xs
xsm
sm
md
lg

ศรัยฉัตร จีระแพทย์ จาก MC คิวทองสู่สาวบล็อกเกอร์เฮลตี้ตัวแม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>ขอใช้คำว่า “Alert” กับผู้หญิงคนนี้ เพราะถ้าจะให้พูดสโคปถึงสิ่งที่เธอทำนั้นถ้าไม่ใช่คนที่มีใจรักจริงๆ หรือมีความตั้งใจก็คงจะไม่ทำอะไรมากมายเช่นนี้ “หนิง-ศรัยฉัตร จีระแพทย์” ผู้หญิงที่เราคุ้นภาพเธอยืนถือไมค์เป็นพิธีกร หรือ MC ดำเนินรายการตามงานอีเวนต์ แต่วันนี้เธอไม่ใช่แค่ MC คิวทอง แต่เธอกลายเป็นไอดอลในเรื่องของการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ จากการที่เธอแชร์เรื่องราวผ่าน “บล็อก” ที่มีคนเข้าไปอ่านเรื่องราวของเธอหลายหมื่นคน

แม้เธอจะบอกกับเราว่างานหลักของเธอคือการเป็น “แม่บ้าน” เพราะเธอต้องดูแลสามีและลูก แต่งานที่รักและทำมาแล้ว 6 ปีก็คือ พิธีกรงานอีเวนต์ ซึ่งยังคงไม่เลิกในเร็วๆ นี้เป็นแน่ เธอยังเป็นพิธีกรรายการทีวี เป็นนักเขียนพ็อกเกตบุ๊กเกี่ยวกับการพูด “พูดเป็น เก่ง มั่น สไตล์ หนิง ศรัยฉัตร” ที่เกิดมาจากการรวบรวมประสบการณ์การทำงานการเป็นพิธีกรงานอีเวนต์ต่างๆ เป็นวิทยากรรับเชิญ และล่าสุดเธอยังแอบผันตัวเองไปเป็นบล็อกเกอร์ เขียนเล่าทุกเรื่องราวที่เป็นไลฟ์สไตล์ของคน

“ถ้าถามว่าชอบงานไหนมากที่สุดขอบอกว่า ชอบการทำงานเป็นพิธีกรและการทำอีเวนต์ เพราะแป๊บเดียวเสร็จ เราจะได้มีเวลาดูแลลูกและครอบครัว นอกเหนือจากตรงนี้หลังหยุดทำรายการไปนาน ล่าสุดเพิ่งรับงานพิธีกรรายการโทรทัศน์ ชื่อ “เเพรว เดอะ เจ็ตเซต” ให้กับช่องอัมรินทร์ทีวี ซึ่งส่วนหนึ่งรู้สึกเป็นเกียรติที่เขาเลือกให้เราเป็นพิธีกร งานนี้เราได้ไปเจอคนเก่งๆ ในแวดวงสังคม และได้ข้อคิด ได้ประสบการณ์จากการสัมภาษณ์คนเยอะมาก

มีคนถามนะว่าอยากทำอะไรอีกไหม มีอีกเยอะเลยล่ะ บางครั้งก็มีคนให้เราไปเป็นวิทยากร บรรยายสอนการพูด ที่มหาวิทยาลัยบ้าง บริษัทต่างๆ บ้าง เราก็มองว่าเป็นโอกาสที่ดี ยังแอบวางแผนว่าจะเป็นงานในอนาคตของเราได้

งานล่าสุดที่ทำแล้วรู้สึกว่าฟีดแบ็กดีมาก คือการทำบล็อกของเราขึ้นมา ชื่อว่า “saraichatt.com” อันนี้เริ่มมาจากการที่เราทำงานอีเวนต์ แล้วสังเกตว่าเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่มีแต่บล็อกเกอร์มาร่วมงาน ก็เลยสนใจอยากแชร์เรื่องราวบ้าง หลังจากที่ทำบล็อกออกไป เริ่มมีคนมาทักทายมากขึ้น”

เริ่มสร้างบล็อก

จุดเริ่มต้นสนใจที่เธออยากจะลองหางานใหม่ใส่ตัวก็คือ การที่ได้เป็นพิธีกรต่างๆ และได้รู้เรื่องราวอินไซด์แบบที่คนอื่นไม่รู้ ทำให้เธออยากนำมาแบ่งปัน ประกอบกับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คำว่า “บล็อกเกอร์” ดูเหมือนเป็นสื่อใหม่ที่มีอิทธิพลในการเผยแพร่ข้อมูลอีกทางหนึ่ง เธอจึงเริ่มเขียนบล็อกขึ้นมาให้เหมือนกับเป็นไดอารีเก็บบันทึกเรื่องราวดีๆ ที่คนทั่วไปสามารถเข้ามาอ่านไดอารีของเธอได้

“บล็อกเกอร์ก็เหมือนกับคนเขียนไดอารีเล่มนึงที่เจ้าของไปเจออะไรมาก็มาเล่าให้คนในโลกอินเทอร์เน็ตอ่านกัน มานั่งคิดว่าชีวิตเราก็น่าสนใจ เราเป็นพิธีกร แต่ละวันงานไม่เหมือนกันเลยสักวัน วันนึงเรื่องสวยงาม การตลาด เทคโนโลยี หรืออาจจะเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่บางคนก็ไม่รู้ จึงคิดว่าน่าจะเอาเรื่องเหล่านั้นมาเขียนลงบล็อกของเราดีกว่า

ตอนแรกคิดว่าจะโฟกัสแต่เรื่องบิวตี้ แต่ชีวิตเรามีเรื่องที่ค่อนข้างจะหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน ครอบครัว การรักษาสุขภาพ ท่องเที่ยวก็มี ก็เลยจุดประกายเริ่มจากปีที่แล้วไปเที่ยวล่องเรือครุยส์ พอกลับมาก็ลองเขียนเป็นเรื่องแรกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบล่องเรือ
เขียนภาษาง่ายๆ ของเราเอง แล้วก็แชร์ให้คนอ่าน ทยอยลงหลายๆ เรื่อง ในขณะเดียวกันที่เราทำควบคู่ไปด้วยก็คือ ใน IG ส่วนตัวที่เราลงเรื่องการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตอนหลังจึงแบ่งมาลงในบล็อกด้วย บล็อกของเรามีหลายเรื่องเพราะชีวิตเรามีหลากหลาย ทั้งบิวตี้ อาหาร สุขภาพ ท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ ครอบครัว เรื่องลูก ก็เลยเป็นที่มาของบล็อก แต่ก็ไม่ได้เป็นบล็อกเกอร์เต็มตัว เรามีบล็อกเอาไว้แชร์เรื่องราวดีๆ”

ช่องทางการสร้างรายได้

จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการแบ่งปันเรื่องสุขภาพและไลฟ์สไตล์ส่วนตัว จุดนั้นยังเป็นช่องทางหนึ่งในการสร้างงานและเรียกเงินเข้ากระเป๋าได้อีกทางหนึ่ง เพราะคนให้ความเชื่อถือในสิ่งที่เธอตั้งใจแบ่งปันกับผู้อ่าน และเธอเองก็คัดกรองมาแล้วว่าสิ่งนั้นเหมาะสมที่จะแบ่งปันจริงๆ ไม่เน้นในเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจ


“มีโฆษณาอยู่ในบล็อกของเราบ้าง บล็อกหนิงเหมือนไดอารีที่คนคิดถึงก็กดเข้ามา ไม่ได้อัปบ่อยหรือถี่ เพราะมันไม่ใช่ IG ที่จะมาลงรูปถี่ๆ ได้ เพราะคนเราต้องใช้เวลาในการอ่าน เลยคิดว่าเดือนละเรื่องหรือสองเดือนเรื่องกำลังพอดี คัดเรื่องที่เราคิดว่าน่าสนใจ เช่น ต้นปีที่ผ่านมาหนิงกินน้ำผักดีท็อกซ์ร่างกาย ก็เลยเขียนเรื่องน้ำผัก ปรากฏว่ามีลูกค้าติดต่อเราเข้ามาอีกเยอะมาก เพราะว่าลูกค้าเข้ามาอ่านเรื่องที่เราเขียนแล้วถูกใจ ก็เลยกลายเป็นบล็อกที่ค่อนข้างหลากหลาย แต่หนักมาทางสุขภาพมากกว่า


ช่วงแรกๆ ที่ทำจำได้ว่าเปิดบล็อกมาได้แค่ 3 อาทิตย์ มีลูกค้าติดต่อเข้ามาให้ลง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการออมเงิน ซึ่งก่อนที่เราจะเขียนเราต้องศึกษาก่อน เพราะนำเสนอให้เป็นสไตล์ของเรา เชื่อไหมว่าอ่านแล้วรู้สึกเป็นประโยชน์จริงๆ หนิงไปถอนเงินจากแบงก์นึงไปเข้าแบงก์ของเขาเลยเพราะรู้สึกว่าเป็นสิ่งดีจริงๆ ต้องบอกต่อ พอลงเรื่องออมเงินไปคนก็มาอ่านเยอะมาก กลุ่มคนที่เข้ามาอ่านบล็อกหนิงค่อนข้างจะหลากหลาย มีทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือจะเป็นสาวออฟฟิศเพราะเรามีหลากหลายเรื่อง


ข้อดีอีกอย่างของการเขียนบล็อกคือไม่ต้องสละสลวยเหมือนวรรณคดี เขียนพอเข้าใจ เพราะคนส่วนใหญ่ที่อ่านบล็อกไม่ได้ต้องการแค่เนื้อหาสำคัญแล้วก็ความคิดเห็นของเราและวิธีการนำเสนอ หนิงพยายามเสนอให้เข้าใจง่ายมากที่สุด ขายความเป็นตัวเองในบล็อก เพราะต่อให้สินค้าอยากให้เราเขียนแบบที่เขาต้องการ แต่ถ้าไม่ใช่ตัวหนิง หนิงบอกเลยว่าไม่เขียน ยังไงขอให้เป็นตัวหนิงก่อน”


แชร์เรื่องสุขภาพ

เรียกได้ว่าบล็อกของหนิง ศรัยฉัตร เป็นบล็อกที่ได้รับการพูดถึงและแชร์ในเรื่องของสุขภาพ การดูแลตัวเองมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น เทรนด์เรื่องการออกกำลังกายด้วย T25 นั้นเธอเองเคยเขียนรีวิวมาก่อนแล้วเป็นปี


“ตอนนี้เทรนด์ที่มาแรงที่สุด คือ เรื่องออกกำลังกาย เดินไปไหนจะมีแต่คนทักเราเรื่องออกกำลังกาย เริ่มจากความชอบของเราเอง คือเล่น Insanity มาก่อน ก่อนที่จะมีบล็อก ทุกครั้งที่เล่นก็จะแชร์เพราะอยากรู้ว่ามีใครในเมืองไทยเล่นเหมือนเราไหม การที่เราออกกำลังกายเป็นความสุขอย่างนึง เรารู้สึกดี ก็อยากถ่ายรูปแชร์ให้คนอื่นบ้าง เผื่อจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ได้ดูแลสุขภาพตัวเอง เหตุผลมีแค่นั้นเอง

พอเราเขียนถึง Insanity สักพักเว็บของเขาก็มี T25 ออกมา ด้วยความที่เป็นแฟนคลับของเว็บนี้อยู่แล้ว ก็สั่งซื้อทันที เป็นคนแรกในเมืองไทยที่จะเล่นเลย เล่นไปได้สัก 2 เดือนก็แชร์ลงบล็อก ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครสนใจอ่านเลย จนกระทั่งดาราเขาเริ่มมาเล่นก็เลยเป็นกระแส พอคนเสิร์ชหาข้อมูลก็เจอว่าหนิงนี่แหละเคยรีวิวไว้ จนตอนนี้ยอดผู้อ่านพุ่งไปหลายแสนวิวแล้ว

นอกจากนั้นก็มีเรื่องอื่นๆ ที่คนอ่านเยอะๆ อย่างเช่น เรื่องการทำน้ำพันช์ ตอนนั้นไปปาร์ตี้บ้านเพื่อน แล้วเพื่อนสอนทำ ทำให้เรารู้ว่าการทำน้ำพันช์ง่ายมาก เลยขอสูตรนี้มาเขียนแชร์ในบล็อก แล้วปรากฏว่าตอนนี้ยอดวิวสูงมากเพราะทุกคนอยากรู้ว่าน้ำพันช์ทำยังไง แล้วก็มีคนกดแชร์ต่อเนื่องไปเยอะๆ แต่เรื่องที่คนอ่านสูงสุดก็ยังคงเป็นเรื่องของการออกกำลังกายอยู่”


จุดเริ่มต้นรักเอ็กเซอร์ไซส์

เห็นว่าเป็นตัวแม่ในการออกกำลังกายขนาดนี้ เพราะเธอมีแรงขับและการปลูกฝังที่ดีในการออกกำลังกาย และยิ่งมาเจอกับสามีที่มีความชอบเหมือนกัน คราวนี้การออกกำลังกายจึงเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตครอบครัวของเธอเลย

“สมัยเด็กเห็นคุณแม่ออกกำลังกายและท่านจะพาเราไปเต้นแอโรบิกด้วย เหมือนเป็นอิทธิพลมาจากการที่คุณแม่ทำให้เราดู พอย้ายไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาตอนประมาณ 8-9 ขวบเราไปอยู่กับคุณยาย ตอนนั้นมี “เจน ฟอนด้า” ดารารุ่นเก่าที่เขาจะเต้นแอโรบิกทำวิดีโอเทปออกมา เราก็เปิดเทปเต้นที่บ้าน พอกลับมาเมืองไทยก็ยังเอาเทปตลับนั้นกลับมาเมืองไทยด้วย และเต้นบ้างช่วงเรียนอยู่จุฬาฯ พอเรียนจบไปเรียนต่อฮอลแลนด์ก็ไปสมัครยิมข้างๆ อพาร์ตเมนต์ ออกกำลังกายอีก


จนกระทั่งกลับมาเมืองไทยเริ่มทำงาน มาเจอกับพี่โบ๊ท (จามร จีระแพทย์) สมัยนั้นพี่โบ๊ทมาจีบเราแบบแนวหนุ่มก้ามปูฟิตๆ เลย เราใช้เวลาจีบกันบนลู่วิ่งในยิม (หัวเราะ) ถ้าใครที่รู้จักหนิงจริงๆ จะรู้ว่าหนิงตื่นตี 5 มาออกกำลังกายทุกวันอยู่แล้ว แต่จุดเปลี่ยนคือหลังมีลูก พบว่าเราติดลูกมาก เราไม่อยากออกกำลังกายแล้ว ทำงานเสร็จก็อยากจะเจอหน้าลูก รู้สึกว่าไม่มีความสุขกับการออกกำลังกาย สามีก็ไม่ไปเล่นแล้วเขาก็อ้วน จนตอนหลังสามีทนไม่ไหว จึงไปหาในอินเทอร์เน็ตว่ามีการออกกำลังกายอะไรที่สามารถเล่นที่บ้านได้บ้าง จนไปเจอ Insanity โดยที่พี่โบ๊ทเป็นคนเล่นก่อน แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจของหนิง”


ผลพลอยได้จากการออกกำลังกาย

เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้ ทำให้เราเริ่มมีแรงบันดาลใจเล็กๆ ในการอยากลุกขึ้นมาออกกำลังกายบ้าง แต่สิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้คือผลพลอยได้ที่ทั้งคู่ได้มาจากการออกกำลังกายที่ช่วยรักษาโรคบางโรคให้หายไปจากชีวิต อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้ลองปฏิบัติเอง!


“ช่วงอาทิตย์แรกที่พี่โบ๊ทเล่น Insanity มันเป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างหนัก เหมือนการที่หัวใจเต้นต่อเนื่องไม่ได้พัก หายใจแทบไม่ทัน แล้วเขาเป็นโรคหอบหืดจะต้องคอยพ่นยา แต่พออาทิตย์ที่ 2 เขาไม่พ่นยาเลยนะ เขาบอกแข็งแรงขึ้น พออาทิตย์ที่ 3 เริ่มมีกล้ามเนื้อ พอครบ 2 เดือนเขาเดินมาอวดซิกแพกเรา น้ำหนักเขาลงไป 7 กิโลกรัม เพราะเขาออกกำลังกายทุกวัน และควบคุมอาหาร


พอเห็นแบบนั้นก็คิดว่าพี่โบ๊ททำได้เราก็ต้องทำได้ ลุกขึ้นมาเล่นบ้าง วันแรกเกือบตายเพราะเหนื่อยมาก ไม่เคยเหนื่อยอะไรขนาดนั้นมาก่อน แต่พอออกไปได้สัก 4-5 วัน สิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดคือไมเกรนหาย และหายไปจากชีวิต! แล้วเราก็ยังออกต่อไป รู้เลยว่าร่างกายของเราเกิดการเปลี่ยนแปลง คือแข็งแรงขึ้น ผิวพรรณมีน้ำมีนวล มีกล้ามเนื้อ รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเหมือนกลับมาเป็นสาวอีกครั้งหนึ่ง


การออกกำลังกายทำให้เราติด ทุกเช้าต้องตื่นมาออกกำลังกาย เปิดแผ่นแล้วทำตามเขานั่นแหละ ไม่ต้องไปยิม ไม่ต้องรถติด ไม่ต้องเสียค่าเมมเบอร์ ไม่ต้องจ้างเทรนเนอร์ อยากออกเมื่อไหร่ก็ออก เราทั้งสองคนบ้าสุขภาพจนถึงขนาดว่าจะทำธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพกันแล้ว”


เปิดเมนูศรัยฉัตร

ไม่ใช่แค่เรื่องของการออกกำลังกายเท่านั้น เพราะถ้าหากอยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอย่างยั่งยืนต้องดูแลเรื่องอาหารการกินด้วย


“บางคนซิตอัพเป็นร้อยๆ ครั้งแต่สุดท้ายก็กินแหลก อันนั้นไม่ช่วยอะไรเลย แต่ถ้าคุณทานอาหารที่เป็นประโยชน์ รับรองยังไงหุ่นก็ดี หนิงออกกำลังกายเพื่อให้หัวใจแข็งแรงและอีกอย่างคือทำให้มีความสุขกับการกิน เรื่องอาหารยอมรับว่าพออายุมากขึ้น การเผาผลาญลดลง ฉะนั้นวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เราจะกินโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตน้อยๆ เน้นกินสลัด ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์เราให้รางวัลตัวเอง กินตามใจบ้าง พอร่างกายปรับสมดุลตัวเองน้ำหนักจะลงเองโดยอัตโนมัติ”


สำหรับใครที่อยากรู้ว่าแล้วเมนูของคนที่รักสุขภาพนั้นจะเป็นอย่างไร เราได้ลองไล่เมนูอาหารที่คุณหนิงกินในชีวิตประจำวันมาบอกเล่าสำหรับคุณผู้อ่านทุกคน โดยเมนูของหนิง ศรัยฉัตร มีดังนี้


“ตอนเช้าหนิงชอบทานข้าวต้ม ก็จะมีผัดผัก ไข่เจียว กุ้งยำ ทานกันง่ายๆ ซึ่งมื้อเช้าต้องกินนะถ้าวันไหนไม่กินเราก็จะโหย พูดเลยว่าที่คนอ้วนกันนั้นเพราะไม่กินตอนเช้า นั่นเพราะร่างกายเราฉลาด ยิ่งเราไม่กินมันจะยิ่งกักตุนไขมัน สังเกตไหมคนที่ไม่กินข้าวจะยิ่งอ้วน ส่วนคนที่กิน 5 มื้อต่อวันเขาจะเบิร์นตลอดเลย เพราะเราไม่ทำให้ร่างกายหิว


กลางวันก็ขึ้นอยู่กับงาน บางวันก็กินข้าวกล่องง่ายๆ แต่ถ้าช่วงไหนรู้สึกอึดอัด กินเกาเหลาง่ายที่สุดเลย อย่าเน้นเส้นให้มากนัก บ่ายๆ ก็กินแซนด์วิชโฮลวีต เติมท้องไม่ให้หิวจนเกินไป


ส่วนข้าวเย็นหนิงเป็นคนที่กินข้าวเย็นที่บ้านตลอด ถึงเสร็จ 2 ทุ่มก็ไปกินที่บ้าน อย่างน้อยเป็นสลัดนิดๆ หน่อยๆ เข้าท้อง แต่ถ้าเรารู้ว่าวันนี้เลิกดึกก็กินก่อนทำงานนิดนึงขอเบาๆ กลับถึงบ้านก็ไม่กินแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีติดบ้านคือผลไม้ แอปเปิล ฝรั่ง ชมพู่ เป็นของหวานหลังอาหารเย็นเพื่อให้เป็นกากอาหารในร่างกาย ตอนเช้าจะได้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องขับถ่าย”


สมญานามเจ้าแม่สุขภาพ

จากที่เมื่อก่อนคนมองภาพว่าเธอคือเจ้าแม่ MC เพราะไม่ว่าจะงานไหนๆ มักจะมีเธอเป็นผู้ดำเนินรายการเสมอ แต่ตอนนี้เธอมีสมญานามใหม่ให้เธอเป็นเจ้าแม่สุขภาพ หรือเจ้าแม่ T25 เพราะเธอเป็นคนแรกๆ ที่ออกกำลังกายด้วย T25


“เป็นเรื่องที่ดีถ้าคนจะมองว่าเราเป็นเจ้าแม่สุขภาพ จริงๆ เราเป็นเจ้าแม่สุขภาพมานานแล้ว เพียงแต่ว่าสมัยก่อนไม่มี IG ไม่มี facebook ไม่มีช่องทางให้คนได้เห็น จนกระทั่งเทคโนโลยีแบบนี้เข้ามาถึงเราก็อยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคน บางทีโพสต์รูปไปก็มีคนมาโพสต์ขอบคุณที่เอามาลงทำให้เขามีแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย ดีใจที่การโพสต์ของเราเป็นสิ่งที่ส่งให้คนอยากมีสุขภาพที่ดี


เมื่อก่อนไปไหนมาไหนมีคนทักเป็นพิธีกร แต่เดี๋ยวนี้มีคนทักว่าพี่เป็นไอดอลหนูเลย หนูอยากออกกำลังกายเพราะพี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขได้ในแต่ละวัน ดีใจที่เรามีแฟนคลับน่ารักๆ ส่งของมาให้ที่บ้าน หนังสือบ้าง ดีใจว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เราสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ได้หันมาดูแลสุขภาพตัวเอง


ถ้าออกกำลังกายแล้วเราจะเห็นคุณค่าของตัวเอง และความเครียดก็จะลดลง บอกตรงๆ บางทีก็ไม่อยากลงรูปเยอะ ก็กลัวคนด่าแบบว่าจะอะไรนักหนา! ก็มีบ้างที่เมาท์ว่าเราออกกำลังกายจริงหรือเปล่า หนิงก็ว่า แหม...ฉันคงไม่ว่างขนาดแต่งตัวทุกเช้าแล้วมาแสร้งว่าออกกำลังกาย แต่ก็คิดซะว่าเป็นสิ่งดีๆ ที่อยากแบ่งปันให้คนอื่นแล้วกัน”


หลังจากจบบทสนทนาครั้งนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากที่จะจัดระเบียบชีวิตตัวเองเสียใหม่ และเอาแรงบันดาลใจจากคุณหนิง ศรัยฉัตร มาดูแลสุขภาพของตัวเอง ถ้าอย่างนั้นเรามาออกกำลังกายกันเถอะ!!


10 การออกกำลังกายง่ายๆ สำหรับคนขี้เกียจ

1. แนะนำให้เข้าไปที่ www.beachbody.com เว็บนี้มีการออกกำลังกายแบบสนุกๆ หลายแบบ แต่ส่วนตัวหนิงชอบ Insanity กับ T25 ที่สุดแล้ว
2. วิ่งบนเครื่อง Cross training บางทีการวิ่งอาจมีความเสี่ยงต่อเข่า แต่เครื่อง Cross Training จะไม่หนักเท่าการวิ่ง และเรายังได้ออกกำลังกายแขนด้วยขาด้วย
3. โยคะ ลองเปิดหาจากยูทูปก็มีให้เลือกหลายแบบ
4. แอโรบิก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแผ่นเต้นที่บ้าน หรือไปเต้นตามสวนสาธารณะก็ดีทั้งนั้น
5. การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยหัวใจได้ดีมาก
6. ว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับทุกวัย คนท้องก็สามารถออกกำลังกายในน้ำที่มีลักษณะเหมือนการเต้นแอโรบิกในน้ำ นอกจากนี้ยังปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้สูงอายุอีกด้วย
7. เลือกที่จะเดินขึ้นลงบันได แทนการกดลิฟต์
8. ปั่นจักรยานที่กำลังเป็นเทรนด์ฮิต
9. ไปเล่นโบว์ลิ่งกับครอบครัวก็ถือเป็นการออกกำลังกายแล้ว อีกทั้งยังได้กระชับความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวด้วย
10. ทำงานบ้านถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะได้เหงื่อแล้วยังทำให้บ้านสะอาดเป็นระเบียบด้วย

มาออกกำลังกายกันเถอะ!!

เตรียมความพร้อม :: ในการออกกำลังกายควรเลือกเสื้อผ้าสวมสบายและมีความยืดหยุ่น และที่สำคัญคือรองเท้า เพราะการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นการเต้นแอโรบิก T25 หรือกระทั่งการวิ่ง ถ้าเราไม่มีการเตรียมตัวที่ดีอาจก่อให้เกิดผลร้ายกับร่างกายในอนาคตได้ เช่น เข่าได้รับบาดเจ็บ เดี๋ยวนี้รองเท้าก็มีหลากหลายประเภท ต้องเลือกที่เหมาะกับการออกกำลังกายและเลือกที่มีคุณภาพ แม้ว่าจะออกกำลังกายอยู่ในบ้านก็ต้องใส่รองเท้าด้วยเช่นกัน
สำหรับคุณผู้หญิงต้องใส่ใจเรื่องของบราด้วย เพราะการวิ่ง หรือการเต้น อาจมีแรงกระแทก ดังนั้นคุณควรจะใส่บราที่ซัปพอร์ตหน้าอกของเราในการออกกำลังกายได้

เลือกประเภท :: ดูความชอบ และจริตของตัวเอง บางคนอาจจะชอบการออกกำลังกายแบบไม่ต้องเร้าใจมากก็แนะนำให้เป็นโยคะเพื่อความยืดหยุ่นของร่างกาย แต่ถ้าชอบแบบเร้าใจและอยากออกกำลังกายเพื่อหัวใจแข็งแรง ก็อาจจะเป็นการเต้นแอโรบิก หรือ T25 แต่ถ้าชอบชมนกชมไม้ชอบอยู่กับธรรมชาติ การวิ่งในสวนสาธารณะ หรือวิ่งรอบบ้านก็เป็นการออกกำลังกายเหมือนกัน

ผลลัพธ์ที่จะได้จากการออกกำลังกาย :: สุขภาพแข็งแรง เลือดสูบฉีด หากออกกำลังกายตอนเช้าจะทำให้เรามีพลังไปทั้งวันเลย สุขภาพดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง หนิงว่าเราแค่ดูแลร่างกายของเราให้สมส่วนกระชับ พยายามคิดว่าเราออกให้หัวใจเราแข็งแรงเป็นหลักไม่ใช่ว่าออกเพื่อให้ผอม ผอมนั้นเป็นผลพลอยได้ที่มาจากความกระชับของกล้ามเนื้อ แล้วท้ายที่สุดแล้ว พอเราเห็นผลว่าเกิดประโยชน์สูงสุดกับตัว เมื่อนั้นเราก็จะบอกตัวเองว่าฉันต้องทำต่อไปเรื่อยๆ ฉันมีความสุขกับการออกกำลังกาย และจิตใจเราก็จะมีความสุขไปด้วย :: Text by FLASH

ขอบคุณสถานที่ถ่ายภาพ โรงแรม S31 สุขุมวิท 31 โทรศัพท์ 0-2260-1111




กำลังโหลดความคิดเห็น