๆ ที่บางข้อนั้นอาจเป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนลืมไปเนื่องจากยุคสมัยที่เร่งรีบในปัจจุบัน:: Text by FLASH
พญ.ลักษณ์สุภา ประภาวัต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและสุขภาพ อดีตอุปนายกสมาคมนักเคมีเครื่องสำอางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “แท้จริงแล้ว เหงื่อไม่ใช่สาเหตุของกลิ่นตัว แต่ต้นเหตุอยู่ที่แบคทีเรียต่างหาก ที่เป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ นั่นเป็นเพราะเหงื่อ ประกอบไปด้วย น้ำ แร่ธาตุ และโปรตีนไขมัน ในร่างกายมนุษย์ ขณะที่แบคทีเรียบริโภคโปรตีนเป็นอาหาร เหงื่อจึงเป็นอาหารอย่างดีของแบคทีเรีย ต่อให้เราอยู่แต่ในห้องแอร์ ไม่ได้ออกไปเจอแดดไม่มีเหงื่อออกแต่มีแบคทีเรียก็ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้อยู่ดี แต่ถ้าเหงื่อออกขณะที่มีแบคทีเรียอยู่ก็จะยิ่งทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้น เข้าใจง่ายๆว่า ถ้าร่างกายไม่มีแบคทีเรีย จะเหงื่อออกแค่ไหนก็ไม่เหม็น”
5 วิธีขจัดกลิ่นตัวง่ายๆ แต่ได้ผล
1.อาบน้ำให้สะอาด แบคทีเรียที่สะสมบนผิวก็จะมีน้อยลง แต่ไม่ต้องถึงขั้นอาบน้ำด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อนะ เพราะนั่นจะเป็นการทำร้ายผิวอย่างแรง และฆ่าแบคทีเรียที่มีประโยชน์ไปด้วย แค่เพียงใช้สบู่หรือเจลอาบน้ำที่มีประสิทธิภาพช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นตัวได้ดี เลือกสบู่และเจลอาบน้ำที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น เจลอาบน้ำเดทตอล สูตรใหม่ ลาสติ้งเฟรช ที่มีคุณสมบัติทำความสะอาดผิวล้ำลึก กำจัดและลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นกายได้นานถึง 12 ชั่วโมง และมีสารสกัดจากแตงกวาที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวอีกด้วย
2.การใช้โรลออนก็ช่วยได้ เพราะในโรลออนจะมีสารยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จะเลือกยี่ห้อที่มีขายทั่วไปก็ได้ หากใครที่ใช้สารเคมีต่างๆ ไปแล้วไม่ได้ผล ลองมาใช้วิธีธรรมชาติดูกันบ้างเผื่อจะเข้ากับเรามากกว่าเคมีที่มีกลิ่นหอมรุนแรง เช่น หลังอาบน้ำ ใช้สารส้มหรือปูนแดงผสมน้ำทาบริเวณใต้วงแขน
3.ใส่เสื้อผ้าที่หลวม ไม่รัดรูป จะทำให้อากาศผ่านได้สะดวก ช่วยให้ผิวแห้ง ไม่อับชื้น ไม่อบเหงื่อไว้กับตัว โดยเลือกใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี ยิ่งถ้าเป็นผ้าจากใยธรรมชาติ อย่างผ้าฝ้าย หรือผ้าสำลี จะยิ่งระบายอากาศได้ดีมากขึ้น
4.อาหารก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดกลิ่นตัว เครื่องเทศบางชนิด เช่น แกงกะหรี่ และกระเทียม หรืออาหารที่มีกลิ่นแรง สมุนไพรที่มีกลิ่นฉุน เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เพราะมีสารกระตุ้นการระเหยของกลิ่นตัว รวมทั้งอาหารรสจัด เผ็ดร้อนเกินไป ลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ตับ ไข่ ช็อกโกแลต ถั่วลิสง เพราะอาหารเหล่านี้จะกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันให้ผลิตไขมันออกมาก โดยเฉพาะใต้วงแขน ทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้น
5.หลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น มะม่วงสุก ทุเรียน เนื้อสัตว์ติดมัน ของหวาน รวมถึงอาหารขยะต่างๆ ควรเลือกรับประทานอาหารหลากหลาย พวกผัก ผลไม้ที่ให้พลังงานน้อย เช่น แตงโม สับปะรด ฝรั่ง นอกจากจะทำให้สุขภาพดีแล้ว ยังทำให้มีพิษตกค้างในลำไส้น้อยลงด้วย และกลิ่นตัวก็จะลดลงตามไป
ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ที่จะมาเป็นตัวช่วยเพิ่มความมั่นใจ ใช้ชีวิตอย่างไร้กังวลห่างไกลจากเรื่องกลิ่นตัว
เดทตอล สบู่อาบน้ำใหม่ สูตรลาสติ้งเฟรชในซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วประเทศ มีจำหน่ายในขนาด 625 มล. ราคา 165 บาท และแบบก้อนราคา 17 บาท
