ร้านอาหารญี่ปุ่น ริวจิน ซูชิ แอนด์ สาเก บาร์ เพิ่งจะเปิดได้ไม่กี่เดือนมานี้เอง แต่ดูจากลูกค้าที่เข้ามารับประทานค่อนข้างหนาตา ทั้งไทยและญี่ปุ่น จึงเชื่อได้ว่าของเค้าดีจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้โปรโมทอะไรทั้งสิ้น
“ริวจิน” ( Ryu Jin) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “มังกร” ซึ่งชาวประมงญี่ปุ่นเวลาจะออกเรือไปหาปลาจะต้องเซ่นสรวงมังกรให้คุ้มครอง เจ้าของร้านจึงนำชื่อนี้มาตั้งชื่อร้านเพื่อสื่อความหมายว่าร้านนี้เป็นเสมือนมังกรที่อกไปจับปลาสด ๆ มาบรรณาการแก่ลูกค้าเพื่อให้ได้ลิ้มลองความสดความธรรมชาติของอาหารทะเล
แม้จะไม่ได้เป็นมังกรตัวจริง แต่วัตถุดิบที่เป็นอาหารทะเลจะคัดสรรระดับคุณภาพและสั่งตรงมาจากตลาดสึกิจิ(Tsukiji Fish Market) ตลาดขายส่งปลาและอาหารทะเลสด ๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกลางมหานครโตเกียว โดยจะสั่งอาหารทะเลสด ๆ ส่งตรงจากตลาดสึกิจิมายังร้านนี้ถึงสัปดาห์ละ 4 เที่ยวด้วยกันคือ จันทร์ , พุธ ,ศุกร์และเสาร์ เรียกว่าของเค้าสดจริงๆ
สุดยอดความอร่อยของอาหารญี่ปุ่นนั้นคือเน้นเรื่องความสดของวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นปลาหรือเนื้อ ซึ่งเมื่อได้มาแล้วก็พยายามปรุงแต่งให้น้อยที่สุด เพื่อคงความสดหวานอร่อยที่ธรรมชาติสร้างไว้ให้ ดังนั้นทั้งซูชิและซาชิมิจึงต้องกินแบบสด ๆ จึงจะสามารถลิ้มลองให้รู้ว่าความหอมหวานของเนื้อปลาสด ๆ นั้นเป็นของขวัญที่วิเศษของธรรมชาติที่มอบให้แก่นักชิมทั้งหลายจริงแท้แน่นอน
ริวจินเป็นร้านเล็ก ๆ มีประมาณ 40 โต๊ะ จัดเรียงแบบสบาย ๆ โดยมีเคาท์เตอร์ซูชิให้เชฟได้ปั้นซูชิแบบสด ๆ ให้แก่แขกที่นั่งถือตะเกียบรอกินไปดูเชฟปั้นไปแบบเพลิน ๆ ที่ญี่ปุ่นเรียกสไตล์ โอมากาเสะ เค้าเรียกว่าเมนูตามใจเชฟ เพราะเชฟจะเลือกว่าวันนี้มีวัตถุดิบอะไรที่อร่อยบ้าง เพื่อนำมาปั้นซูชิเสิร์ฟให้แก่ลูกค้า
มาร้านนี้กินอะไรดี???? ข้อแนะนำคืออาหารพิเศษจะเขียนคำว่า special menu และถ้าเป็นสุดยอดพิเศษจริง ๆ จะใช้คำว่า Ryu Jin นำหน้าเซ็ตอาหาร
มาเริ่มเมนูซิชิ นิกิริกันก่อน ราคาปกติ 2 คำ ราคาเริ่มที่ 60 บาท เป็นซูชิไข่หวาน ,ครีบปลาตาเดียว Engawa 140 บาท , ตับห่าน Foie Gras 280 บาท , เนื้อมัตสึซากะ 380 บาท และแพงสุดโอโทโร่ เป็นหน้าท้องมันย่องของปลาทูน่า 400 บาท
ประเภทซูชิที่เป็นซิกเนเจอร์นั้นแนะนำให้สั่ง Ryu Jin Tripple Layer (500 บาท +) รวมสามทหารเสือที่เด็ดสุดหั่นชิ้นโต ๆ มาทับซ้อนกันเป็นชั้นสูง มีทั้ง เนื้อมัตสึซากกะ เนื้อสีชมพูมันเงา ตับห่านชิ้นโต และครีบปลาตาเดียว(Engawa) เนื้อหวานมัน
หรือถ้ายังไม่สะใจให้สั่งเซ็ตยอดนิยม Ryu Jin Awesome set (2,200 บาท +) เป็นการรวมเอาเมนูยอดฮิต 8 คำที่ลูกค้ามาแล้วต้องสั่ง มาไว้ในเซ็ตนี้เพื่อไม่ต้องสั่งกันบ่อย ๆ คือ โอโทโร่ หรือเนื้อท้องส่วนหน้าของปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่มันที่สุดและแพงที่สุด , ชูโทโร่ เป็นส่วนเนื้อท้องด้านหลัง ซึ่งมีความมันปานกลาง , อากามิ คือส่วนที่เป็นเนื้อแดงของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ไข่หอยเม่น ตับห่านเผาไฟพอสุก เนื้อมัตสึซากะเผาไฟพอสุก ครีบปลาตาเดียว ปลาแซลมอน
ประเภท Roll & Maki ที่ลูกค้าชอบสั่งคือ ข้าวห่อเนื้อมัตสึซากะ (800 บาท+) เป็นข้าวห่อแบบสามเหลี่ยม ภายในอัดแน่นไปด้วย ตับห่าน ครีมชีส อโวคาโด ห่อด้วยข้าวแล้วพันทับด้วยเนื้อมัตสึซากะเห็นมันเป็นริ้ว ๆ น่ากินมาก ก่อนเสิร์ฟเชฟจะใช้ไฟพ่นเหมือนย่างเนื้อให้ด้านนอกสุกเล็กน้อย ซึ่งจะให้ความหอมของมันที่แทรกเมื่อโดนไฟ ราดด้วยน้ำซอส 2 รสคือซอสสีเข้มรสหวาน ส่วนซอสสีน้ำตาลรสเค็ม เมื่อกินกับมากิโรลล์คำนี้แล้ว หอมอร่อยมาก ๆ
ส่วนซาชิมิ ถ้าขี้เกียจสั่งมาหลาย ๆ จานก็สั่งซิกเนอเจอร์เซ็ตใหญ่ที่รวมเอาของทะเลเด็ดสุดที่ได้จากตลาดสึกิจิในแต่ละวันมาจัดเป็น Ryu Jin so Fresh 8 คำ (3,500 บาท+) หรือ Sashimi set A (3,200บาท+) ประกอบด้วย โอโทโร่ , มากูโร่ , ปลากะพงแดงญี่ปุ่น Madai , ปลาหางเหลือง (Hamaji) , กุ้งหวาน , แซลมอน ,หอยเชลล์และหนวดปลาหมึก
อีกเมนูที่ควรสั่งมาลิ้มลองให้ได้คือ สลัดริวจิน (380 บาท +) หรือสลัดปลานั่นเอง เพราะรวมเหล่าปลาเนื้ออร่อยอยู่ในจาน อาทิ แซลมอน ปลาหางเหลือง hamaji , ปลากะพงแดงญี่ปุ่น Madai , หอยเชลล์ ทอปด้านบนด้วยไข่ปลาแซลมอน ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มสูตรพิเศษของเชฟที่ปรุงรสชาติครีมมีแต่ออกรสเผ็ดเล็กน้อยมาช่วยให้ลิ้นคนไทยกินสลัดปลาได้แซบขึ้น
ยำปลาแซลมอน (220 บาท+) หน้าตาไม่เหมือนญี่ปุ่นแล้วเพราะใส่ทั้งตะไคร้ซอย หัวหอมใหญ่ พริกขี้หนู บีบมะนาว ออกรสแซบหลาย
เมนูยังมีให้สั่งอีกมากมายละลานตาไปหมด แต่ที่ร้านนี้จะเน้นเครื่องดื่มประเภทสาเกจำนวนมากเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับความแปลกใหม่ของสุราอมฤตที่ชาวอาทิตย์อุทัยปลาบปลื้มนักหนา ซึ่งมีทั้งTaru Sake และ Ozeki silver ที่เสิร์ฟในกล่องไม้ไผ่ ซิกเนเจอร์ก็มีสปากลิ้งสาเกซึ่งเป็นของแปลกใหม่น่าลิ้มลอง สาเกสด สาเกร้อน เป็นต้น
ร้าน Ryu Jin Sushi & Sake Bar เปิดบริการตั้งแต่จันทร์-ศุกร์เวลา 11.00 - 14.00 น.และ 17.00 - 22.30 น. ส่วนเสาร์ - อาทิตย์ เปิด 11.00 - 22.30 น. ตั้งอยู่ที่โครงการ The Up ถนนพระราม 3 อาคาร B ชั้น 1 โทร.02-116-5879 / 081-552-3698 / 086-366-6999
เรื่องโดย : ปราณ ชีวิน
ภาพโดย : วชิร สายจำปา